ดังนั้นแล้วเวชศาสตร์ชะลอวัย จึงเป็นเทรนด์การดูแลสุขภาพที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา ขนาดตลาดการชะลอวัยทั่วโลกมีอัตราการเติบโตสูง ล่าสุดในปี 2565 มูลค่าตลาดทั่วโลกสูงถึง 67.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 2.34 ล้านล้านบาท และมีการคาดการณ์ว่าภายในระยะเวลา 5 ปี หรือในปี 2571 ตลาดนี้จะมีมูลค่าสูงถึง 98.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 3.43 ล้านล้านบาท
พญ. รัตตินันท์ ตรีรัตน์ ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการ รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ กล่าวว่า "เวชศาสตร์ชะลอวัย เป็นศาสตร์แห่งการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมและการแพทย์แบบผสมผสาน ด้วยเทคโนโลยีการตรวจในห้องปฏิบัติการที่ทันสมัย ทำให้ทราบถึงโอกาสและสาเหตุแท้จริงที่จะทำให้เกิดโรคได้ ช่วยชะลอโรคภัยที่มาพร้อมความเสื่อมของร่างกาย เพื่อให้ผู้คนมีอายุยืนยาวและมีสุขภาพที่แข็งแรงขึ้น"
พญ. รัตตินันท์ กล่าวถึงแนวทางการดูแลสุขภาพของรัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ ว่า "เรามุ่งเน้นการรักษาแบบป้องกัน ฟื้นฟู และเสริมสร้างอย่างครบวงจร ด้วยมาตรฐานความปลอดภัย เน้นออกแบบโปรแกรมการชะลอวัยที่ให้ผลทั้งสุขภาพภายในและรูปลักษณ์ภายนอก ให้คำปรึกษาเฉพาะบุคคลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และยังร่วมมือกับพันธมิตรจากต่างประเทศ อาทิ ประเทศสิงคโปร์ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และอีกหลายประเทศ นำนวัตกรรมเวชศาสตร์ชะลอวัยใหม่ๆ เข้ามาในประเทศไทย
โดยนวัตกรรมเหล่านี้ มุ่งเน้นไปในแนวทางป้องกัน เพื่อชะลอโรคภัยที่มาพร้อมความเสื่อมของร่างกาย ยกตัวอย่างเช่น Anti-Ageing Screening หนึ่งนวัตกรรมที่ได้รับรางวัลนวัตกรรมแห่งชาติของประเทศเกาหลีในปี 2557 เป็นการตรวจวัดความแข็งแรงของภูมิคุ้มกันชนิด NK Cells (Natural Killer Cell) หรือเซลล์นักฆ่าตามธรรมชาติ โดยทดสอบจากเลือดเพียง 1 มิลลิลิตร เพื่อประเมินความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งหรือการติดเชื้อไวรัสต่างๆ นอกจากนี้ยังมีนวัตกรรม Anti-Ageing Therapy ด้วยแนวทางจากการรักษาผู้ป่วยมะเร็ง ที่มีชื่อว่า "Osaki Method" ซึ่งเป็นเทคนิคการตรวจ ป้องกัน และเพิ่มปริมาณและความแข็งแรงให้เซลล์ภูมิคุ้มกันที่ได้มาตรฐาน ได้รับการยอมรับ และมีการใช้อย่างแพร่หลายในประเทศญี่ปุ่น"
ไม่เพียงเท่านี้ รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ ในฐานะศูนย์แพทย์ที่เป็นผู้นำในการดูดไขมันเพื่อดูแลรูปร่างเฉพาะบุคคล เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์มากว่า 24 ปี ได้เล็งเห็นถึงประโยชน์ของไขมันที่สามารถนำกลับมารักษาและฟื้นฟูร่างกาย จึงร่วมมือกับ บริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านสถาบันการฝากเก็บ คัดแยก เพาะเลี้ยง และวิจัยสเต็มเซลล์แบบครบวงจร เปิดให้บริการเก็บเซลล์จากเนื้อเยื่อไขมัน ด้วยนวัตกรรม Anti-Ageing Personal Cells ซึ่งเป็นการคัดแยกสเต็มเซลล์จากเนื้อเยื่อไขมันมาเพาะเลี้ยงเพิ่มจำนวนตัวที่แข็งแรง ก่อนฝากเก็บแช่แข็งที่อุณหภูมิ -196 องศาเซลเซียส เพื่อคงอายุเซลล์ให้อ่อนเยาว์ ซึ่งการใช้เซลล์ส่วนบุคคล หรือ Personal Cells ในเวชศาสตร์ชะลอวัยนั้น มีความปลอดภัยสูง เนื่องจากเป็นเซลล์ที่เข้ากันได้กับร่างกาย 100% โดยยังคงคุณสมบัติในการซ่อมแซม (สร้างอวัยวะ) ลดการทำลาย (inflammation) และเร่งการฟื้นฟูได้อย่างครบถ้วน
นายแพทย์วีรพล เขมะรังสรรค์ ผู้ก่อตั้ง และประธานกรรมการบริหาร เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า "(MEDEZE) ในฐานะสถาบันการฝากเก็บเซลล์ต้นกำเนิดของชีวิต (Stem Cell) แบบครบวงจร เป้าหมายของเวชศาสตร์ชะลอวัยคือให้มนุษย์มีสุขภาพแข็งแรง มีคุณภาพชีวิตที่ดี และมีความสุข ซึ่งเทรนด์และการแข่งขันทั่วโลกตอนนี้คือการเก็บสเต็มเซลล์เพื่อเป็นหลักประกันทางสุขภาพ และนำมาใช้ประโยชน์ในอนาคต หากเป็นไปได้แนะนำให้ฝากเก็บสเต็มเซลล์ของตัวเองไว้ก่อน เพื่อหยุดอายุเซลล์ของตัวเองไว้ตั้งแต่วันที่แข็งแรงและไม่มีปัญหาสุขภาพ ดังนั้น การตั้งต้นเก็บไขมันที่มีคุณภาพดี ด้วยกระบวนการที่ถูกต้องทางการแพทย์จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง"
คุณน้อย-ณภัสวรรณ จิลลานนท์ เซเลบริตี้ เจ้าของบริษัท สยามนุลักษณ์ จำกัด ได้กล่าวถึงความประทับใจกับนวัตกรรมการฝากเก็บสเต็มเซลล์จากเนื้อเยื่อไขมันของตัวเองไว้ว่า "คือความมหัศจรรย์ของชีวิต"ค่ะ ที่เราสามารเก็บสเต็มเซลล์ของตัวเราเองได้เพื่อการวางแผนดูแลตัวเองได้ทันทีจนถึงตราบเท่าที่เรายังมีลมหายใจ แน่นอนค่ะว่า วันนี้ทั่วโลกเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุทั่วโลก แต่นวัตกรรมนี้จะช่วยพลิกภาพนี้ไปจากความคิดเดิมๆ... คนที่มีอายุมากขึ้น ไม่จำเลยที่จะต้องอ่อนแอ มีโรคภัยไข้เจ็บ ร่างกายเสื่อมโทรม ...เพราะนวัตกรรม Biolongevity Technology ของเมดีซ กรุ๊ป จะเปลี่ยนชีวิตให้เรามีสุขภาพที่แข็งแรง อ่อนเยาว์ ด้วยชีวิตที่ยืนยาวขึ้น"
"ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านการดูดไขมันกว่า 24 ปี ของ รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ สามารถมั่นใจได้ว่าการเก็บเนื้อเยื่อไขมันในทุกขั้นตอนจะเป็นไปอย่างมีคุณภาพ ด้วยเทคโนโลยีที่มีมาตรฐานและความปลอดภัยสูง โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อคงประสิทธิภาพที่ดีที่สุดของเซลล์เอาไว้ ก่อนส่งต่อไปเพาะเลี้ยงและจัดเก็บในธนาคารจัดเก็บสเต็มเซลล์ ที่ เมดีซ กรุ๊ป ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานคุณภาพโดย AABB จากสหรัฐอเมริกา ให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่ามีการฝากเก็บเซลล์อย่างปลอดภัย และควบคุมคุณภาพของเซลล์ให้มีประสิทธิภาพสูงที่สุดเมื่อนำกลับไปใช้ โดยสามารถเก็บได้นานถึง 60 ปี" พญ. รัตตินันท์ กล่าวสรุป
ทั้งนี้ ในปี 2567 รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ จะก้าวเข้าสู่การเป็นโรงพยาบาลนวัตกรรมความงามและการรักษาแบบครบวงจรที่มีมาตรฐานคุณภาพระดับสากล ให้บริการด้านเวชศาสตร์ชะลอวัยและรักษาโรคโดยทีมแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่มืออาชีพ ด้วยคุณภาพมาตรฐานด้านศูนย์ศัลยกรรมตกแต่งผู้ป่วยนอก (Ambulatory Plastic Surgical Center) ถึง 2 ปีซ้อนจาก American Accreditation Commission International (AACI) สหรัฐอเมริกา นับเป็นศูนย์การแพทย์แห่งแรกในเอเชีย-แปซิฟิกที่ได้รับรางวัลในระดับสากลนี้
ที่มา: พีเอ็นเค คอมมิวนิเคชั่นส์