ลงพื้นที่ตามทีมหมอหน่วยแพทย์พระราชทานฯ ขึ้นเขาไปชายแดนไทย-พม่า ตรวจสุขภาพและให้บริการทันตกรรม

การให้บริการตรวจรักษาที่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนสหธนาคารกรุงเทพ มีผู้เข้ารับการตรวจรักษาประกอบด้วยนักเรียนจำนวน 201 คน และประชาชนจำนวน 35 คน ส่วนที่ศูนย์การเรียนตำรวจตระเวนชายแดนทิไล่ป้า มีผู้เข้ารับการตรวจรักษาประกอบด้วยนักเรียนจำนวน 195 คน และประชาชนจำนวน 35 คน ซึ่งส่วนใหญ่ทั้งเด็กนักเรียนและประชาชนมีสุขภาพปกติ พบโรคที่เป็นมากที่สุดคือโรคเหงือกและฟัน รองลงมาคือโรคทางเดินหายใจ และโรคทางระบบไหลเวียนโลหิต และพบโรคเหาในเด็กนักเรียนด้วย

สำหรับการปฏิบัติงานในครั้งนี้นับว่าเป็นการเดินทางที่ค่อนข้างอันตรายและลำบากเนื่องจากต้องเข้าป่าขึ้นเขาผ่านบ้านสาละวะ บ้านทิไล่ป้า รวมระยะทางกว่า 20 กิโลเมตร การเดินทางขึ้นทิไล่ป้าใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง ด้วยรถยนต์ 4WD หรือรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อเท่านั้น ผ่านเส้นทางลำห้วยและพื้นที่สูงชันที่เป็นดินแดง บางช่วงดินชื้นอ่อนนิ่มทำให้รถลื่นและขับลำบาก พื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร เมื่อเข้าสู่ฤดูฝน ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่รวมทั้งเจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐจะไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ ที่ผ่านมาเวลาประชาชนเจ็บไข้ได้ป่วยหรือมีเหตุฉุกเฉินที่จำเป็น ประชาชนไม่สามารถออกไปพบหมอได้ด้วยตนเอง และบางครั้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเข้าไปไม่ทันเวลา อาจจะทำให้เกิดการสูญเสีย และที่ผ่านมาได้เกิดการสูญเสียระหว่างทางมาแล้วหลายครั้ง  ดังนั้นการปฏิบัติภารกิจหน่วยแพทย์พระราชทานฯ ในครั้งนี้จึงมีประโยชน์ต่อเด็กนักเรียนและประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก เพราะนอกจากมีหมอไปตรวจรักษาถึงที่แล้ว ยังมียาและเวชภัณฑ์ รวมถึงการนำเสื้อผ้า สิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น อาหารแห้งต่างๆ ไปมอบให้กับเด็กและประชาชนด้วย รวมถึงการให้บริการด้านทันตกรรมซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับเด็กๆ ในการรักษาสุขอนามัยในช่องปากอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง

แพทย์หญิงกนิษฐา กิจสมบัติ ประธานโครงการหน่วยแพทย์พระราชทานฯ ศูนย์การแพทย์ปัญญานันทภิกขุ ชลประทาน มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ เผยว่า การออกตรวจสุขภาพครั้งนี้เป็นการเดินทางที่ยาวไกลสู่ทุ่งใหญ่นเรศวรเขตบ้านทิไล่ป้า ซึ่งขณะนั้นกำลังมีการตัดถนนเส้นใหม่เพื่อให้สะดวกต่อการเดินทางมากขึ้น คณะหน่วยแพทย์ฯ จึงได้พบกับบางช่วงที่รถแมคโครกำลังทำงานขุดเจาะถนน ดินยังอ่อน ทำให้รถ 4W ดินโหล่มกลางป่าเขา ต้องลำเลียงบุคลากรลงจากรถลงเดินเท้าและลากจูงรถ ขึ้นไปสุดขอบผืนป่าและได้ตั้งหน่วยแพทย์และตั้งแคมป์นอนที่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนทิไล่ป้าเป็นเวลา 2 คืน นอกจากปฏิบัติงานตรวจสุขภาพแล้วยังได้ใช้ชีวิตกับเด็กๆ และประชาชนในพื้นที่ ที่แม้จะไม่มีทั้งไฟฟ้าและน้ำประปา แต่เป็นสองวันสองคืนที่ประทับใจไม่ลืม

ที่มา: ศูนย์การแพทย์ปัญญานัทภิกขุ ชลประทาน มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ