กทม.คุมเข้มย้ายคนต่างด้าวเข้าทะเบียนบ้าน

จันทร์ ๑๗ เมษายน ๒๐๒๓ ๐๙:๒๙
นางสาวอัญชนา บุญสุยา ผู้อำนวยการเขตบางรัก กทม.กล่าวกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจขยายผลเครือข่ายทุนจีนสีเทา ผลการสอบสวนพบการกระทำความผิดของเจ้าหน้าที่เขตบางรักว่า เจ้าหน้าที่เขตบางรักที่เกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าวได้เข้าให้ปากคำกับสถานีตำรวจนครบาล (สน.) บางรัก เมื่อวันที่ 7 เม.ย.66

โดยชี้แจงถึงขั้นตอนการดำเนินการทางทะเบียนของบุคคลสัญชาติจีนที่ขอเพิ่มชื่อเข้าทะเบียนบ้าน (ท.ร.13) ซึ่งมีนางสาวนวพร ภาเกียรติสกุล เป็นผู้พามาติดต่อและเป็นการเพิ่มชื่อเข้าในทะเบียนบ้านตามระเบียบสำนักทะเบียนกลางว่าด้วยการจัดทำทะเบียนราษฎร พ.ศ.2535 ข้อ 106 ระบุว่า "ผู้ได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตามกฎกระทรวง ซึ่งออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชบัญญัติการทะเบียนราษฎร พ.ศ.2534 ขอเพิ่มชื่อในทะเบียนบ้าน (ท.ร.13) ให้ยื่นคำร้องตามแบบพิมพ์ที่กำหนดต่อนายทะเบียนอำเภอ หรือนายทะเบียนท้องถิ่นแห่งท้องที่ที่ผู้ร้องมีภูมิลำเนาในปัจจุบัน เมื่อนายทะเบียนได้รับคำร้องให้ดำเนินการ ดังนี้ (1) สอบสวนผู้ร้องให้ทราบถึงเหตุผลความจำเป็นที่ขอเพิ่มชื่อและเรียกหลักฐาน แสดงตัวบุคคลของหน่วยงานที่ควบคุม หรือหลักฐานที่รัฐบาลประเทศนั้น ๆ ออกให้ประกอบการพิจารณา (2) ให้นายทะเบียนเพิ่มชื่อลงในทะเบียนบ้านและสำเนาทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้าน พร้อมทั้งหมายเหตุในช่องย้ายเข้ามาจากว่า "คำร้องที่… ลงวันที่…" แล้วให้นายทะเบียนลงลายมือชื่อและวันเดือนปีกำกับไว้ (3) กำหนดเลขประจำตัวประชาชนให้แก่ผู้ได้รับอนุญาตให้เพิ่มชื่อในทะเบียนบ้าน ตามแบบพิมพ์ที่กำหนดให้ ข้อ 134 (23) และ (4) รายงานตามระเบียบที่กำหนดในข้อ 132 (6)

สำหรับเอกสารและหลักฐานประกอบการดำเนินการเพิ่มชื่อเข้าในทะเบียนบ้าน (ท.ร.13) ของนายหมิงชุน หม่า ประกอบด้วย หนังสือเดินทางสาธารณรัฐประชาชนจีน บุคคลสัญชาติจีน ซึ่งภายหลังทราบว่า เป็นการปลอมแปลงการลงตราวีซ่า สำเนาทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้านเลขที่ 491/13 ถนนสีลม แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ โดยมีนางสาวนวพร เป็นเจ้าบ้าน มาแสดงตนยินยอมให้ย้ายเข้า พร้อมด้วยพยานบุคคล  2 ราย ได้แก่ เจ้าบ้านและลูกจ้างของนางสาวนวพร ซึ่งรู้จักกับผู้ขอเพิ่มชื่อ ขณะเดียวกันได้สอบปากคำบุคคลที่เกี่ยวข้องข้างต้น เพื่อทราบถึงเหตุผลความจำเป็นที่ขอเพิ่มชื่อ ประกอบการพิจารณาดำเนินการ

ทั้งนี้ สำนักงานเขตฯ ได้เน้นย้ำและมอบนโยบายการปฏิบัติหน้าที่ให้กับผู้ใต้บังคับบัญชาเป็นประจำในการปฏิบัติหน้าที่ทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับภารกิจความรับผิดชอบ โดยให้ทุกคนยึดถือปฏิบัติให้ถูกต้อง เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ หรือหนังสือสั่งการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง หากตรวจพบว่า เจ้าหน้าที่รายใดดำเนินการส่อไปในทางทุจริต สำนักงานเขตฯ มีมาตรการเบื้องต้นสำหรับป้องกัน ดังนี้ (1) ให้เจ้าหน้าที่ที่มีพฤติการณ์ส่อไปในทางทุจริตหยุดปฏิบัติหน้าที่ในความรับผิดชอบก่อน และให้ไปปฏิบัติหน้าที่อื่นจนกว่าจะมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงเสร็จสิ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการกระทำผิดขึ้นอีก (2) มอบหมาย หรือแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง เพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริง กรณีการทุจริตที่เกิดขึ้น หากพบว่าเจ้าหน้าที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตไม่ว่าในขั้นตอนใด จะดำเนินการตามระเบียบ อำนาจหน้าที่ทั้งทางด้านทะเบียน วินัย และอาญา (3) จัดประชุมเจ้าหน้าที่ เพื่อแจ้งระเบียบ วิธีการ ขั้นตอน รวมถึงร่วมกันหาสาเหตุ แนวทาง และวิธีการป้องกัน และแจ้งให้ทราบถึงมาตรการการลงโทษ หากใช้ตำแหน่งหน้าที่ความรับผิดชอบไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตในการปฏิบัติหน้าที่ และ (4) การดำเนินการทางทะเบียน มีแนวทางป้องกันทางทุจริตตามระเบียบและหนังสือสั่งการของสำนักทะเบียนกลาง ซึ่งกำหนดให้รายงานการปฏิบัติหน้าที่ให้ผู้บังคับบัญชาทราบเป็นประจำทุกวัน ส่วนการเพิ่มชื่อบุคคลเข้าทะเบียนบ้าน จะต้องรายงานผลให้ผู้อำนวยการเขตทราบทุกวันที่ 15 และสิ้นเดือน

นายสุพจน์ หล้าจำศิล ผู้อำนวยการสำนักงานปกครองและทะเบียน (สปท.) กทม.กล่าวว่า สปท.ได้ประสานส่วนป้องกันและปราบปรามการทุจริตการทะเบียนและบัตรประจำตัวประชาชน เพื่อตรวจสอบข้อมูลกับกรมการปกครอง และสำนักทะเบียนกลาง มีหนังสือ ลงวันที่ 12 เม.ย.66 ขอให้สำนักทะเบียนกรุงเทพมหานครแจ้งสำนักทะเบียนท้องถิ่นดำเนินการ ดังนี้ (1) สำนักงานเขตบางรัก ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการเพิ่มชื่อในทะเบียนบ้าน (ท.ร.13) ของนายหมิงซุน หม่า และบุคคลซึ่งไม่มีสัญชาติไทย จำนวน 23 ราย ที่มีชื่ออยู่เลขที่ 491/13 ถนนสีลม แขวงสีลม เขตบางรัก ว่าเป็นการดำเนินการโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ อย่างไร และ (2) สำนักงานเขตปทุมวัน ตรวจสอบการเพิ่มชื่อของนางสาวนวพรว่า เป็นการดำเนินการโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ อย่างไร หากพบว่า เป็นไปโดยมิชอบด้วยกฎหมายให้ปฏิบัติตามหนังสือกระทรวงมหาดไทย ลงวันที่ 12 ก.พ.57 อย่างเคร่งครัด หากพบว่า มีพฤติการณ์อันควรสงสัยว่า น่าจะมีการกระทำทุจริตทางทะเบียนเป็นจำนวนมาก ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงขยายผลและแจ้งผลให้สำนักทะเบียนกลางทราบ ขณะเดียวกัน สปท.ได้กำชับและเน้นย้ำแนวทางการปฏิบัติของฝ่ายทะเบียน สำนักงานเขต ให้ถือปฏิบัติตามมาตรการป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหาการทุจริตทางทะเบียน ตามแนวทางของกระทรวงมหาดไทยอย่างเคร่งครัดต่อไป

ที่มา: กรุงเทพมหานคร

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version