นายจิตติพร จันทรัช กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็กโซติค ฟู้ด จำกัด (มหาชน) หรือ XO เปิดเผยว่าภาพรวมธุรกิจในปี 2566 XO ตั้งเป้ายอดขายเติบโต 10% จากปีที่ผ่านมา และเป้าหมายอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ระดับ 40% ผลจากการปรับราคาตั้งแต่ปี 2565 ที่ผ่านมา รวมทั้ง แผนขยายตลาดในกลุ่มประเทศที่เป็นโอกาส การเพิ่มกิจกรรมการตลาด และออกงานแสดงสินค้าเพิ่มขึ้น โดยคาดปีนี้จะออกงานแสดงสินค้าราว 22 งาน รวมทั้ง การเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มซอสปรุงรส ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าแชมเปี้ยน ที่มียอดขายและอัตรากำไรสูงที่สุดในกลุ่ม
สำหรับภาพรวมตลาดซอสส่งออกในปี 2566 คาดจะได้อานิสงส์จากอาหารไทยเป็นเมกะเทรนด์ และรับอานิสงส์การเปิดประเทศ นักท่องเที่ยวให้ความสนใจเดินทางมาท่องเที่ยวที่เมืองไทย สนับสนุนความต้องการสินค้าของบริษัทเป็นที่ตอบรับจากลูกค้าทั่วทุกมุมโลก ขณะที่ ภาพรวมตลาดซอสไทยส่งออกอยู่ที่ประมาณ 19,901 ล้านบาทในปี 2566 XO มีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 6.4% และคาดจะขยายการเติบโตในตลาดโลกได้ต่อเนื่อง ด้วยการขยายช่องทางการจำหน่ายที่แข็งแกร่ง ผ่านดิสทริบิวเตอร์ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 69 ประเทศทั่วโลก หรือ ส่งออกไปประมาณ 25,000 เอาท์เล็ท
"เรายังเดินหน้าขยายตลาดต่างประเทศต่อเนื่อง โดยได้ขยายออเดอร์ไปยังลูกค้ารายใหม่เพิ่มเติม ได้แก่ ประเทศ จีน จอร์เจีย อินโดนีเซีย เป็นต้น จาก ณ สิ้นปี 2565 XO มีสัดส่วนลูกค้าหลักมาจากยุโรป 80.1% แม้ผลงานปี 2565 ที่ผ่านมา ได้รับผลกระทบยอดขายที่ลดลงจากหลายประเทศในทวีปยุโรปมีการผ่อนคลายมาตรการเกี่ยวกับ COVID-19 ทำให้ประชาชนเริ่มกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ และมีการประกอบอาหารที่บ้านน้อยลง ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อยอดจำหน่ายสินค้าของบริษัทในช่วงครึ่งปีแรกปีนี้ยังทรงตัว แต่มองเป็นเพียงระยะสั้น โดย XO ยังเดินหน้าทำการตลาดเชิงรุก ขณะที่ ในด้านต้นทุน เราได้ล็อกราคาต้นทุนวัตถุดิบ พริก น้ำตาล กระเทียม ไว้เรียบร้อยแล้ว หลังราคามีการปรับขึ้นมาบ้าง ซึ่งบริษัทพยายามบริหารจัดการอย่างรัดกุม" นายจิตติพร กล่าว
ทั้งนี้ ณ สิ้นปี 2565 XO มีสัดส่วนยอดขายหลักอยู่ในทวีปยุโรปกว่า 80.1% ด้านต้นทุนวัตถุดิบมีการล็อกราคาไว้ล่วงหน้าจนถึงสิ้นปี 66 เพื่อควบคุมความเสี่ยง และใช้กำลังการผลิตในระดับ 67%
ด้านผลการดำเนินงานของ XO สำหรับปี 2566 ประเมินว่าจะเห็นภาพชัดเจนในช่วงครึ่งปีหลัง ขณะที่การปรับราคาขายสินค้ากลุ่มซอสปรุงรสจะเริ่มในไตรมาส 1/2566 เป็นส่วนใหญ่และต่อเนื่องมายังไตรมาส 3/2566 ขณะที่ลูกค้าที่โดดเด่นในปีนี้จะเป็นลูกค้าประเทศแคนาดาและเม็กซิโก
ที่มา: ไออาร์ พลัส