ฟิทช์ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศของ บล. ดาโอ (ประเทศไทย)ที่ 'BB+(tha)' ยกเลิก 'เครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบ' และให้ 'แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ'

จันทร์ ๐๓ เมษายน ๒๐๒๓ ๐๙:๐๓
ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) ประกาศคงอันดับเครดิตในประเทศระยะยาวและอันดับเครดิตในประเทศระยะสั้นของบริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DAOLSEC ที่ 'BB+(tha)' และ'B(tha)' ตามลำดับ พร้อมกันนี้ ได้ยกเลิก 'เครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบ' และให้ 'แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ' แก่อันดับเครดิตในประเทศระยะยาว

การประกาศคงอันดับเครดิตและยกเลิก 'เครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบ' สะท้อนถึงมุมมองของฟิทช์ว่า การเพิ่มทุนของบริษัทจะช่วยเพิ่มความสามารถในการรองรับความเสียหาย (loss-absorption capacity) และช่วยลดผลกระทบจากความเสี่ยงทางลบต่อคุณภาพสินทรัพย์และผลประกอบการในกรณีที่อาจมีการตั้งสำรองเพิ่มขึ้นในอนาคต

ในขณะเดียวกัน ฟิทช์ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของหุ้นกู้ด้อยสิทธิของ DAOLSEC ที่ 'BB(tha)' และยกเลิก'เครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบ' อันดับเครดิตนี้ยังรวมไปถึงหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่อยู่ในขั้นตอนการออกเสนอขาย ซึ่งฟิทช์ได้ให้อันดับเครดิตไว้เมื่อ 14 ธันวาคม 2565 โดยการออกเสนอขายครั้งมีมูลค่าเสนอขายเพิ่มขึ้นเป็นไม่เกิน 450 ล้านบาท หุ้นกู้ ด้อยสิทธิชุดนี้จะมีอายุ 1 ปีโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำไปชำระคืนหุ้นกู้ด้อยสิทธิชุดเดิม

ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต
การเพิ่มทุนในระดับสูงช่วยสนับสนุนอันดับเครดิต: DAOLSEC ดำเนินการเพิ่มทุนจำนวน 400 ล้านบาท โดยได้รับเงินสนับสนุนเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2566 จากผู้ถือหุ้นซึ่งคือ บริษัท ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด เงินเพิ่มทุนนี้ส่งผลให้อัตราส่วนสินทรัพย์มีตัวตนต่อส่วนของผู้ถือหุ้นที่ไม่รวมสินทรัพย์ไม่มีตัวตน (tangible assets-to-tangible equity ratio) ลดลงจากระดับ 5.9 เท่า ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2565 เป็นต่ำกว่า 4.0 เท่า ช่วยให้กิจการมีเงินทุนเพิ่มขึ้นมากในการรองรับความเสี่ยงเชิงลบที่อาจเกิดขึ้น

กระบวนการทางกฎหมายยังคงดำเนินอยู่: DAOLSEC เป็น 1 ใน 11 บริษัทหลักทรัพย์ที่ได้รับผลกระทบจากธุรกรรมการ ซื้อขายหลักทรัพย์ บริษัท มอร์ รีเทิร์น จำกัด (มหาชน) ที่มีความผิดปกติในเดือนพฤศจิกายน 2565 ซึ่งกิจการมีสถานะที่มีความเสี่ยง (exposure) ในธุรกรรมดังกล่าวในปริมาณที่มีนัยสำคัญต่อลูกหนี้ธุรกิจหลักทรัพย์ ทั้งนี้ ศาลได้มีคำสั่งให้อายัดทรัพย์สิน ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว และพนักงานอัยการได้ยื่นคำร้องขอต่อศาลเพื่อดำเนินการต่อสินทรัพย์ของกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้อง บริษัทหลักทรัพย์ที่ได้รับผลกระทบได้ดำเนินการยื่นคำร้องขอคุ้มครองสิทธิ์เพื่อดำเนินการขอชดเชยความเสียหายแล้ว แต่ผลการตัดสินคดีความนั้นยังอาจใช้เวลาระยะหนึ่ง

มีความเสี่ยงเชิงลบจากคุณภาพสินทรัพย์: DAOLSEC บันทึกบัญชีที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมผิดนัดชำระดังกล่าวเป็นลูกหนี้ที่มีการด้อยค่าด้านเครดิต และมีการตั้งสำรองบางส่วนแล้ว อย่างไรก็ตาม โอกาสในการได้รับชดเชยนั้นยังมีความไม่แน่นอนในระดับสูง ซึ่งหากกิจการไม่สามารถตัดจำหน่ายหนี้สูญได้ทั้งจำนวน อาจทำให้มีการตั้งสำรองด้อยค่าเพิ่ม ทำให้มีความเสี่ยงที่ผลประกอบการจะขาดทุนอีกปีหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ฟิทช์เชื่อว่าส่วนของผู้ถือหุ้นในระดับปัจจุบันจะช่วยรองรับให้บริษัทสามารถตั้งสำรองเพิ่มในขณะที่ยังรักษาเสถียรภาพของระดับหนี้สินให้สอดคล้องกับอันดับเครดิตในปัจจุบันได้

มีระดับเครือข่ายทางธุรกิจที่เพียงพอ: ฟิทช์คาดว่าการเพิ่มทุนในครั้งนี้จะช่วยให้กิจการสามารถรักษาความเชื่อมั่นของลูกค้าและผู้ลงทุนได้ และการประกาศคงอันดับเครดิตนี้อยู่บนสมมติฐานว่า ผลกระทบจากเหตุการณ์ที่กล่าวมา จะไม่ทำให้เกิดความเสียหายที่มีนัยสำคัญต่อเครือข่ายทางธุรกิจ (franchise) ของ DAOLSEC ในระยะยาว ทั้งนี้ กิจการมีส่วนแบ่งทางการตลาดในธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ลดลงจาก 1.3% ในปี 2565 อยู่ที่ระดับ 0.9% ในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม DOALSEC ยังคงสามารถรักษาระดับตำแหน่งทางการตลาดในธุรกิจอื่นเช่น ธุรกิจนายหน้าซื้อขายสัญญาล่วงหน้าและการจัดจำหน่ายหุ้นกู้

ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต
ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้เกิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน):
อันดับเครดิตภายในประเทศของ DAOLSEC อาจถูกปรับลดอันดับเครดิตลง หากระดับหนี้สินของกิจการปรับตัวด้อยลงอย่างมีนัยสำคัญ เช่น อัตราส่วนสินทรัพย์มีตัวตนต่อส่วนของผู้ถือหุ้นที่ไม่รวมสินทรัพย์ไม่มีตัวตน (tangible assets-to-tangible equity ratio) อยู่ในระดับคงที่มากกว่า 5.5 เท่า ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้จาก การมีความเสี่ยงคุณภาพสินทรัพย์เพิ่มขึ้นซึ่งทำให้มีความจำเป็นที่ต้องตั้งสำรองเพิ่ม หรือ ผลประกอบการที่ปรับตัวด้อยลงต่ำกว่าคาดอย่างมีสาระสำคัญและส่งผลระทบต่อการสร้างเงินทุนจากกระแสเงินสดภายใน (Internal Capital Generation) หรือมีเหตุการณ์ที่บ่งชี้ได้ว่า กิจการมีจุดอ่อนด้านการควบคุมความเสี่ยงเมื่อเทียบกับผู้ประกอบการรายอื่น หรือ มีความเสียหายระยะยาวต่อความเชื่อมั่นของลูกค้าและเจ้าหนี้ ซึ่งอาจส่งผลกระทบให้อันดับเครดิตปรับลดลงได้

ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้เกิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)
ฟิทช์เห็นว่า ปัจจัยที่ส่งผลให้ปรับเพิ่มอันดับเครดิตในระยะอันใกล้นั้นมีจำกัด เนื่องจาก คุณภาพสินทรัพย์และผลประกอบการตลอดจนการควบคุมด้านความเสี่ยงของกิจการนั้นปรับตัวด้อยลง และยังมีความเสี่ยงที่อาจต้องตั้งสำรองเพิ่ม

อันดับเครดิตตราสารหนี้และอันดับเครดิตอื่น: ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต
อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของหุ้นกู้ด้อยสิทธิมีระดับที่ต่ำกว่าอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของDAOLSEC อยู่ 1 อันดับ สะท้อนถึงความเสี่ยงของการขาดทุนจากการชำระคืนเงินกู้ (loss severity risks) ของหุ้นกู้ด้อยสิทธิ ที่มีมากกว่าเมื่อเทียบกับตราสารหนี้ที่ไม่ด้อยสิทธิซึ่งเป็นผลมาจากสถานะด้อยสิทธิของหุ้นกู้ โดยผู้ถือหุ้นกู้จะมีลำดับสิทธิในการเรียกร้อง (priority of claims) ด้อยกว่าเจ้าหนี้สามัญ ซึ่งเป็นแนวทางการพิจารณาอันดับเครดิตที่สอดคล้องกับเกณฑ์การจัดอันดับเครดิตของฟิทช์ (Corporate Hybrids Treatment and Notching Criteria)

ฟิทช์ไม่ได้ปรับลดอันดับเครดิตของหุ้นกู้ด้อยสิทธิดังกล่าวเพิ่มเติม เนื่องจากไม่มีคุณสมบัติรองรับผลขาดทุนระหว่างการดำเนินกิจการ (going-concern loss absorption features) และไม่มีคุณสมบัติการแปลงเป็นทุน (equity conversion) ฟิทช์ไม่ได้พิจารณาให้หุ้นกู้ด้อยสิทธิดังกล่าวมีส่วนของหนี้ที่คิดเป็นทุน (equity credit) เนื่องจากหุ้นกู้ด้อยสิทธิดังกล่าวไม่ได้มีวัตถุประสงค์ที่จะนับรวมเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างเงินทุนของบริษัท

อันดับเครดิตตราสารหนี้และอันดับเครดิตอื่น: ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต
อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของหุ้นกู้ด้อยสิทธิจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางเดียวกันกับอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ DAOLSEC การปรับอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ DAOLSEC ก็น่าจะส่งผลให้อันดับเครดิตภายในประเทศของหุ้นกู้ด้อยสิทธิได้รับการปรับอันดับเช่นกัน

รายละเอียดของอันดับเครดิตมีดังนี้:
DAOLSEC:

  • อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว ที่ 'BB+ (tha)'; ให้แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ จากเดิม เครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบ
  • อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้น ที่ 'B (tha)'; ยกเลิกเครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบ
  • อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของหุ้นกู้ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน ที่ 'BB (tha)'; ยกเลิกเครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบ

ที่มา: ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย)

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ