โครงการประกวดทำคลิป "สัญจรดี วิถีไทย ปีที่ 3 จอดรถให้ถูกที่ ขับขี่ให้ถูกทาง" มีเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 800,000 บาท โดยแบ่งการประกวดเป็น 2 ระดับ เป็นรายบุคคล หรือทีม สมาชิกในทีมไม่เกิน ๓ คน ได้แก่
- ระดับมัธยมศึกษา (ม.๑ - ม.๖), ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) หรือเทียบเท่า และ
- ระดับอุดมศึกษา, ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) หรือเทียบเท่า
สำหรับทีมที่ส่งผลงานเข้าร่วมทั้งหมดในปีนี้ มีจำนวน ๒๗๔ ทีม แบ่งเป็นระดับมัธยมศึกษา, ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) หรือเทียบเท่า จำนวน ๑๕๓ ทีม และระดับอุดมศึกษา, ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) หรือเทียบเท่า จำนวน ๑๒๑ ทีม โดยมีการคัดเลือกทีมที่ผ่านเข้ารอบมาทั้งหมด 26 ทีม แบ่งเป็นระดับมัธยมศึกษา, ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) หรือเทียบเท่า จำนวน 13 ทีม และระดับอุดมศึกษา, ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) หรือเทียบเท่า จำนวน 13 ทีม ซึ่งทั้ง 26 ทีม ได้รับการอบรมเชิงปฏิบัติการ (Workshop) จากผู้บริหารของกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ผู้กำกับภาพยนตร์ และ Youtuber ชื่อดัง เพื่อให้ผู้ประกวดที่ผ่านเข้ารอบ สามารถต่อยอดความรู้ และเพิ่มความสามารถในการผลิตงาน และปรับปรุงพัฒนางานให้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ซึ่งผลงานของผู้ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 และอันดับ 2 ทั้ง 2 ระดับ จะได้เผยแพร่ผลงานไปสู่สาธารณะทางสื่อ Social Media
ผู้ที่ได้รับรางวัลในระดับระดับมัธยมศึกษา, ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) หรือเทียบเท่า มีดังนี้
- รางวัลชนะเลิศ ได้รับเงินรางวัล 100,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัล และเกียรติบัตร ได้แก่ ผลงานจากทีม Thungsong Hometown ชื่อผลงาน "สัญจร 3D วิถีไทย" จากโรงเรียนทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช
- รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้รับเงินรางวัล 50,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัลและเกียรติบัตร ได้แก่ ผลงานจากทีม Grandpapa ชื่อผลงาน "จิตแพทย์" จากวิทยาลัยเทคโนโลยีสยามบริหารธุรกิจ (สะพานใหม่) กรุงเทพมหานคร
- รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้รับเงินรางวัล 30,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัลและเกียรติบัตร ได้แก่ ผลงานจากทีม มดตะนอยฟิล์ม ชื่อผลงาน "มงคล" โรงเรียนพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์
ผู้ที่ได้รับรางวัลในระดับระดับระดับอุดมศึกษา, ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) หรือเทียบเท่า มีดังนี้
- รางวัลชนะเลิศ ได้รับเงินรางวัล 100,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัลและเกียรติบัตร ได้แก่ ผลงานจากทีม พญาแถน ลุยวัด ชื่อผลงาน "Traffic Life" จากมหาวิทยาลัยมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม
- รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้รับเงินรางวัล 50,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัลและเกียรติบัตร ได้แก่ ผลงานจากทีม หอยจ๊อ ชื่อผลงาน "ที่ของใคร" จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่
- รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้รับเงินรางวัล 30,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัลและเกียรติบัตร ได้แก่ ผลงานจากทีม Who Do Studio Two ชื่อผลงาน "ลืมเหตุผล" จากมหาวิทยาลัยศรีปทุม กรุงเทพมหานคร
การประกาศผลรางวัลในครั้งนี้ ได้รับเกียรติจากนายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานในการมอบรางวัล ซึ่งเป็นถ้วยเกียรติยศจากท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ทั้งนี้ ท่านได้กรุณาแสดงความยินดีและให้โอวาทแก่ผู้ที่ได้รับรางวัล ดังนี้
นายโกวิท ผกามาศ อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กล่าวว่า "ผมในนามของกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ขอแสดงความยินดีกับนักเรียน นิสิต นักศึกษา ที่ได้รับรางวัลในการประกวดคลิปโครงการประกวดทำคลิป "สัญจรดี วิถีไทย" ปีที่ 3 หัวข้อ "จอดรถให้ถูกที่ ขับขี่ให้ถูกทาง" โดยโครงการดังกล่าวเป็นความร่วมมือระหว่างหน่วยงานจากภาครัฐหลายภาคส่วน เพื่อที่จะให้การสร้างวินัยจราจรเป็นเรื่องสำคัญ ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องพยายามบูรณาการร่วมกัน เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง ความร่วมมือปลุกจิตสำนึกการใช้รถใช้ถนน นำความเป็นไทย สร้างวินัยจราจรให้สังคมเร่งจัดทำแนวทางกิจกรรมการรณรงค์ส่งเสริมวัฒนธรรมไทย สร้างวินัยจราจร ประชาสัมพันธ์สร้างความรู้ความเข้าใจ ให้ประชาชนตระหนักและเห็นคุณค่าในการใช้รถใช้ถนนด้วยความปลอดภัย มีจิตสำนึก รับผิดชอบ มีน้ำใจ และเอื้ออาทรให้แก่กัน มีมารยาทที่ดีในขับขี่ กระตุ้นจิตสำนึกโดยใช้มารยาทไทยควบคู่กับวินัยจราจร ซึ่งกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ดำเนินการเรื่องนี้มาอย่างต่อเนื่อง การรณรงค์เรื่องวินัยจราจร ให้เป็นรูปธรรม ต้องอาศัยระยะเวลา และทำอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องอาศัยกำลังจากทุกภาคส่วนทำงานร่วมกันอย่างจริงจัง และต่อเนื่อง จึงจะสำเร็จผลอย่างยั่งยืน
กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ขอขอบคุณสถาบันการศึกษาที่ได้สนับสนุนให้นักเรียน นักศึกษาส่งผลงานร่วมประกวด พร้อมทั้งขอบใจเด็ก ๆ ทุกคน ที่สร้างสรรค์ส่งผลงานอันมีคุณค่าเข้าประกวดในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่ายังมีผู้ให้ความสำคัญ ในการนำเรื่องมารยาทมาใช้ในการขับขี่ การจอดรถ และมารยาททางสังคมอยู่ เพราะมารยาทเหล่านี้เป็นสิ่งที่ คนไทยทุกคนควรยึดมั่นปฏิบัติ เพื่อให้สังคมไทยน่าอยู่ยิ่งขึ้น"
ที่มา: พราว ทู พรีเซ้นท์