นายชูเกียรติ รุจนพรพจี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติให้ลงทุนในหุ้นสามัญของ บมจ. เอเชียซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น (AS) โดยการทำคำเสนอซื้อโดยสมัครใจแบบมีเงื่อนไข (Conditional Voluntary Tender Offer) ในราคาหุ้นละ 18.50 บาท รวมไปถึง ใบสำคัญแสดงสิทธิของ AS ครั้งที่ 2 (AS-W2) ในราคาหุ้นละ 15 บาท และ/หรือการไปถึงใช้สิทธิแปลง สภาพของ AS-W2 ในราคาหุ้นละ 3.50 บาท
ซึ่งเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2566 บริษัทฯ ได้เข้าถือหุ้นสามัญของ AS แล้วเป็นจำนวน 125,861,258 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 24.84 ของจำนวนหุ้นที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ AS
ทั้งนี้ บริษัท คาดว่าจำนวนหุ้น AS ที่จะทำคำเสนอซื้อ เป็นหุ้น AS จำนวนไม่เกิน 380,855,256 หุ้น ในราคาหุ้นละไม่เกิน 18.50 บาท คิดเป็นเงินทั้งสิ้นไม่เกิน 7,045,822,236 บาท และ AS-W2 จำนวนไม่เกิน 4,961,539 หน่วย ในราคาหน่วยละไม่เกิน 15.00 บาท รวมคิดเป็นเงินทั้งสิ้นไม่เกิน 74,423,085 บาท โดยบริษัทฯ จะใช้สิทธิแปลงสภาพซื้อหุ้นสามัญตาม AS-W2 ในราคาใช้สิทธิ 3.50 บาทต่อหุ้น คิดเป็นเงินทั้งสิ้นไม่เกิน 17,365,386.50 บาท ดังนั้น มูลค่าของรายการดังกล่าวจึงมีจำนวนรวมทั้งสิ้นไม่เกิน 7,137,610,707.50 บาท โดยหุ้นสามัญที่บริษัทฯ จะได้รับจากการเข้าทำรายการนี้ในกรณีที่มีการใช้สิทธิตาม AS-W2 เต็มจำนวน จะคิดเป็นร้อยละ 75.40 ของหุ้นทั้งหมดใน AS ภายหลังการใช้สิทธิดังกล่าว และจะทำให้ SABUY เข้าถือหุ้น AS ทั้งหมดประมาณ 100% หลังจากการทำเทนเดอร์ และ ใช้สิทธิ์แปลงสภาพ AS-W2 ในภายหลังในอัตรา AS-W2 1 หน่วยต่อหุ้น AS 1 หุ้นที่ราคา 3.50 บาท
โดยรายการเทนเดอร์ครั้งนี้ การดำเนินการทำคำเสนอซื้อครั้งนี้จะเกิดขึ้นต่อเมื่อเงื่อนไขที่กำหนดไว้ได้ดำเนินการแล้วเสร็จสมบูรณ์แล้วเท่านั้น โดย SABUY มีเงื่อนไขที่ต้องดำเนินการก่อนเข้าทำรายการนี้ กล่าวคือ SABUY ต้องได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นให้เข้าทำรายการนี้และ ได้รับวงเงินสินเชื่อที่เพียงพอจากสถาบันการเงินเพื่อใช้เป็นแหล่งเงินทุนในการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ มีผู้ถือหุ้น AS มาแสดงเจตจำนงในการเสนอขายหุ้นไม่ต่ำกว่าร้อยละ 25 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของ AS เพื่อให้ SABUY ถือหุ้นไม่ต่ำกว่า 50% รวมถึงได้รับการอนุญาต และ/หรือผ่อนผันที่เกี่ยวข้องและจำเป็นตามที่กฎหมายกำหนดจากหน่วยงานราชการ หรือหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง
แต่อย่างไรก็ดี ขนาดรายการได้สูงสุดจากงบการเงินรวมของบริษัทฯ สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านการตรวจสอบโดยผู้สอบบัญชีรับอนุญาตจะมีมูลค่าของรายการมากกว่าร้อยละ 50 และเข้าข่ายเป็นรายการประเภทที่ 1 ตามประกาศรายการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งทรัพย์สิน
บริษัทฯ จึงมีหน้าที่ปฏิบัติตามประกาศรายการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งทรัพย์สิน รวมถึงมีหน้าที่ดำเนินการดังต่อไปนี้
(1) จัดทำรายงาน และเปิดเผยสารสนเทศที่เกี่ยวข้องกับรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ
(2) ส่งหนังสือเชิญประชุมผู้ถือหุ้นให้แก่ผู้ถือหุ้นเป็นการล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 14 วัน โดยมีสารสนเทศอย่างน้อยตามที่ประกาศรายการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์กำหนด
(3) จัดให้มีการประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อขออนุมัติการเข้าทำรายการดัง กล่าว โดยบริษัทฯ จะต้องได้รับอนุมัติด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของจำนวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้นที่มาประชุมและมีสิทธิออกเสียงลงคะแนน โดยไม่นับส่วนได้เสียของผู้ถือหุ้นที่มีส่วนได้เสีย และ
(4) จัดให้มีที่ปรึกษาทางการเงินอิสระที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อให้ความเห็นแก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ เกี่ยวกับการเข้าทำรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ และจัดส่งความเห็นดังกล่าวพร้อมหนังสือนัดประชุมผู้ถือหุ้น
AS เป็นผู้ให้บริการด้านความบันเทิงออนไลน์ (Online Entertainment Service) ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยเป็นผู้น ในการให้บริการเกมออนไลน์ (Game Online Operator) อันดับหนึ่งในประเทศไทยและประเทศสิงคโปร์ และอันดับสองในประเทศมาเลเซีย และประเทศเวียดนาม ปัจจุบัน AS ให้บริการเกมออนไลน์รวม 33 เกม ในประเทศไทย ประเทศสิงคโปร์ประเทศมาเลเซีย ประเทศฟิลิปปินส์ ประเทศเวียดนาม และประเทศอินโดนีเซีย
การสร้างพันธมิตรกับกลุ่ม AS ซึ่งเป็นผู้นeในการให้บริการเกมออนไลน์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ให้บริการเกมออนไลน์ทั้งบนระบบ PC และ Mobile Phone จ นวนกว่า 33 เกม ใน 5 ประเทศมีเกมทั้งในรูปแบบ MMORPG, FPS และ Casual Game โดยให้บริการในลักษณะ Free to Play และมีการขายสิ่งของต่าง ๆ ภายในเกม ซึ่งเป็น Platform ที่ท ให้เกิด Micro-transaction และลูกค้าที่มีการซื้อซ้ำ (Repeat Customer) จำนวนมาก ซึ่งทำให้เกิดการใช้บริการช ระเงิน และสร้างฐานข้อมูลของ ลูกค้าเป็นจำนวนมาก ซึ่งจะเปิดโอกาสให้บริษัทฯ สามารถขยายระบบนิเวศทางธุรกิจของบริษัทฯจากการเข้าถึงฐานลูกค้าที่ใหญ่ขึ้น ไปสู่ระดับภูมิภาค ประกอบด้วย ไทย เวียตนาม มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโตนิเซีย และฟิลิปปินส์ อีกทั้งยังสามารถนำเสนอสินค้าและบริการได้หลากหลายมากขึ้น
จากความมุ่งมั่นที่ SABUY ได้มีการขยายธุรกิจต่างๆอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการวางกลยุทธ์ด้าน Sustainability ในการเติบโต หรือ Growth Strategy อย่างมีนัยสำคัญ โดยในส่วนของการเติบโตอย่างยั่งยืน หรือ Sustainability Growth นั้น บริษัทฯ ได้มีการเสริมสร้างความแข็งแกร่งทั้งด้านการพัฒนาบุคลากร การนำเอาเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ในระบบงาน การปรับปรุงกระบวนการทำงาน การบริหารความเสี่ยง การกำกับดูแลบริษัทที่ดี การตรวจสอบภายใน ซึ่งทั้งหมดนี้จะเป็นส่วนสำคัญ และมีส่วนช่วยให้ SABUY สามารถเติบโต มั่นคง และยั่งยืน ต่อไปในอนาคต
ที่มา: แบรนด์ เวลท์