โดยออกตรวจตราดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อย กวดขันไม่ให้มีผู้ฝ่าฝืนขับขี่ หรือจอดรถบนทางเท้าตามถนนต่าง ๆ รวมทั้งตั้งจุดจับ-ปรับบริเวณที่มีการฝ่าฝืนจำนวนมาก โดยระหว่างเดือน ก.ค.61 - 28 ก.พ.66 จับกุมผู้ฝ่าฝืนแล้ว 46,990 ราย ปรับเป็นเงิน 51,145,169 บาท และหากผู้ฝ่าฝืนก่อให้เกิดความเดือดร้อนกับประชาชน เช่น ทะเลาะวิวาท ทำร้ายร่างกาย เฉี่ยวชนผู้ใช้ทางเท้าจนได้รับบาดเจ็บ หรือต่อสู้ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่จะดำเนินคดีเปรียบเทียบปรับในอัตราสูงสุด พร้อมทั้งส่งเรื่องให้สถานีตำรวจนครบาลท้องที่ดำเนินคดีอาญาอีกข้อหาหนึ่งด้วย
นอกจากนั้น ยังได้ดำเนินการตามโครงการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่าง กทม.กับภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน เพื่อจัดระเบียบเมือง รณรงค์ไม่จอด หรือขับขี่รถยนต์ รถจักรยานยนต์บนทางเท้า โดยเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมแจ้งเบาะแสผู้กระทำความผิดผ่านช่องทางต่าง ๆ อาทิ www.bangkok.go.th/reward เพจเฟซบุ๊กสำนักเทศกิจ หรือแจ้งโดยตรงต่อเจ้าหน้าที่เทศกิจ กทม.ทุกสำนักงานเขต หากข้อมูลที่แจ้งนำไปสู่การจับกุมผู้กระทำผิดตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดฯ ผู้แจ้งเบาะแสจะได้รับส่วนแบ่งค่าปรับจำนวนกึ่งหนึ่ง จากการดำเนินการตามโครงการดังกล่าว ส่งผลให้ประชาชนผู้ใช้ทางเท้าได้รับความสะดวกและปลอดภัย รวมทั้งช่วยลดอุบัติเหตุและความสูญเสียได้มากขึ้น
นางสาวอัญชนา บุญสุยา ผู้อำนวยการเขตบางรัก กทม.กล่าวว่า สำนักงานเขตฯ ได้ประสานสถานีตำรวจนครบาลบางรัก ร่วมกวดขัน จับกุม ดำเนินคดีผู้ฝ่าฝืนจอด หรือขับขี่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ หรือล้อเลื่อนบนทางเท้า โดยเฉพาะผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างสาธารณะที่สามารถระบุตัวตนได้ บริเวณแยกศาลาแดง ถนนสีลม พบผู้ฝ่าฝืน จำนวน 3 ราย จึงได้จับปรับผู้กระทำผิด ตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาด ทั้งนี้ สำนักงานเขตฯ ได้ดำเนินการตามโครงการกวดขันรถยนต์และรถจักรยานยนต์จอด หรือขับขี่บนทางเท้า รวมถึงการแจ้งเบาะแส เพื่อรับส่วนแบ่งค่าปรับของประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยจัดกำลังเจ้าหน้าที่เทศกิจ กวดขัน ตรวจตรา เพื่อเฝ้าระวังไม่ให้มีการกระทำความผิด และการตั้งจุดจับ-ปรับผู้ฝ่าฝืนจอด หรือขับขี่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ หรือล้อเลื่อนบนทางเท้า เพื่อป้องปรามไม่ให้มีผู้กระทำความผิดและป้องกันอันตรายกับประชาชนที่สัญจรบนทางเท้า หากพบผู้กระทำความผิด นอกจากดำเนินการตามกฎหมายแล้ว จะได้แนะนำให้ความรู้ เพื่อสร้างจิตสำนึกให้ผู้ขับขี่เคารพกฎจราจรและคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ใช้ทางเท้าเป็นลำดับแรก
ที่มา: กรุงเทพมหานคร