นายสุเมธ ลักษิตานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ท่าฉาง กรีน เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ TGE เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 2 /2566 เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2566 ได้มีมติอนุมัติเกี่ยวกับการเพิ่มทุนเพื่อเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement หรือ PP) และมีมติให้นำเสนอการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2566 เพื่อพิจารณาอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ จำนวน 65,000,000 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 1,100,000,000 บาท เป็นทุนจดทะเบียนจำนวน 1,165,000,000 บาท
โดยเป็นการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 130,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท เพื่อเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement หรือ PP) โดยได้กำหนดราคาเสนอขายไว้ชัดเจน ในราคาเสนอขายหุ้นละ 2 บาท รวมเป็นมูลค่าทั้งสิ้นไม่เกิน 260,000,000 บาท แก่นักลงทุนรายใหญ่ จำนวน 5 ราย ทั้งนี้ ราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับบุคคลในวงจำกัด 2.00 บาทต่อหุ้นในครั้งนี้ เป็นราคาเจรจาต่อรองระหว่างบริษัทและนักลงทุน ซึ่งเป็นราคาที่สูงกว่าราคาเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักย้อนหลัง 15 วันทำการก่อนคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติรายการนับจาก 9 มีนาคม 2566 จนถึง 29 มีนาคม 2566 ที่คำนวณได้เท่ากับ 1.89 บาทต่อหุ้น และเป็นราคาเท่ากับราคา IPO โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติให้เสนอวาระต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้น เพื่อพิจารณาอนุมัติให้บริษัทออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่บุคคลในวงจำกัดดังนั้น การเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่บุคคลในวงจำกัดในคราวนี้ จึงไม่เข้าข่ายเป็นการออกและเสนอขายหุ้นออกใหม่ในราคาต่ำกว่าร้อยละ 90 ของราคาตลาด ประกอบกับการเสนอขายหุ้น PP ที่กำหนดราคาเสนอขายชัดเจน จะต้องเสนอขายให้แล้วเสร็จในระยะเวลาไม่เกิน 3 เดือนนับแต่วันที่ที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติ
บริษัทฯ จะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน PP รวมประมาณ 260 ล้านบาท เพื่อใช้ในการขยายการลงทุน เพื่อสร้างโอกาสเติบโตในระยะยาวต่อไป สอดรับกับแผนยุทธศาสตร์ของบริษัทฯ ที่มุ่งเป็นผู้นำอุตสาหกรรมพลังงานทดแทนที่เป็นมิตรต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม และเพื่อก้าวเป็นผู้นำอุตสาหกรรมพลังงานทดแทนในประเทศไทย โดยจะนำเงินไปรองรับการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชนที่ชนะการประมูล ได้แก่ 1) โครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชนตำบลท่าจีน จังหวัดสมุทรสาคร (TES TCN) กำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้ง 9.9 เมกะวัตต์ (MW) และปริมาณไฟฟ้าที่เสนอขายตามสัญญา (PPA) จำนวน 8 MW ซึ่งคาดว่าจะสามารถดำเนินการผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) และเริ่มรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชน TES-TCN ตั้งแต่ปี 2568 เป็นต้นไป และ 2) โครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชนตำบลหนองมะโมง จังหวัดชัยนาท (TES CNT) กำลังการผลิตติดตั้ง 8 MW มีปริมาณไฟฟ้าที่จะเสนอขายตามสัญญา (PPA) 6 MW คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จ และสามารถดำเนินการผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) และเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ปี 2568 ซึ่งทั้ง 2 โครงการดังกล่าวนี้ จะช่วยเพิ่มรายได้ของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 70% ต่อปี และจะส่งผลให้ TGE สามารถเติบโตได้อย่างมั่นคงในระยะยาว ได้รับกระแสเงินสดอย่างสม่ำเสมอในอนาคต
"การเพิ่มทุนโดยการออกหุ้นสามัญให้ PP ทำให้บริษัทฯ สามารถระดมทุนในระยะเวลาที่รวดเร็วมากกว่าการระดมทุนด้วยวิธีเพิ่มทุนให้กับผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วน (RO) และยังไม่เป็นภาระให้กับผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ที่ต้องจัดหาเงินเพื่อมาเพิ่มทุนให้กับบริษัทฯ และยังช่วยเพิ่มความมั่นคงทางการเงินให้กับบริษัทฯ เพราะจะส่งผลให้อัตราส่วน D/E ratio ของบริษัทฯ ลดลงจากสิ้นปี 65 ซึ่ง D/E ratio อยู่ที่ 0.60 เท่า หากเพิ่มทุนสำเร็จคาดว่า D/E ratio จะปรับลงมาอยู่ที่ 0.54 เท่า การเพิ่มทุนครั้งนี้ บริษัทฯ ได้มีการคัดสรรนักลงทุนที่มีศักยภาพ มีความน่าเชื่อถือและประสบการณ์ในการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จลุล่วงได้เป็นอย่างดี" นายสุเมธ กล่าว
ที่มา: เอ็ม ที มัลติมีเดีย