NER ตั้งเป้าปี 2567 เป็น 1 ใน 5 ของผู้ผลิตยางธรรมชาติ เตรียมสร้างโรงงานแห่งที่ 3 รองรับการขยายตลาดทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ

พฤหัส ๒๐ เมษายน ๒๐๒๓ ๐๙:๓๗
บมจ. นอร์ทอีส รับเบอร์ (NER) ตั้งเป้าเป็นผู้ผลิตยางธรรมชาติ อันดับ 1 ใน 5 ของประเทศไทยภายในปี 2567 เตรียมสร้างโรงงานยางแท่งและยางผสมแห่งที่ 3 กำลังการผลิต 172,800 ตัน คาดว่าแล้วเสร็จในปี 2567 รองรับการขยายตลาดทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ

นายชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NER ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายยางแผ่นรมควัน ยางแท่ง และยางผสม เพื่อจำหน่ายไปยังผู้ผลิตในอุตสาหกรรมยานล้อรถยนต์ และกลุ่มผู้ค้าคนกลางทั้งในประเทศและต่างประเทศ เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะเป็นผู้ผลิตยางธรรมชาติ อันดับ 1 ใน 5 ของประเทศไทยภายในปี 2567 ตามวิสัยทัศน์ (Vision) ของบริษัท โดยบริษัทมุ่งเน้นการขยายตลาดกลุ่มลูกค้าประเทศต่างๆรวมถึงอินเดีย ซึ่งตั้งเป้ายอดขายสำหรับประเทศอินเดียประมาณ 10% ของยอดขายปี 2567 ปัจจุบันบริษัทมีการเซ็นสัญญากลุ่มลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นอีกหลายรายทั้งในประเทศจีน สิงคโปร์ อินเดีย และไทย

บริษัทมีแผนการขยายกำลังการผลิตสินค้าประเภทยางแท่งและยางแท่งผสม โดยการลงทุนก่อสร้างโรงงานยางแท่งและยางผสมแห่งที่ 3 กำลังการผลิต 172,800 ตัน ใช้งบลงทุนประมาณ 700 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเตรียมการปรับปรุงที่ดิน ซึ่งคาดว่าโรงงานจะสร้างเสร็จและเริ่มมีรายได้ในปี 2567 ซึ่งภายหลังจากการขยายกำลังการผลิตดังกล่าว บริษัทจะมีกำลังการผลิตสินค้ารวมทั้งสิ้น 688,400 ตันต่อปี

นอกจากนี้บริษัทยังมุ่งมั่นที่จะลดต้นทุนการผลิตในการดำเนินงาน เนื่องจากการขยายกำลังการผลิตทำให้เกิดการประหยัดต่อขนาด (Economic of Scale) ทำให้บริษัทสามารถบริหารจัดการต้นทุนต่างๆ ภายในโรงงานได้ รวมถึงจะมีการนำพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้ภายในโรงงานแห่งที่ 3 เพื่อลดต้นทุนพลังงานเพิ่มเติมด้วย

สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานปี 2566 บริษัทตั้งเป้าปริมาณขายรวมที่ 5 แสนตัน เติบโตจากปีที่แล้วที่มียอดขาย 446,090 ตัน เนื่องจากความต้องการสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้นจากประเทศจีนที่เปิดประเทศ และความต้องการรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่เพิ่มมากขึ้น โดยปี 2565 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายสินค้า 25,172.06 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 746.40 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น 3.06% เมื่อเทียบกับปี 2564 และมีกำไรสุทธิรวม 1,748 ล้านบาทซึ่งคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 6.94%

นอกจากนี้ ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 ยังมีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานประจำปี 2565 ในอัตราหุ้นละ 0.38 บาท คิดเป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ 702.16 ล้านบาท ซึ่งเมื่อหักเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับผลประกอบการงวด 6 เดือนแรกของปี 2565 ในอัตราหุ้นละ 0.07 บาทต่อหุ้น คิดเป็นเงิน 129.34 ล้านบาท ที่ได้จ่ายเมื่อวันที่ 7 กันยายน 2565 โดยคงเหลือเป็นเงินปันผลที่จะจ่ายในครั้งนี้อีกในอัตราหุ้นละ 0.31 บาท คิดเป็นเงิน 572.81 ล้านบาท การจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานประจำปี 2565 คิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผลร้อยละ 40.17 ของกำไรสุทธิหลังจากหักเงินทุนสำรองตามกฎหมาย และกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record date) ในวันที่ 21 เมษายน 2566 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 9 พฤษภาคม 2566

ที่มา: ธามดี พลัส

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ม.ค. โบว์ เมลดา เปิดตัว สวยปัง ขายแปลก พร้อมประมูลตัวคณิกาน้องใหม่!!
๒๐ ม.ค. เขตพระนครประสานเจ้าของพื้นที่-ผู้เช่าเร่งหาข้อยุติรื้อย้ายแผงค้าตลาดส่งเสริมการเกษตร
๒๐ ม.ค. กทม. กำชับ รฟม. เข้มมาตรการลดผลกระทบโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม-ล้อมย้ายต้นไม้ตามเงื่อนไขที่กำหนด
๒๐ ม.ค. คุ้ย-ทวีวัฒน์ รุกหนักตลาดหนังสยองขวัญ-เปิด 13 สตูดิโอ ยิ่งใหญ่ ไลน์อัพหนังบิ๊กโปรเจค-ดึงดาราเอลิสต์ร่วมงาน 7 เรื่อง 7
๒๐ ม.ค. Zelection Interior บริการอินทีเรียดีไซน์หรู จากเอสบี ดีไซน์สแควร์ ยกระดับงานตกแต่งภายในไปอีกขั้น ด้วยนวัตกรรมจากคอลเลกชันใหม่
๒๐ ม.ค. SAM ยกระดับบริการ สายด่วน 1443 ตอบครบจบในเบอร์เดียว
๒๐ ม.ค. บางกอกแอร์เวย์สชวนหอเจี๊ยะฉลองรับตรุษจีน เสิร์ฟเมนูมงคล ขนมหัวผักกาดกุ้ง ณ บลูริบบอนคลับเลานจ์ สนามบินสมุย
๒๐ ม.ค. พิซซ่า ฮัท เสิร์ฟความฟิน Melts Fever ลดฟินเวอร์ เริ่มต้นเพียง 119 บาท
๒๐ ม.ค. อิ่มอร่อยพร้อมรับโชคต้อนรับปี มะเส็ง ร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีนกับแมริออท บอนวอย ในประเทศไทย
๒๐ ม.ค. บิ๊กบอส LEO ลั่น!กอดหุ้นแน่น มั่นใจปัจจัยพื้นฐานแกร่ง-อนาคตสดใส ย้ำ! ลุยธุรกิจตามยุทธศาสตร์ LEO Go Green