"เอกา โกลบอล" ผู้นำเทรนด์บรรจุภัณฑ์ยืดอายุอาหาร ชูธงปั้นองค์กรสีเขียวเพื่อความยั่งยืน เร่งสปีดกรีนโปรดักส์ - ปั้นยอดขายโต 2 เท่าในปี 69

จันทร์ ๑๐ เมษายน ๒๐๒๓ ๑๗:๑๕
"เอกา โกลบอล" ผู้นำนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ยืดอายุอาหาร แบรนด์คนไทยยักษ์ใหญ่ของโลก เผยเทรนด์ผู้บริโภค มีความต้องการสินค้ารักษ์โลกเพื่อความยั่งยืนมาแรงฉุดไม่อยู่ จ่อเร่งสปีดขยาย "กรีนโปรดักส์" เพิ่มขึ้นในช่วง 1-3 ปีข้างหน้า พร้อมขับเคลื่อนองค์กรสู่การเป็นผู้นำนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ยืดอายุอาหารเพื่อความยั่งยืน ปั้นยอดขายเติบโตกว่า 2 เท่าในปี 2569

นายชัยวัฒน์ นันทิรุจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอกา โกลบอล จำกัด (EKA GLOBAL) ผู้นำตลาดนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ยืดอายุอาหาร (Longevity Packaging) เปิดเผยว่า เทรนด์ผู้บริโภคในไตรมาสแรกของปี 2566 มีการปรับเปลี่ยนไป เมื่อก้าวเข้าสู่ยุคหลังโควิด-19 ที่ความรุนแรงของโรคลดลงอย่างมาก ทำให้ผู้บริโภคเริ่มกล้าดำเนินชีวิตและรับประทานอาหารนอกบ้านมากขึ้น อย่างไรก็ดี ผู้บริโภคคนไทยยังคงเอาใจใส่ และให้ความสำคัญกับการเลือกกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ มีความปลอดภัย ควบคู่กับการมีไลฟ์สไตล์รักษ์โลกมากขึ้น ทั้งความต้องการสนับสนุนและเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ที่มีแนวทางเพื่อความยั่งยืน มีการใช้วัตถุดิบและกระบวนการผลิตที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ฯลฯ ซึ่งกระแสดังกล่าวเป็นไปตามเทรนด์ตลาดทั่วโลกที่ต่างก็หันไปในทิศทางนี้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้นในปีนี้

ทั้งนี้ ผู้บริโภคจะให้ความสำคัญกับการปรับลดปริมาณขยะจากอาหาร (Food waste) ที่รับประทานไม่หมด หรือ กินเหลือ มากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยมีรายงานระบุว่าในช่วงที่ผ่านมา เศษอาหารสร้างมลพิษทั่วโลกได้ถึง 8-10% และมีแนวโน้มจะมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ในอนาคต

"กระแสตลาดทั่วโลก ตอกย้ำว่าโลกมุ่งหน้าไปสู่เทรนด์ธุรกิจเพื่อความยั่งยืน เมื่อผู้บริโภคมีไลฟ์สไตล์รักษ์โลกที่เห็นชัดเจน ทั้งการเลือกใช้ของที่ผลิตจากวัสดุที่ยั่งยืน คงทนและแข็งแรง เพื่อลดความถี่ในการซื้อใหม่ หรือ เปลี่ยนบ่อย ๆ อีกหนึ่งกระแสที่กำลังมาแรงและเริ่มเห็นมากขึ้น คือ เทรนด์แยกประเภทขยะ และการใช้ของรีไซเคิล นำของที่ใช้แล้ว กลับมาใช้ใหม่อีกครั้ง เป็นต้น"

สำหรับ "เอกา โกลบอล" นอกเหนือจากความมุ่งมั่นจะขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตสู่เป้าหมายเป็นเบอร์ 1 ใน 5 (Top 5) ของบริษัทผู้ผลิตนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ยืดอายุอาหารในตลาดโลกแล้ว ในเรื่องของ "ความยั่งยืน" ก็ผลักดันอย่างเต็มกำลัง โดยนำแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) อย่างสมบูรณ์ กำหนดเข้ากับเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ขององค์กร ทั้งการปรับปรุงการใช้แหล่งพลังงานหมุนเวียน ลดการใช้ทรัพยากรที่ฟุ่มเฟือย และการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ฯลฯ เพื่อมุ่งสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน (Sustainable Growth) ให้กับบริษัทฯ ในระยะยาว

นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า จากความมุ่งมั่นด้านสิ่งแวดล้อม บริษัทฯ ได้ให้ความสำคัญและทุ่มงบลงทุนด้านวิจัยและพัฒนาสินค้า (R&D) มากกว่า 2% ของงบการตลาด ด้วยความเข้าใจในความท้าทายของตลาดโลกและความสำคัญของนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน โดยบริษัทฯ ปรับเป้าหมายมุ่งไปสู่นวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างเข้มข้นยิ่งขึ้น จากเดิม ผลิตภัณฑ์ "เอกา โกลบอล" สามารถรีไซเคิลได้ 100% ขยายผลสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม

ปัจจุบัน บริษัทฯ มีผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อมให้เลือก 3 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ บรรจุภัณฑ์ Bioplastic (PLA) บรรจุภัณฑ์ Biodegradable ที่ผลิตจากวัตถุดิบธรรมชาติทั้งหมดและสามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ และบรรจุภัณฑ์ที่ผลิตจากเม็ดพลาสติกรีไซเคิล (PCR) หรือ เรซิน รีไซเคิล

ทั้งนี้ บริษัทฯ ไม่หยุดนิ่ง สร้างสรรนวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อมอบทางเลือกให้กับลูกค้ามากขึ้น และเพื่อตอบสนองความต้องการและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคทั่วโลกที่เปลี่ยนไป โดยตั้งเป้าหมายจะพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อยหนึ่งผลิตภัณฑ์ต่อปีในช่วง 1-3 ปีข้างหน้า และเพิ่มความสามารถของผลิตภัณฑ์ในการยืดอายุการเก็บรักษาโดยไม่ต้องแช่ตู้เย็นให้ยาวนานขึ้นจากเดิม 2 ปี เป็น 3-5 ปี

"ในฐานะผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์ที่มีประสบการณ์มากกว่า 20 ปี บริษัทฯ ตระหนักด้านสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับการคิดค้นและพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้บริโภค ซึ่งเชื่อว่า บรรจุภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติช่วยยืดอายุการเก็บรักษา จะมีบทบาทสำคัญในการสร้างความยั่งยืนและยังทำให้คุณภาพชีวิตของผู้บริโภคดีขึ้น เพราะมีส่วนช่วยลดปริมาณขยะจากเศษอาหารและขยะพลาสติกได้ ขณะเดียวกัน บรรจุภัณฑ์ "เอกา โกลบอล" ยังมีคุณสมบัติช่วยรักษาคุณภาพอาหาร คงรสชาติ และมีความปลอดภัย อีกทั้งยังช่วยปิดจุดอ่อนของธุรกิจอาหารได้ดี และง่ายต่อการจัดส่งด้วย"

ผู้บริหาร "เอกา โกลบอล" กล่าวปิดท้ายว่า ตลอดระยะเวลาของดำเนินธุรกิจกว่าสองทศวรรษ บริษัทฯ มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด มียอดขายเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละไม่ต่ำกว่า 25% และมีแนวโน้มที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้นมั่นใจว่ายอดขายของบริษัทฯ จะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าภายในปี 2569 โดยมีกลยุทธ์สำคัญ คือ การพัฒนานวัตกรรมและบรรจุภัณฑ์ยืดอายุอาหารเพื่อความยั่งยืนใหม่ ๆ เข้ามาเสริมทัพความแข็งแกร่ง รวมถึงการลงทุนโรงงานใหม่ในประเทศอินเดีย และการเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นอีก ฯลฯ

ที่มา: เมคอะเว็ลท์ คอนซัลติ้ง

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๙:๕๕ ดร.เอ้ สุดยอดผู้นำด้าน AI เชื่อมั่น รพ.พระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร จะปฏิวัติการแพทย์ไทย ด้วย AI พร้อมความตั้งใจอันแน่วแน่
๐๙:๐๓ รมว.นฤมล ผลักดันกฎระเบียบว่าด้วยสินค้าที่ปลอดจากการตัดไม้ทำลายป่าของสหภาพยุโรป (EUDR)
๐๙:๑๖ เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ร่วมกับ สภากาชาดไทย ชวนร่วมบริจาคโลหิต 26 ธันวาคมนี้ ชั้น 7 โซน A เพิ่มโลหิต เพิ่มชีวิต
๐๙:๔๗ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จัดเต็ม!! ลงพื้นที่เร่งลดความเหลื่อมล้ำ สร้างโอกาส สร้างชีวิตแก่ชาวหนองคายอย่างยั่งยืน
๐๙:๕๕ มูลนิธิอายิโนะโมะโต๊ะ ส่งมอบอาคารโรงอาหารอายิโนะโมะโต๊ะ ให้แก่ โรงเรียนบ้านดอนมะกอก จังหวัดสุราษฎร์ธานี
๐๙:๐๕ กทม. เข้มงวดโครงการก่อสร้างคอนโดฯ ในซอยสุขุมวิท 93 ปฏิบัติตามมาตรการ EIA
๐๙:๕๐ การเคหะแห่งชาติตั้งเป้าสร้างที่อยู่อาศัยรองรับสังคมผู้สูงอายุ
๐๙:๒๘ ทำอย่างไรจึงจะทำให้มีการใช้ generative AI มากขึ้น
๐๙:๔๐ NocNoc จับมือ กฟผ. ส่งความสุขปีใหม่ให้คนรักบ้าน มอบส่วนลดสินค้าประหยัดไฟเบอร์ 5 สูงสุด 500 บาท เมื่อช้อปผ่าน NocNoc Chat Shop ทัก-ช้อป-ลด เริ่ม 25 ธ.ค. 67
๐๙:๑๔ Warrior ตั้ม ศุภกิตติ์ หรือ ตั้ม โทมัส ทอม จากทีมมาสเตอร์ ดร.อั้ม อธิชาติ คว้าชัย The Social Warrior คนแรกของประเทศไทย