ซันเดย์ ประกันภัยถือว่าเป็นบริษัทประกันรายเดียวในประเทศไทยที่ประสบความสำเร็จในการเติบโตในวงกว้างผ่านการรับประกันแบบผสมผสานประสบการณ์ดิจิทัล (Embedded Insurance) โดยการทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ใหม่ในวงการประกันภัย (EcosystemPartnership)ในการให้บริการประกันภัยและการดูแลด้านสุขภาพผ่านโทรศัพท์มือถือการเคลมแบบดิจิทัลและบริการด้านไลฟ์สไตล์ โดยความร่วมมือนี้เกิดขึ้นจากกลุ่มบริษัทซันเดย์อินชัวร์เทคซึ่งประกอบด้วยซันเดย์ ประกันภัย (Sunday Insurance) ซันเดย์ อินส์ (Sunday Ins) ซันเดย์แคร์ (Sunday Care) และซันเดย์ เทคโนโลยี (Sunday Technology) โดยซันเดย์ ประกันภัย ยังคงยึดมั่นในการเป็นบริษัทประกันภัยดิจิทัลที่ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยออกแบบประกันภัย เพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้บริโภค
หัวใจหลักของการรีแบรนด์ในครั้งนี้ เพื่อทำให้ประกันภัยสามารถเข้าถึงได้ ตรงกับทุกไลฟ์สไตล์ และมอบประสบการณ์ ประกันภัยที่ยกระดับขึ้นอีกขั้นผ่านเทคโนโลยีมากมาย ไม่ว่าจะเป็น การปรับแต่งประกันภัยให้เหมาะกับคุณโดยเฉพาะ ในราคาที่เหมาะสมผ่าน AI เช่น การกำหนดราคาแบบไดนามิก (Dynamic Pricing) สำหรับลูกค้าประกันรถยนต์รายบุคคล การปรับความคุ้มครองรายบุคคลสำหรับลูกค้าประกันสุขภาพกลุ่ม และอื่นๆ ในอนาคต รวมไปถึงประกันภัยและเฮลท์แคร์ที่สะดวกสบาย และรวดเร็วผ่านซูเปอร์แอปฯ ที่ใช้ชื่อว่าJolly ซึ่งซูเปอร์แอปฯ Jollyนั้นถูกออกแบบมาให้แตกต่างจากแอปฯ ประกันภัยทั่วๆไปโดยซูเปอร์แอปฯนี้เปรียบเสมือนฝาแฝดดิจิทัลของลูกค้าที่ช่วยให้ลูกค้ารู้เท่าทันความเสี่ยงของตนมากขึ้นเพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกสบายและไร้กังวล นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์อื่นๆ ที่เปิดให้บริการแล้วสำหรับลูกค้า เช่น บริการปรึกษาแพทย์ออนไลน์ (Telemedicine) บริการปรึกษาและรับยาจากเภสัชกรแบบไม่ต้องชำระค่าบริการด้วยงินสด (Cashless) และบริการวิเคราะห์อาการป่วย (Doctr AI) การแจ้งเตือน PM2.5 และฟีเจอร์ไลฟ์สไตล์ดูดวง เป็นต้น ซูเปอร์แอปฯ Jolly มีผู้ใช้งานที่แอคทีฟต่อเดือน (MAU) อยู่ราวๆ 30 - 40% โดยนับเป็นตัวเลขอันดับต้นๆของแอปฯ ในวงประกันภัยโดยซันเดย์มีความมุ่งมั่นที่จะทำให้ประกันเป็นเรื่องที่เข้าถึง และเข้าใจง่าย โดยบริษัทฯ หวังว่าประสบการณ์ในการใช้ประกันภัยของลูกค้าทุกคนจะเรียบง่าย และสบายเหมือนกับวันอาทิตย์
คุณสิริสุข แมนเมตตกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซันเดย์ ประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด มหาชน กล่าวเสริม "เราขอขอบคุณความไว้วางใจที่ผู้บริโภคและพันธมิตรของเรามอบให้เราในการสนับสนุนการรีแบรนด์ในครั้งนี้ โดยเรามุ่งมั่นที่จะนำเสนอบริการที่แตกต่าง เราคาดว่าเราจะยังคงเติบโตมากกว่า 50% ของเบี้ยประกันภัยในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าเพื่อบรรลุเป้าหมาย 2 พันล้านบาทปฏิเสธไม่ได้เลยว่ายังมีบริษัทประกันที่ใหญ่กว่าเราอีกมาก แต่สิ่งที่สำคัญสำหรับเราคือ การเปลี่ยนทัศนคติของผู้บริโภคเกี่ยวกับการประกันภัยในประเทศไทย และการเจาะกลุ่มลูกค้าโดยการนำเทคโนโลยีต่างๆ มาประยุกต์ใช้ในการให้บริการและการออกแบบผลิตภัณฑ์การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลอาจต้องใช้เวลานาน สำหรับบริษัทประกันขนาดใหญ่ แต่สำหรับ ซันเดย์ ประกันภัย นั้นมีข้อได้เปรียบในการผลักดันสิ่งนี้สู่ตลาดเพราะเราเริ่มจาก การดิสรัป (Disrupt) ตัวเองจากภายใน และเราทำมันอย่างจริงจังและมุ่งมั่นเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง"
ที่มา: ชมฉวีวรรณ