นายนิวัติ อดิเรก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยในฐานะที่บีซีพีจีเป็นผู้ถือหุ้นทางอ้อมของบริษัท มอนซูน วินด์ พาวเวอร์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม "มอนซูน" ขนาด 600 เมกะวัตต์ ที่แขวงเซกอง และแขวงอัตตะปือ ใน สปป. ลาว ว่า ขณะนี้โครงการฯ ได้ลงนามในสัญญาเงินกู้กับธนาคารพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank) หรือ เอดีบี และกลุ่มธนาคารที่ให้การสนับสนุนผ่านเอดีบีเรียบร้อยแล้ว พร้อมกันนี้สัญญาสัมปทาน (Concession Agreement) ในการใช้พื้นที่ดำเนินโครงการฯ ที่ได้ลงนามกับรัฐบาล สปป.ลาว และสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (Power Purchase Agreement) ของโครงการฯ ที่ได้ลงนามกับการไฟฟ้าแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม (EVN) ได้มีผลบังคับใช้สมบูรณ์แล้ว โดยโครงการฯ พร้อมรับเงินกู้งวดแรกตามสัญญาเงินกู้ และกำลังดำเนินการก่อสร้างโรงไฟฟ้าตามแผนงานที่กำหนด ซึ่งบริษัทฯ มั่นใจว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จ และสามารถเปิดดำเนินการขายไฟฟ้าให้กับ EVN ได้ในปี 2568 ภายใต้สัญญาซื้อขายไฟฟ้าเป็นระยะเวลาทั้งสิ้น 25 ปี กับการไฟฟ้าเวียดนามอย่างแน่นอน
"โครงการ "มอนซูน" ถือเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานสีเขียวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สามารถลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ไม่น้อยกว่า 750,000 ตันคาร์บอนเทียบเท่าต่อปี จึงเป็นโครงการที่สร้างความยั่งยืนและสนับสนุนภารกิจสำคัญในระดับโลก ที่จะ บรรลุการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Greenhouse Gas Emissions) ในปี 2050 ขณะเดียวกันโครงการฯ ยังสร้างความเจริญให้กับสปป.ลาวในพื้นที่โดยรอบและยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับคนในชุมชนพร้อมๆ กับเพิ่มศักยภาพในการเติบโตทางเศรษฐกิจให้กับสปป.ลาว เวียดนาม และประเทศเพื่อนบ้าน" นายนิวัติกล่าวเพิ่มเติม
สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม "มอนซูน" เป็นโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียในขณะนี้ และเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานลมแห่งแรกที่มีการซื้อขายไฟฟ้าข้ามพรมแดน ระหว่าง สปป.ลาว และเวียดนาม ผ่านสายส่งขนาด 500 กิโลโวลต์
.
ที่มา: บีซีพีจี