นางประวีรัตน์ เทวอักษร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วิลล่า คุณาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ "KUN" ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภทแนวราบในเขตพื้นที่ชานเมือง เปิดเผยว่า ที่ประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 ได้มีมติอนุมัติให้บริษัทฯ เพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัท 68,639,992 บาท หรือคิดเป็น 137,279,984 ล้านหุ้น จากเดิมที่มีทุนจดทะเบียน 423,199,962 บาท เป็น 491,839,954 บาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน 983,679,908 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท
ทั้งนี้ เพื่อรองรับการเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (Rights Offering) จำนวนไม่เกิน 68,639,992 หุ้น ที่ราคาเสนอขายหุ้นละ 2.10 บาท โดยจัดสรรในอัตราส่วนหุ้นสามัญเดิม 10 หุ้นสามัญเดิม ต่อ 1 หุ้นสามัญที่ออกใหม่
อีกทั้งอนุมัติให้บริษัทจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) จำนวนไม่เกิน 68,639,992 หุ้น (คิดเป็นร้อยละ 10 ของทุนชำระแล้วของบริษัทฯ) มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement)
สำหรับเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม ที่คาดว่าจะสามารถระดมทุนได้ ประมาณ 144,143,983.20 บาท ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพความแข็งแกร่ง ฐานะทางการเงินของบริษัทฯ สู่การขยายธุรกิจเพื่อเติมในอนาคต อาทิ การชำระคืนหุ้นกู้แปลงสภาพเพื่อเป็นการลดต้นทุนทางการเงิน รวมถึงการใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในโครงการใหม่ๆ ตามแผนกลยุทธ์การ พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับกับความต้องการที่ยังคงมีอย่างต่อเนื่องและสอดคล้องกับแผนการเติบโตของบริษัท
โดยในปี2566 "KUN" ได้ขับเคลื่อนธุรกิจผ่านการเปิดตัว โครงการใหม่ จำนวน 3 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 11,600 ล้านบาท อาทิ โครงการคุณาลัย นาวาร่า รังสิต-คลอง 2" (โซนทิศเหนือของกรุงเทพฯ) และ "โครงการ คุณาลัย นาวาร่า พระราม 2 (โซนทิศใต้ของกรุงเทพฯ) ซึ่ง 2 โครงการดังกล่าว ถือเป็นการสยายปีกเจาะกลุ่มผู้อยู่อาศัยเซ็กเมนต์ (กลาง-บน) และ โครงการ คุณาลัย เพอร์ร่า (โซนทิศตะวันตกของกรุงเทพฯ บางบัวทอง) สำหรับโครงการ "คุณาลัย นาวาร่า" เชื่อว่าหากเปิดขายทางเป็นทางการแล้ว จะเป็นโครงการที่สร้างอัตรากำไรให้กับเพิ่มสูงขึ้นในอนาคต
"แผนการเปิดตัวในครั้งนี้ ส่งผลให้ "KUN"ประสบความสำเร็จในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยภายใต้ " วิลล่า คุณาลัย" ครบทั้ง 4 ทิศรอบกรุงเทพฯ- ปริมณฑล ตามแผนที่วางไว้ จากปัจจุบันคุณาลัย มีโครงการครอบคลุมพื้นที่การพัฒนาโครงการ 2 ทิศ คือ ทิศตะวันตกของกรุงเทพฯ(โซนบางบัวทอง ) และ ทิศตะวันออกของกรุงเทพฯ ( โซนฉะเชิงเทรา )"
นอกจากนี้ ผู้ถือหุ้นยังได้อนุมัติขยายวงเงินการออกและเสนอขายตราสารหนี้ระยะสั้น และ/หรือตราสารหนี้ระยะยาวในรูปแบบของตั๋วแลกเงิน (Bill of Exchange : B/E) และ/หรือ หุ้นกู้ (Bond) จากเดิมไม่เกิน 1,000 ล้านบาท เป็นไม่เกิน 2,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในการลงทุนขยายธุรกิจ และ/หรือ เพื่อใช้ชำระหนี้คืนหนี้เงินกู้ และ/หรือ ตั๋วแลกเงินระยะสั้นที่ครบกำหนดไถ่ถอน รวมทั้งใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทฯ ในอนาคต พร้อมกันนี้ยังพิจารณาอนุมัติให้บริษัทฯ จ่ายปันผลงวดปี 2565 เพิ่มเติมอีก ในอัตรา 0.03 บาทต่อหุ้น จากที่มีการจ่ายปันผลไปแล้วก่อนหน้านี้ ในอัตรา 0.05 บาทต่อหุ้น โดยกำหนดจ่ายปันผลในวันที่ 12 พฤษภาคม 2566
ที่มา: มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์