'พรินซิเพิล' โชว์ผลงานจ่ายเงินปันผล 2 กองทุนเด่นแก่ผู้ถือหน่วย PRINCIPAL iPROP-A อัตราประมาณ 0.259 บาทต่อหน่วย และ PRINCIPAL DEF อัตรา 0.50 บาทต่อหน่วย

จันทร์ ๐๓ เมษายน ๒๐๒๓ ๐๙:๒๔
บลจ. พรินซิเพิล โชว์ผลงานจ่ายเงินปันผลกองทุนเปิด PRINCIPAL iPROP-A อัตราประมาณ 0.259 บาทต่อหน่วย ที่มีนโยบายลงทุนในกองทุนรวมอสังหาฯ ในไทยและสิงคโปร์ พร้อมเพิ่มน้ำหนักลงทุนในรีทส์กลุ่มอุตสาหกรรม ค้าปลีกและฮอสพิทาลิตี้ มองเป็นปีแห่งโอกาสลงทุนในรีทส์ในไทยและสิงคโปร์ รับปัจจัยบวกจากการปรับทิศทางนโยบายการเงินของ Fed และจ่ายเงินปันผลกองทุนเปิด PRINCIPAL DEF อัตรา 0.50 บาทต่อหน่วย ที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่งสามารถเติบโตอย่างยั่งยืนและได้รับมอร์นิ่งสตาร์ 5 ดาว มองตลาดหุ้นไทยปี 2566 รับปัจจัยบวกท่องเที่ยวฟื้นตัว การเลือกตั้งใหญ่ เดือนพฤษภาคมนี้ และกำไรของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่มีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างมีเสถียรภาพมากขึ้น

นายจุมพล สายมาลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน พรินซิเพิล จำกัด เปิดเผยว่า กองทุนเปิดพรินซิเพิล พร็อพเพอร์ตี้ อินคัม ชนิดสะสมมูลค่า (PRINCIPAL iPROP-A) และกองทุนเปิดพรินซิเพิล หุ้นปันผล (PRINCIPAL DEF) เป็นกองทุนที่สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีแก่ผู้ถือหน่วยลงทุนมาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา โดยล่าสุด กองทุนเปิด PRINCIPAL iPROP-A ได้ประกาศอัตราประมาณการจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหน่วย สำหรับงวดบัญชีสิ้นสุดวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 ที่อัตราหน่วยละ 0.259 บาท

จุดเด่นของกองทุนเปิด PRINCIPAL iPROP มีนโยบายเน้นลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยและสิงคโปร์ ปัจจุบันมีสัดส่วนการลงทุนในไทยและสิงคโปร์อย่างละประมาณ 50% ภายใต้กลยุทธ์ Barbell Strategy ด้วยการเพิ่มน้ำหนักลงทุน (Overweight) ในกองทุนรวมอสังหาฯ กลุ่ม Defensive ที่มีความผันผวนต่ำ เช่น กลุ่มอุตสาหกรรม (Industrial), กลุ่ม Reopening ที่ได้รับประโยชน์จากการเปิดประเทศ และนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทยเพิ่มขึ้น เช่น กลุ่มค้าปลีก (Retail), กลุ่มฮอสพิทาลิตี้ (Hospitality) ที่เกี่ยวข้องกับการบริการ เป็นต้น เพื่อกระจายความเสี่ยงและลดความผันผวนของพอร์ตการลงทุน

ทั้งนี้ ในปี 2566 บลจ. พรินซิเพิล มองการลงทุนในกองทุนรวมอสังหาฯ มีแนวโน้มจะสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่ดี เนื่องจากได้รับปัจจัยบวกจากการปรับทิศทางนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed Pivot) โดยตลาดมองว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ Fed มีโอกาสปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้อีกเพียง 1 ครั้ง และอาจเห็นการคงหรือปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ อย่างไรก็ตามตลาดอาจเกิดการปรับฐานเป็นระยะบ้างเนื่องจากปัจจัยความไม่แน่นอนต่างๆ เช่น การเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐอเมริกาและยุโรป เป็นต้น หลังเกิดเหตุการณ์ Silicon Valley Bank (SVB) และ Signature Bank ในประเทศสหรัฐอเมริกา ปิดกิจการ

"เรามองว่าปีนี้จะเป็นปีที่ดีของการลงทุนกองรีทส์ในไทยและสิงคโปร์ เนื่องจากนักท่องเที่ยวจีนมีแนวโน้มเข้ามาท่องเที่ยวในไทยมากขึ้น หลังจากจีนเปิดประเทศอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา โดยรายได้ของกองรีทส์ในไทยส่วนใหญ่ยังมีอัพไซด์เหลืออีกประมาณ 30% จากระดับก่อนเกิด COVID-19 อย่างไรก็ตามเรามีมุมมองลดน้ำหนักการลงทุนรีทส์ในกลุ่มออฟฟิศ เนื่องจากเทรนด์การทำงานแบบไฮบริดทำให้หลายบริษัททั่วโลกไม่เพิ่มหรือลดพื้นที่เช่าออฟฟิศ ส่งผลให้เทรนด์ความต้องการใช้ออฟฟิศมีแนวโน้มชะลอตัวในอนาคต" นายจุมพล กล่าว

นายจุมพล กล่าวต่อว่า ขณะที่กองทุนเปิดพรินซิเพิล พรินซิเพิล หุ้นปันผล (PRINCIPAL DEF) ถือเป็นอีกหนึ่งกองทุนที่สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดี โดยล่าสุดได้จ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานของกองทุนฯ ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 ถึง 31 มกราคม 2566 ที่อัตราหน่วยละ 0.50 บาท แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา

จุดเด่นของกองทุนเปิด PRINCIPAL DEF ได้รับรางวัล Morningstar 5 ดาว โดยมีนโยบายลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง สามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืนและมีประวัติจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ โดยกองทุนดังกล่าว มีผลการดำเนินงานย้อนหลังที่แข็งแกร่งถูกจัดอยู่ในควอร์ไทล์ 1 ซึ่งเป็นระดับสูงสุด ในช่วงเวลา 3 เดือน 6 เดือน 1 ปี 3 ปี และ 5 ปีย้อนหลัง

(ข้อมูล ณ 2 มีนาคม 2566) เมื่อเทียบกับกองทุนประเภทเดียวกัน

ขณะที่ บลจ. พรินซิเพิล มองตลาดหุ้นไทยปี 2566 จะได้รับผลบวกจากปัจจัยต่างๆ ได้แก่ 1) ภาคการท่องเที่ยวฟื้นตัวจากการที่จีนเปิดประเทศ และคาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวชัดเจนในครึ่งปีหลังของปีนี้ 2) การเลือกตั้งใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีแนวโน้มลดลงที่ส่งผลดีต่อความรู้สึกในเชิงบวกของผู้บริโภคในประเทศ และ 3) กำไรของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่เริ่มฟื้นตัวอย่างมีเสถียรภาพมากขึ้น จากการเพิ่มขึ้นของดีมานด์และการลดลงของราคาวัตถุดิบรวมถึงค่าขนส่ง

"เรามีมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศ โรงพยาบาล อาหารและเครื่องดื่ม ที่มีกระแสเงินสดแข็งแกร่ง รวมถึงหุ้นในกลุ่มค้าปลีกและธนาคารที่จะได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวและการบริโภคภายในประเทศ และไม่แนะนำลงทุนในหุ้นวัฏจักร เช่น กลุ่มพลังงาน เป็นต้น" นายจุมพล กล่าว

ทั้งนี้ ผู้สนใจติดต่อขอรับหนังสือชี้ชวนหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารทิสโก้ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ธนาคารกรุงไทย ตัวแทนสนับสนุนการขายและรับซื้อคืน และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน พรินซิเพิล จำกัด โทร. 02-686-9500 หรือ www.principal.th สามารถเปิดบัญชีและทำรายการผ่าน Principal TH Mobile App สามารถดาวน์โหลดได้ที่ App Store และ Google Play และ https://www.principal.th/th/principalTH.html

คำเตือน
ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า (กองทุน) เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน / PRINCIPAL iPROP ลงทุนกระจุกตัวในกลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ (Property Sector Fund) ดังนั้นหากมีปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนดังกล่าว ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก / โปรดศึกษารายละเอียดเงื่อนไขการจ่ายเงินปันผลเพิ่มเติมในหนังสือชี้ชวนส่วนข้อมูลโครงการ / ผู้ลงทุนควรศึกษาเงื่อนไขการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติและการจ่ายเงินปันผลของหน่วยลงทุน แต่ละชนิดของกองทุน ได้ที่ www.principal.th / Morning Star: Copyright @ 2023 บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสริช์ ประเทศไทย สงวนลิขสิทธิ ข้อมูลที่ประกอบในเอกสารนี้ : (1) เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทมอร์นิ่งสตาร์ และ/หรือ ผู้ให้บริการข้อมูล (2) บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการทำซ้ำ หรือเผยแพร่ (3) บริษัทขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบต่อความถูกต้อง ครบถ้วน และความเสียหายต่างๆ ที่เกิดขึ้นทุกกรณีจากการนำข้อมูลไปใช้อ้างอิง ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

ที่มา: เอ็ม ที มัลติมีเดีย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ