ยิ้มรับสูงวัย สุขภาพกายปลอดภัย สุขภาพใจแข็งแรง

พุธ ๑๕ มีนาคม ๒๐๒๓ ๑๓:๑๘
ข้อมูลจากระบบสถิติทางการทะเบียนในปี 2565 แสดงให้เห็นว่าประเทศไทยได้เข้าสู่ "สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์" ประเมินได้จากจำนวนประชากรไทยที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปนั้นสูงถึงกว่า 12 ล้านคน โดยคิดเป็นอัตราส่วนที่มากถึง 18.3% ของประชากรทั้งหมด ซึ่งตัวเลขดังกล่าวสวนทางกับสถานการณ์เด็กเกิดใหม่ที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด ด้วยปัจจัยหลายอย่างทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม รวมถึงค่านิยมที่เปลี่ยนไป และคาดการณ์ว่า ภายในปี 2574 ประเทศไทยจะมีอัตราประชากรผู้สูงอายุสูงขึ้นถึง 28% ซึ่งถือว่าเข้าสู่ "สังคมผู้สูงอายุระดับสุดยอด" (Super-Aged Society) อย่างเป็นทางการ

ปฏิเสธไม่ได้ว่าเมื่อเข้าสู่ภาวะสูงวัย ต้องพบกับความเปลี่ยนแปลงหลายด้าน โดยเฉพาะสุขภาพที่ร่วงโรยไปตามกาลเวลา ดังนั้น การเตรียมความพร้อมให้กับผู้สูงอายุ รวมถึงครอบครัวหรือผู้ที่ต้องดูแลใกล้ชิด จึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะช่วยให้กลุ่มผู้สูงวัยสามารถปรับตัวและพร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น ด้วยสุขภาพกายและใจที่แข็งแรง พร้อมใช้ชีวิตในอีกช่วงวัยอย่างมีความสุข

สุขภาพกายปลอดภัย

แน่นอนว่าเมื่ออายุมากขึ้น ย่อมเกิดความเปลี่ยนแปลงต่างๆ กับร่างกาย ไม่รู้สึกคล่องตัวเหมือนก่อน ความแข็งแรงทางร่างกายถดถอยลงไปตามอายุที่เพิ่มขึ้น ประสิทธิภาพการทำงานของระบบต่างๆ เริ่มเสื่อมสภาพลง ทำให้เกิดการเจ็บป่วยและเสี่ยงต่อโรคภัยได้ง่ายขึ้น เพราะระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายลดลง จึงต้องให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุมากเป็นพิเศษ ทั้ง การเสริมความรู้ด้านโภชนาการ เพื่อเพิ่มความเข้าใจในการเลือกรับประทานอาหารให้เหมาะสม ซึ่งแต่ละคนมีความต้องการพลังงานและสารอาหารที่ต่างกัน รวมถึงการปรับพฤติกรรม หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง อาหารรสจัด เป็นต้น

ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อย 15-20 นาทีต่อวัน จะช่วยรักษาความแข็งแรงและยังช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย โดยเลือกการออกกำลังกายที่ใช้กล้ามเนื้อมัดใหญ่และแรงกระแทกต่ำ เช่น การเดินแกว่งแขน ว่ายน้ำ หรือกิจกรรมอื่นๆ ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ผู้ดูแล เพื่อเสริมการทำงานของระบบหัวใจและหลอดเลือด รวมถึงกิจกรรมประเภทแอโรบิค โยคะ หรือไทเก๊ก เพื่อช่วยเสริมการทรงตัวให้กับผู้สูงอายุ

ผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ควรเข้ารับการ ตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี เพราะนอกจากจะเป็นการเฝ้าระวังและดูแลร่างกายให้อยู่ในเกณฑ์ปกติแล้ว ยังเพิ่มโอกาสในการตรวจพบโรคได้เร็ว ลดความเสี่ยงการเกิดโรคแทรกซ้อน ทำให้แพทย์สามารถทำการรักษาได้ตั้งแต่ในระยะเริ่มต้น ซึ่งการดูแลสุขภาพเชิงป้องกันดังกล่าวยังรวมถึง การเสริมภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย โดยเฉพาะในปัจจุบันที่โควิด-19 ยังคงเป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง เพราะผู้สูงอายุถือเป็นกลุ่มประชากรที่มีความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยรุนแรงหรือเสียชีวิตจากโควิด-19 มากกว่าคนทั่วไป จึงควรได้รับการเสริมภูมิคุ้มกันให้สามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับโควิด-19 ได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น

ปัจจุบัน นอกจากการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น ผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป สามารถเสริมภูมิคุ้มกันเพื่อป้องกันโควิด-19 ได้ด้วยการเข้ารับ แอนติบอดีออกฤทธิ์ยาวแบบผสม หรือ LAAB (Long-acting Antibody) ซึ่งเป็นภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป ตามที่กระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศเพิ่มการใช้ LAAB ในกลุ่มผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป รวมถึงผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง ทั้งที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 หรือได้รับวัคซีนเข็มสุดท้ายตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไป โดยสามารถแจ้งแพทย์ผู้ให้การรักษาหรือสอบถามสถานพยาบาลใกล้บ้าน เพื่อให้แพทย์ได้ประเมินและดำเนินการแจ้งความจำนงขอรับยาต่อไป

สุขภาพใจแข็งแรง

นอกจากสุขภาพกายแล้ว สุขภาพใจของผู้สูงวัยก็ต้องได้รับการดูแลเช่นกัน เพราะผู้สูงอายุต้องเผชิญกับภาวะความแปรปรวนภายในจิตใจ จากปัญหาความเครียดและความวิตกกังวลอันเนื่องมาจากปัจจัยทั้งภายในและภายนอก ซึ่งรวมถึงการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนในร่างกาย ที่ส่งผลต่อสภาวะทางอารมณ์ของผู้สูงวัยด้วย

อีกหนึ่งปัจจัยที่กระทบต่อสภาพจิตใจผู้สูงวัยไม่น้อย คือ ความรู้สึกไร้คุณค่าหลังเกษียณงาน แนะนำให้ลอง หากิจกรรมยามว่างหรืองานอดิเรก ที่ตัวเองถนัด เพื่อช่วยผ่อนคลายและเสริมสร้างกำลังใจ เช่น การปลูกต้นไม้ (ได้เฝ้าดูการเติบโตทุกวัน) การออกไปพบปะเพื่อน ๆ (ได้แลกเปลี่ยนมุมมองและคลายความเหงา) การทำงานฝีมือ (ได้ฝึกทักษะและสร้างความภูมิใจในตนเอง) การออกกำลังกาย (ได้สุขภาพที่แข็งแรงพร้อมสร้างพลังใจที่แจ่มใส) ไปจนถึง การเลือกดูซีรีส์หรือคอนเทนต์จากช่องทางใหม่ ๆ (ได้เปิดมุมมองใหม่และสร้างแรงบันดาลในการใช้ชีวิต) เป็นต้น

การดูแลสุขภาพทั้งกายและใจของผู้สูงวัย บทบาทของลูกหลาน ครอบครัว และผู้ที่ดูแลใกล้ชิด นั้นมีความสำคัญอย่างมากในการเสริมสร้างพลังใจเพื่อช่วยให้ผู้สูงอายุสามารถปรับตัวได้อย่างราบรื่นขึ้น การสร้างการมีส่วนร่วม เข้าไปพูดคุยขอคำปรึกษา หรือคอยถามถึงอาการเจ็บป่วยอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้ผู้สูงอายุรู้สึกว่าตัวเองยังมีความสำคัญ รับรู้ถึงความห่วงใย ทำให้มีกำลังใจเดินหน้าต่อไป และยังเป็นการช่วยสานความสัมพันธ์ภายในครอบครัวให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นอีกด้วย

เกี่ยวกับ แอสตร้าเซนเนก้า

แอสตร้าเซนเนก้า (ชื่อย่อหลักทรัพย์ AZN ในตลาดหลักทรัพย์ LSE/ STO/ Nasdaq) เป็นบริษัทชีวเภสัชภัณฑ์ชั้นนำระดับโลก มุ่งเน้นทางด้านการคิดค้น พัฒนา และจำหน่ายยาเพื่อการรักษาโรค โดยเฉพาะในกลุ่มยาโรคมะเร็ง กลุ่มยาโรคหัวใจ ไต และระบบเผาผลาญ และกลุ่มยาโรคทางเดินหายใจ แอสตร้าเซนเนก้า มีฐานอยู่ที่เมืองเคมบริดจ์ สหราชอาณาจักร และดำเนินธุรกิจในกว่า 100 ประเทศ และมีผู้ป่วยหลายล้านคนทั่วโลกที่ได้รับประโยชน์จากนวัตกรรมยาต่างๆ จากแอสตร้าเซนเนก้า สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาไปยังเว็บไซต์ astrazeneca.co และช่องทางทวิตเตอร์ @AstraZeneca

ที่มา: แอสตร้าเซนเนก้า

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ