ภายในงานยังได้จัดอภิปรายการบูรณาการระหว่างภาครัฐและเอกชน เพื่อขับเคลื่อนนโยบายและมาตรการลดการบริโภคหวานในประเทศไทย โดยมี สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล นำเสนอสถานการณ์และอุบัติการณ์โรคที่เกิดจากการบริโภคน้ำตาลที่มากเกินไป ทางกรมอนามัยและสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวถึงนโยบายและมาตรการการจัดการเพื่อการปรับพฤติกรรมลดการบริโภครสหวาน กลุ่มอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม สภาอุตสาหกรรมอาหารแห่งประเทศไทย ผู้ประกอบการแบรนด์ คาเฟ่ อเมซอน และผู้ประกอบการ แบรนด์ อินทนิล ร่วมให้ข้อมูลสถานการณ์แนวโน้มการสั่งเครื่องดื่มหวานน้อยของประชาชน ปิดท้ายกับบทบาทการส่งต่อผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มลดหวานสู่ประชาชน โดยทาง อิมแพ็ค ในฐานะผู้ให้บริการจัดเลี้ยง อิมแพ็ค เคเทอริ่ง ผู้บริหารร้านอาหารในเครือกว่า 19 แบรนด์รวม 30 ร้าน
รวมถึง อีส คาเฟ่ บาย อิมแพ็ค แอท ครัวอนามัย ซึ่งเป็นร้านคาเฟ่ต้นแบบในการนำเสนอเมนูชูสุขภาพและเครื่องดื่มหวานน้อยร้อยละ 5 ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าโรงอาหารกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เปิดบริการวันจันทร์ถึงศุกร์ เวลา 07.00-15.00 น. ซึ่งขณะนี้มีเมนูชูสุขภาพที่ผ่านการรับรองและจำหน่ายแล้ว ได้แก่ 1.)สลัดผักเต้าหู้ต้มซีอิ๊ว และน้ำสลัดเต้าหู้ 2.)ข้าวกล้องหน้าหมูอบยอดคะน้า 3.) ข้าวกล้อง น้ำพริกพริกไทยอ่อน และอกไก่สมุนไพร ส่วนเครื่องดื่มหวานน้อยร้อยละ 5 เป็นเมนูน้ำอัญชัญช่อดอกมะพร้าว นอกจากนี้ ยังมีเมนูทานเล่น เช่น เมนูเครปเพื่อสุขภาพ เมนูสลัดผักออร์แกนิก เมนูแซนวิส และเครื่องดื่มร้อน เย็น นานาชนิด สำหรับให้บริการลูกค้าอีกด้วย
นายศุภพิชญ์ โอภาสวิศัลย์ หัวหน้าเชฟครัวไทย ประจำ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ให้ข้อมูลระหว่างอภิปราย บทบาทการส่งต่อผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มลดหวานสู่ประชาชน ว่า จากความตั้งใจของผู้บริหาร คุณพอลล์ กาญจนพาสน์ ที่ปลูกฝังให้กับพวกเราชาวอิมแพ็คให้ความสำคัญกับลูกค้าเปรียบเสมือนเพื่อนที่เข้ามาทานอาหารในบ้านของเรา ต้องให้เขาได้รับประทานอาหารที่ดี และปลอดภัย การได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การพัฒนาเมนูชูสุขภาพ เครื่องดื่มหวานน้อยร้อยละ 5 ทำงานร่วมกันกับสำนักโภชนาการ กรมอนามัย ทำให้เชฟอิมแพ็ค ได้รับคำแนะนำเรื่องปริมาณหรือสัดส่วนของวัตถุดิบที่เหมาะสม เพื่อให้อาหารที่ปรุงเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพ เช่น การลดปริมาณเครื่องปรุงรสในอาหารลง หรือการแนะนำปริมาณที่เหมาะสมของการบริโภคในหนึ่งมื้อ ซึ่งได้นำความรู้เหล่านี้มาเป็นแนวทางในการพัฒนาเมนูอาหาร จนได้การรับรองว่าเป็นเมนูชูสุขภาพ
นอกจากนั้นทีมเชฟอิมแพ็ค ยังให้ความใส่ใจเพิ่มเติมในทุกๆ รายละเอียดไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้วัตถุดิบทางเลือกเพื่อสุขภาพดี เช่น การเลือกใช้น้ำมันรำข้าวที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ในการทำน้ำสลัด ผักในกล่องสลัดเป็นพืชผักเกษตรอินทรีย์ ในโครงการ อิมแพ็ค ฟาร์ม สร้างความเชื่อมั่นเรื่องความปลอดภัย รวมถึงการคิดเผื่อไปถึงปริมาณสารอาหารในแต่ละมื้ออาหาร เช่น สัดส่วนของสารอาหารประเภทโปรตีน เต้าหู้ในเมนูสลัด เพื่อที่ผู้บริโภคนอกจากจะมีความสุขกับรสชาติของอาหารที่อร่อยแล้ว ยังให้พลังงานเสริมเรี่ยวแรงเพียงพอในการทำภารกิจประจำวันด้วย
อีกทั้งในฐานะนักปรุงอาหาร เชฟได้เสริมเทคนิคพิเศษในการทำอาหารเข้าไปในเมนูอาหารหลายๆ เมนู เช่น เทคนิคการทำอาหารแบบ Slow cook ที่เป็นการประกอบอาหารด้วยอุณหภูมิต่ำ และใช้เวลานาน เพื่อดึงรสกลมกล่อม (อูมามิ) ธรรมชาติของวัตถุดิบออกมา ซึ่งจะช่วยลดปริมาณการใช้เครื่องปรุงรสในอาหารลง รวมถึงการใช้เทคนิคการปรุงอาหารแบบร่วมสมัย การ Sous Vide เพื่อการควบคุมคุณภาพเนื้อสัมผัส และรักษาคุณภาพทางโภชนาการของอาหารเอาไว้ให้ได้มากที่สุด อย่างไรก็ตาม ด้วยความมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน อิมแพ็ค พร้อมสนับสนุนนโยบายและมาตรการลดการบริโภคหวานในประเทศไทย ของทางกระทรวงสาธารณะสุข พร้อมร่วมเป็นส่วนหนึ่งส่งต่อผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มลดหวานสู่ประชาชน เพื่อเสริมสร้างสุขภาพที่ดี
ที่มา: อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์