บลจ.วรรณ ระบุ ปัจจัยด้านดอกเบี้ยกดดันหุ้นไทยระยะสั้นแนะลงทุนหุ้นปันผล

จันทร์ ๐๓ เมษายน ๒๐๒๓ ๐๙:๓๐
บลจ.วรรณ มอง กรอบการเคลื่อนไหวดัชนีหุ้นไทยปีนี้ 1,740 จุด หลังความกังวลภาคธนาคารต่างประเทศเริ่มลดลง ชี้หุ้นไทยระยะสั้นอาจถูกกดดันจากทิศทางดอกเบี้ยเฟด การไหลของเงินทุนและการปรับประมาณการ SET EPS แต่ได้ปัจจัยหนุนหลักด้านการท่องเที่ยวและเลือกตั้งครั้งใหญ่สามารถจำกัด Downside ได้ แนะกระจายความเสี่ยงลงทุนทั้งในและต่างประเทศ เน้นลงทุนหุ้นปันผล กองทุน ONE-SETHD

คุณพจน์ หะริณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.วรรณ เปิดเผยว่า บริษัทคาดการณ์ดัชนี SET Index ของปีนี้อยู่ที่ระดับ 1,740 จุด หลังความกังวลจากภาคธนาคารในต่างประเทศผ่อนคลายลง อีกทั้งราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้น ทั้งนี้ คาดว่าตลาดหุ้นไทยในระยะสั้นยังได้รับปัจจัยกดดันจากการไหลออกเงินเม็ดเงินลงทุนต่างชาติ จากแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) รวมถึงการถูกปรับลดประมาณการผลกำไรบริษัทจดทะเบียน (SET EPS) ในปี 2023-2024 จากนักวิเคราะห์ประมาณ -4.9% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่ถูกปรับประมาณการลงมากที่สุดคือ Agribusiness, Petrochemical และ Entertainment ซึ่งปัจจัยดังกล่าวอาจจะกดดันความเชื่อมั่นของนักลงทุนในระยะสั้น

อย่างไรก็ดี การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคภายในประเทศ รวมถึงการเลือกตั้งใหญ่ที่มีความชัดเจนมากขึ้น จะกลายเป็นปัจจัยบวกที่จะช่วยจำกัด Downside ของตลาดหุ้นไทยในระยะข้างหน้าได้

"การเลือกตั้งใหญ่ในวันที่ 14 พ.ค. 2566 อาจหนุนตลาดหุ้นไทยเข้าสู่จุดฟื้นตัวเกิด Election Rally จากความคาดหวังและมาตรการที่กระตุ้นฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในช่วงการหาเสียงเลือกตั้ง ซึ่งคาดว่าจะสูงถึงราว 1-1.2 แสนล้านบาท โดยจากสถิติในอดีตพบว่าในช่วงก่อนเลือกตั้ง 1 เดือน ไปจนกระทั่งผ่านพ้นการเลือกตั้งไปแล้ว 1 เดือน ผลตอบแทนเฉลี่ยของ SET Index อยู่ในช่วง +1.1% ถึง +5.3%" นายพจน์กล่าว

อย่างไรก็ดี บริษัทมองว่า นโยบายการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เป็นปัจจัยกดดันต่อต้นทุนทางการเงินของภาคเอกชนให้ปรับตัวสูงขึ้น ทั้งนี้ มองว่าการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยนโยบายล่าสุดที่ 0.25% เมื่อวันที่ 29 มีนาคมที่ผ่านมานั้นทำให้ดอกเบี้ยนโยบายขึ้นมาอยู่ที่ 1.75% จะเป็นระดับสูงสุดซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มเศรษฐกิจและการชะลอตัวของเงินเฟ้อซึ่งมีแนวโน้มที่จะกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายในปีนี้ได้

สำหรับคำแนะนำการลงทุนนั้น บริษัทมองว่า หุ้นไทยซึ่งมีมูลค่าหุ้นที่ไม่แพงมากเทียบกับตลาดสหรัฐฯ (ในแง่ Price-to-book และ Forward PE) จึงน่าจะเป็นหนึ่งในเป้าหมายของนักลงทุนต่างชาติในแง่การกระจายความเสี่ยง ซึ่งแนะนำซื้อสะสมเมื่อตลาดมีการแกว่งตัวลงในรายวัน ควบคู่กับการกระจายการลงทุนไปกองทุนต่างประเทศหากผู้ลงทุนสามารถรับความเสี่ยงจากการลงทุนในตลาดต่างประเทศได้ ทั้งนี้ เพื่อลดความเสี่ยงจากการกระจุกตัวในการลงทุนตลาดใดตลาดหนึ่ง

นายพจน์ กล่าวเสริมว่า กองทุนภายใต้การบริหารของบลจ.วรรณที่แนะนำให้ช่วงนี้ได้แก่ กองทุนเปิด วรรณ เซ็ท ไฮ ดิวิเดนด์ หุ้นทุน (ONE-SETHD) โดยบริษัทมองหุ้นที่คาดว่ามีผลประกอบการที่แข็งแกร่ง, มีอัตราการจ่ายปันผลที่ดีสม่ำเสมอ และหุ้นที่คาดว่ามีปัจจัยบวกเฉพาะตัวจะเป็นหุ้นที่น่าเก็งกำไรหลักในเดือน เม.ย. นี้

ที่มา: บลจ.วรรณ

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ