ฟิทช์ เรทติ้งส์: ธนาคารไทยน่าจะสามารถรับมือกับภาวะเศรษฐกิจโลกที่ผันผวนมากขึ้นได้

ศุกร์ ๓๑ มีนาคม ๒๐๒๓ ๑๕:๕๒
งานสัมมนาของฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) ในหัวข้อ '2023 Thailand Economic and Bank Outlook' กล่าวว่า ภาคธนาคารไทยน่าจะมีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นในปี 2566 จากการตั้งสำรองหนี้สูญที่ลดลงและการเติบโตของสินเชื่อ โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งขึ้น

ดร. สมประวิณ มันประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Economic Intelligence Center (EIC) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (SCB: BBB/Stable) กล่าวในการบรรยายว่า เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มขยายตัวได้ดีกว่าที่เคยประเมินไว้ เศรษฐกิจจีนน่าจะเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งหลังกลับมาเปิดประเทศ SCB EIC คาดว่าธนาคารกลางรายใหญ่มีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายและน่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ในระดับสูงเป็นเวลาต่อเนื่อง จากการที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่ยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูง SCB EIC ปรับเพิ่มประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2566 เป็น 3.9% จากเดิม 3.4% โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการฟื้นตัวที่ดีขึ้นมากของภาคท่องเที่ยวและภาคบริการ

คุณจินดารัตน์ สิริสิทธิโชติ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายจัดอันดับเครดิตสถาบันการเงินของฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ฟิทช์คาดว่าธนาคารพาณิชย์ไทยน่าจะมีผลการดำเนินงานที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปในปี 2566 เนื่องจากการตั้งสำรองหนี้สูญที่ลดลงและสินเชื่อที่เติบโตสูงขึ้น ในขณะที่ธนาคารไทยยังคงเผชิญกับแรงกดดันด้านคุณภาพสินทรัพย์ต่อเนื่องจากการที่มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ทยอยหมดอายุลงและการที่ธนาคารทยอยลดสัดส่วนสินเชื่อที่ได้รับการปรับโครงสร้าง อย่างไรก็ตามธนาคารไทยยังคงมีความสามารถในการรองรับความเสี่ยงที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง เช่นในด้าน เงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่นับเป็นส่วนของเจ้าของ (Common Equity Tier 1) และอัตราส่วนสำรองต่อหนี้สูญต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ โดยมีค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมที่ 15.3% และ 171% ตามลำดับ ณ สิ้นปี 2565

นอกจากนี้ฟิทช์ยังคาดว่าฐานะสภาพคล่องของธนาคารไทยจะยังคงมีเสถียรภาพ เนื่องจากธนาคารไทยส่วนใหญ่มีการระดมเงินจากเงินฝากโดยไม่ได้มีการพึ่งพาการระดมเงินจากตลาดทุนหรือจากต่างประเทศในระดับที่มีนัยสำคัญ ทั้งนี้อัตราส่วนของปริมาณสินทรัพย์สภาพคล่องทั้งสิ้นต่อประมาณการกระแสเงินสดไหลออกสุทธิ (Liquidity Coverage Ratio) เฉลี่ยของอุตสาหกรรมยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูงที่ 192% ณ สิ้นปี 2565 ทั้งนี้ฟิทช์เพิ่งมีการปรับประมาณการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจไทย (GDP) เป็น 4.0% จาก 3.8% จากการคาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมท่องเที่ยวน่าจะฟื้นตัวได้ดีขึ้นโดยได้แรงหนุนจากการเปิดประเทศของจีน

ที่มา: ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย)

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ