กรมส่งเสริมการเกษตร ไขข้อข้องใจ "วิธีลดจำนวนแมลงวันทอง"

พุธ ๒๖ เมษายน ๒๐๒๓ ๑๓:๕๘
นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า แมลงวันทอง หรือ แมลงวันผลไม้ ถือเป็นศัตรูพืชที่สำคัญชนิดหนึ่งในประเทศไทย สามารถเข้าทำลายผลไม้ได้หลายชนิด โดยเฉพาะผลไม้ที่มีเปลือกบาง เช่น ฝรั่ง ชมพู่ มะม่วง พุทรา กระท้อน และยังสามารถอาศัยในพืชอาศัยอื่นอีกกว่า 150 ชนิด เมื่อผลไม้ถูกแมลงวันผลไม้ทำลายจะทำให้คุณภาพลดลง หรือเสียหายจนไม่สามารถรับประทานได้ ทำให้เกษตรกรต้องเพิ่มต้นทุนในการเพาะปลูกเพื่อกำจัดแมลงวันผลไม้ทั้งก่อนและหลังการเก็บเกี่ยว อีกทั้งการใช้สารป้องกันกำจัดศัตรูพืชอย่างต่อเนื่องอาจทำให้เกิดปัญหาสารพิษตกค้างในผลผลิตเกินค่ามาตรฐานได้

อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการป้องกันกำจัดแมลงวันผลไม้สามารถทำได้อย่างถูกวิธี โดยเมื่อผลผลิตเริ่มติดผล ควรห่อผลด้วยถุงพลาสติกหรือถุงกระดาษ และเก็บผลไม้ที่หลงเหลือจากการเก็บเกี่ยวหรือเน่าเสียไปทำเป็นปุ๋ยหมัก น้ำหมัก หรือฝังกลบดินที่มีความหนาของหน้าดินอย่างน้อย 50 เซนติเมตร รวมถึงตัดแต่งกิ่งให้โปร่ง และกำจัดพืชอาศัยเพื่อลดแหล่งหลบซ่อนของแมลงวันผลไม้ด้วย หากเริ่มพบแมลงวันผลไม้ในแปลงปลูกสามารถใช้สารล่อกำจัดแมลงวันผลไม้เพศผู้เพื่อไม่ให้สืบพันธุ์ โดยใช้เมทธิลยูจินอล จำนวน 3 ส่วน ผสมกับสารฆ่าแมลงที่ไม่มีกลิ่นหรือมีกลิ่นน้อยที่สุด เช่น ไดคลอร์วอส ,แลมบ์ดา ไซฮาโลทริน,มาลาไธออน 57% W/V EC ,ไซเพอร์เมทริน 25% W/V EC จำนวน 1 ส่วน หยดลงบนแท่งฝ้ายหรือสำลีในกับดัก ซึ่งสามารถประยุกต์ได้จากขวดน้ำ หรือใช้แผ่นสารล่อซึ่งทำจากวัสดุดูดซับของเหลวได้ดี เช่น แผ่นชานอ้อย หรือกาบมะพร้าว และควรแขวนสารล่อห่างกันทุก 40-50 เมตร ทางด้านทิศตะวันออกของทรงพุ่มในที่ที่มีร่มเงา ระดับสูง 2 เมตรขึ้นไป สำหรับการล่อกำจัดแมลงวันผลไม้ในระยะดึงดูดที่ไม่ไกลนัก สามารถใช้เหยื่อโปรตีนออโตไลเสทหรือไฮโดรไลเสท ซึ่งจะใช้เป็นเหยื่อในกับดัก โดยใช้โปรตีน 1 ส่วน และน้ำ 15 ส่วน ผสมให้เข้ากัน หรือใช้พ่นเป็นเหยื่อพิษตามต้นและใบพืช โดยใช้โปรตีน 4 ส่วน และสารฆ่าแมลง 1 ส่วน ผสมให้เข้ากันแล้วเติมน้ำ 95 ส่วน นอกจากนี้ ยังมีเทคนิคการทำให้แมลงเป็นหมัน ซึ่งเป็นวิธีการฉายรังสีและนำกลับไปปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ เพื่อให้แมลงวันทองที่เป็นหมันทำหน้าที่ควบคุมแมลงชนิดเดียวกันเองในธรรมชาติต่อไป

ทั้งนี้ เกษตรกรควรเลือกวิธีที่เหมาะสมกับสวนของตนเอง และรู้จักวงจรชีวิตของแมลงวันผลไม้เพื่อป้องกันกำจัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ได้แก่ ระยะไข่ หนอน ดักแด้ และตัวเต็มวัย โดยระยะไข่ มีรูปร่างยาวรีสีขาว ระยะหนอน มีรูปร่างหัวแหลมท้ายป้าน ไม่มีขา ไม่มีตา ส่วนหัวจะมีตะขอแข็งสีดำใช้สำหรับตะกุยเนื้อผลไม้ให้เละเพื่อกินเป็นอาหาร ทำให้ผลไม้มีตำหนิเน่าเสีย เมื่อหนอนโตเต็มที่จะสามารถดีดตัวได้ไกลประมาณ 30 เซนติเมตร เพื่อหาพื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับเข้าดักแด้ในดิน โดยระยะดักแด้จะอยู่ในดินลึกประมาณ 2-5 เซนติเมตร มีรูปร่างกลมรีสีน้ำตาล ไม่เคลื่อนไหว กระทั่งระยะตัวเต็มวัย จะออกหากินในช่วงเช้า ผสมพันธุ์ในช่วงพลบค่ำและวางไข่ช่วงกลางวัน เพศเมียจะหาผลไม้สุกแก่เหมาะสำหรับวางไข่และทำกลิ่นไว้เพื่อป้องกันเพศเมียตัวอื่นมาวางไข่ซ้ำรอยเดิม และหากเกษตรกรต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมสามารถสอบถามได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอใกล้บ้าน

ที่มา: กรมส่งเสริมการเกษตร

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ