นางสาว สุดาทิพ เกียรติศรีชาติ กรรมการ กลุ่มบริษัทพัทยาฟู้ด กล่าวถึงที่มาของแบรนด์ Remy ว่า "REMY(เรมี่) มีความหมายว่า 'สิ่งล้ำค่า' เป็นชื่อที่คุณพ่อคุณแม่รุ่นใหม่นิยมตั้งชื่อของลูกสาวหรือลูกชาย ชื่อนี้จึงเป็นสื่อตัวแทนของความรักของเหล่า Pet Parents ที่ให้ความสำคัญกับสมาชิกสี่ขาเสมือนคนในครอบครัว โดยโลโก้ของ REMY มี ตัว M ที่ตั้งใจออกแบบให้มีดีไซน์คล้ายรูปหัวใจ สี Punchy Pink เป็นตัวแทนของความรักที่เราตั้งใจส่งมอบสุขภาพที่ดี ผ่านสูตรอาหารที่คัดเลือกมาแล้วอย่างดี เป็น Recipe for My Love อย่างแท้จริง"
สพ.ญ.กฤติกา ชัยสุพัฒนากุล ประธานกรรมการบริหารโรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ กล่าวว่า REMY เป็นการผสานความเชี่ยวชาญและองค์ความรู้ด้านโภชนาการของทีมสัตวแพทย์ที่มีประสบการณ์ในการดูแลรักษาสุขภาพของสัตว์เลี้ยง ซึ่งการให้ความสำคัญกับสูตรอาหารและโภชนาการอาหารที่ดีเป็นหนึ่งในการดูแลที่สำคัญที่มีผลกับสุขภาพของสัตว์เลี้ยงในระยะยาว และกลุ่มบริษัทพัทยาฟู้ด ผู้เชี่ยวชาญในการผลิตอาหารคุณภาพสูงมากว่า 40 ปี มีความชำนาญในการคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพเยี่ยม (Human Grade Ingredients) ตลอดจนกระบวนการวิจัย พัฒนา ควบคุมและทดสอบคุณภาพ ทำให้สามารถผลิตสินค้าที่ตอบโจทย์และมั่นใจว่าผ่านมาตรฐานทั้งด้านคุณภาพและรสชาติที่อร่อย ด้วยอุดมการณ์ร่วมกันที่ต้องการจะทำสิ่งดีๆ มีคุณภาพให้กับสัตว์เลี้ยง จึงเป็นที่มาของการร่วมทุนในครั้งนี้
ทางด้าน นาย ฐิติพงษ์ จิรอัศวกุล ผู้จัดการทั่วไปของ บริษัท เรมี่ เพ็ท (Remy Pet) จำกัด กล่าวเสริมว่า "REMY ให้ความสำคัญกับความสมดุลของรสชาติที่อร่อยและสุขภาพที่ดีของน้องหมาน้องแมว ดังนั้น ทุกๆ สูตรอาหารของ เรมี่ เราจะพัฒนาจากความเข้าใจความต้องการของผู้บริโภค (pet and pet parents) และพัฒนาสูตรร่วมกับสัตวแพทย์ เราคัดสรรวัตถุดิบอย่างดี ใช้วัตถุดิบคุณภาพพรีเมี่ยมเกรดเดียวกับวัตถุดิบที่ผลิตให้กับอาหารของคน (Human Grade Ingredient) และมีมาตรฐานสากลรับรองคุณภาพ ทั้งปราศจากสารปรุงแต่งรสไม่ว่าจะเป็น น้ำตาล เกลือหรือวัตถุกันเสีย ผ่านการวิจัยและพัฒนาสูตร จากทีมนักวิจัย และนักโภชนาการสัตวแพทย์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่อร่อยและเสริมสุขภาพที่ดีให้ทั้งน้องแมวและน้องหมาทุกช่วงวัย โดยในปี 2566 นี้ จะเริ่มจากกลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับน้องแมวและน้องหมา ซึ่งประกอบไปด้วย
- ขนมมูสแมวเลีย สูตรแคลอรี่ต่ำ(Low Cal Tuna Mousse) สามารถทานได้ทุกวันไม่ต้องห่วงเรื่องน้ำหนัก นอกจากจะมาในสูตรแคลอรี่ต่ำและไขมันต่ำแล้ว ยังมีสารอาหารที่ช่วยลดโอกาสเสี่ยงในการเกิดโรคยอดฮิตอย่าง โรคหวัดแมว โรคไขข้อกระดูก หรือโรคทางเดินอาหาร เช่น อาการเกิดก้อนขน อาเจียน ถ่ายเหลว โดยขนมมูสแมว 3 สูตรแรกที่เราแนะนำคือ สูตรเสริมภูมิคุ้มกัน X2 จาก แอล-ไลซีนและเบต้ากลูเคน, สูตรเสริมระบบย่อยอาหาร และสูตรเสริมกระดูกและข้อ
- อาหารแมว สูตรเสริมสุขภาพ เป็นสูตรอาหารที่เราพัฒนาขึ้นภายใต้คอนเซ็ป Wellness Cat Food ด้วยรสชาติที่อร่อยแล้วยังเสริมสารอาหารที่มีประโยชน์ถึง 2 ชนิด ในปริมาณที่นักโภชนาการสัตวแพทย์แนะนำ เพื่อให้น้องแมวได้รับสารอาหารที่มีโภชนาการอย่างสมดุล โดยอาหาร 3 สูตรแรกที่จะออกในปีนี้ คือ อาหารแมวรสปลาทูน่าในน้ำเกรวี่ หน้าปลาโอสไลด์ สูตรต้านอนุมูลอิสระ, หน้าเนื้อไก่ สูตรส่งเสริมระบบย่อยอาหาร และ อาหารแมวเปียกรสปลาทูน่าในเนื้อเยลลี่ สูตรบำรุงผิวและขน
- อาหารสุนัข สูตรเสริมสุขภาพ ยังคงคอนเซ็ปอาหารอร่อยที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยทางแบรนด์วางแผนจะเตรียมออกจำหน่ายพร้อมกันทั่วประเทศในเดือนมิถุนายน 2566
ส่วนแผนในการเปิดตลาดของ REMY ครั้งนี้ เราพร้อมมากสำหรับการลงสนาม โดยจัดเต็มทุกพื้นที่ด้วยช่องทางจัดจำหน่ายสินค้าที่หลากหลาย อาทิ ร้านค้าในโรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อทั้ง 16 สาขา, ร้าน All About Pet โรงพยาบาลสัตว์เล็ก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร้านอาหารสัตว์ในเขตกรุงเทพและปริมณฑล ตลอดจนช่องทาง E-commerce และช่องทางที่กลุ่มลูกค้าคุ้นเคยอย่าง Line OA และ Facebook ที่จะสามารถดูแลลูกค้าทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
พร้อมสร้างสัมพันธ์กับผู้บริโภคอย่างต่อเนื่องด้วยกิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆ อาทิ แคมเปญดูแลสัตว์เลี้ยงร่วมกับโรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ, กิจกรรม "เที่ยวสบายใจฝากแมวไว้กับ REMY" ลุ้นบัตรที่พักน้องแมวที่ Kofuku Pet Hotel สุขุมวิท และเล่นกิจกรรม Recipe for My Love บนช่องทาง Tik Tok พร้อมลุ้นรางวัลจาก REMY ในทุกช่วงเทศกาล
นอกจากนี้ เพื่อส่งมอบสุขภาพที่ดีของเหล่าสมาชิกแสนรักผ่านการทานอาหารที่คิดค้นมาอย่างดี ให้แก่เจ้าของสัตว์เลี้ยงผ่านแคมเปญ 'Recipe for My Love' พร้อมกับสร้างตัวตนของแบรนด์บนแฟลตฟอร์มโชเชี่ยลมีเดียเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ที่ใช้เวลาหาข้อมูลบนโลกออนไลน์ ผ่าน REMY Club คอมมูนิตี้สำหรับคนรักสัตว์ที่เสมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน เพื่อแนะนำและบอกต่อสิ่งดีๆ ให้แก่กัน ทั้งยังสามารถติดตามข่าวสาร ร่วมเล่นกิจกรรมและซื้อสินค้าได้ในราคาสมาชิกอีกด้วย" นายฐิติพงษ์ กล่าว
นางสาวสุดาทิพ กล่าวเพิ่มเติมว่า "ในปัจจุบันนี้ เทรนด์ของธุรกิจที่เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงนั้นเติบโตในทุก Segment โดยแบ่งแนวโน้มของผู้บริโภคออกเป็นเทรนด์สำคัญคือ "Humanization" คือเทรนด์ที่อาหารคนและอาหารสัตว์เลี้ยงเริ่มมีการใช้คุณภาพของวัตถุดิบใกล้เคียงกันมากขึ้น มีคอนเซ็ปอาหารที่สอดคล้องไปกับเทรนด์อาหารของคน
และในช่วงปี 2565 ที่ผ่านมา ตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงในไทยยังคงมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากมองมูลค่าตลาดของอาหารแมวที่มีมูลค่ากว่า 10,000 ล้านนั้นภาพรวมเติบโตกว่า 10% ซึ่งมูลค่าตลาดแบ่งเป็นอาหารเม็ดมีสัดส่วนกว่า 60% ตามมาด้วยอาหารเปียก 30% และขนมประมาณ 10% ในขณะที่สัดส่วนของอาหารสุนัข มีอัตราการเติบโต 6% แต่มูลค่ารวมของตลาดอาหารสุนัขนั้นสูงถึงกว่า 30,000 ล้านบาท ซึ่งมีสัดส่วนเน้นไปทางด้านอาหารเม็ดประมาณ 60% ขนมหรือส่วนผสม 25% และอาหารเปียกประมาณ 15% (ข้อมูลจาก 2022, https://www.euromonitor.com/search?term=pet+food) โดยกว่า 3,300 ล้านบาท เป็นกลุ่มสินค้าในตลาดพรีเมี่ยมของไทยที่ REMY สนใจ เพราะเป็นกลุ่มผู้ซื้อที่มีความตั้งใจเลือกสิ่งที่ดีให้กับสัตว์เลี้ยง มีการหาข้อมูล ก่อนตัดสินใจเลือกผลิตภัณฑ์ให้สัตว์เลี้ยงและยังให้ความสำคัญกับสุขภาพของสัตว์เลี้ยงเป็นหลัก
ครั้งนี้เราออกสตาร์ทด้วยสินค้าอาหารแมว ซึ่งหลังจากงานเปิดตัวในครั้งนี้ ก็จะพบกับกิจกรรมจาก REMY ได้ที่งาน Pet Expo 2023 และแน่นอนในอนาคตเราเตรียมแผนขยายตลาดไปสู่กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารสุนัข ซึ่งยังคงคอนเซ็ปอาหารอร่อยที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยทางแบรนด์วางแผนจะเตรียมออกจำหน่ายพร้อมกันทั่วประเทศในเดือนมิถุนายน 2566 ซึ่งมั่นใจว่าจะสามารถเพิ่มมูลค่าของตลาดสัตว์เลี้ยงในประเทศไทยได้อย่างแน่นอน ส่วนใครที่สนใจทดลองสินค้าอาหารสุนัขก่อนใครก็สามารถสมัครสมาชิก REMY Club หรือ มาพบกับเราได้ที่งาน Pet Expo เช่นกัน
ในส่วนของการขยายตลาดต่างประเทศ จะเริ่มตั้งแต่ปลายปี 2566 โดยขยายจากเครือข่ายของบริษัทในเครือ PFG ที่มีอยู่ในประเทศเวียดนาม จีน และฝรั่งเศส หลังจากนั้นจึงขยายไปยังกลุ่มประเทศเป้าหมายที่มีศักยภาพอื่นๆ ต่อไป" นางสาวสุดาทิพ ทิ้งท้าย
ที่มา: โฟร์ฮันเดรท