'ดิ แอสเพน ทรี' โดย MQDC เดินหน้าตอบรับความต้องการที่เติบโตรวดเร็ว ของกลุ่มวัย 50+ ที่มองหาที่พักอาศัยที่ตอบสนองความต้องการของคนวัยนี้

พฤหัส ๒๗ เมษายน ๒๐๒๓ ๑๓:๓๑
MQDC (บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด) หนึ่งในบริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทย มุ่งพัฒนาโครงการเพื่อตอบโจทย์ความต้องการใหม่ในเรื่องที่อยู่อาศัยสำหรับกลุ่มคนที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป ที่กำลังขยายตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยคนกลุ่มนี้กำลังมองหาที่พักอาศัยที่เข้าใจความต้องการซึ่งมีลักษณะพิเศษเฉพาะตัวของคนในช่วงวัยนี้

'ดิ แอสเพน ทรี' เป็นโครงการที่พักอาศัยโครงการแรกของ MQDC ที่มุ่งจับตลาดนี้ โดยโครงการตั้งอยู่ในพื้นที่ 398 ไร่ของโครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์ ซึ่งอยู่ในระหว่างก่อสร้างอยู่บริเวณกิโลเมตรที่ 7 ถนนบางนา-ตราด โดยจัดได้ว่าเป็นหนึ่งในโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของภาคเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

นางสาว เฮ จูน พาร์ค ประธานผู้อำนวยการโครงการ ดิ แอสเพน ทรี ที่เดอะ ฟอเรสเทียส์ เปิดเผยว่า "คนทุกวันนี้คาดหวังที่จะมีชีวิตหลังเกษียณแบบสบายๆ มีชีวิตอยู่ต่อไปอีกไม่ต่ำกว่า 25 ปี และมีสุขภาพแข็งแรงแม้จะอายุเข้า 80-90 ปีแล้วก็ตาม เราได้เล็งเห็นศักยภาพที่สูงมากในตลาดโครงการที่พักอาศัยเซ็กเมนต์ใหม่นี้ที่เปิดโอกาสให้ คนวัยนี้ที่ยังแข็งแรงอยู่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างอิสระ มีไลฟ์สไตล์ที่ไม่ต่างไปจากเดิม เพียงแต่ให้มีการบริการที่คอยดูแลอย่างใกล้ชิดและมีสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อมเทคโนโลยีที่ทันสมัย รวมทั้งมีกิจกรรมที่จะมาเติมเต็มชีวิตให้สมบูรณ์ทั้งทางกายและทางใจ"

นางสาว เฮ จูน พาร์ค กล่าวต่อไปว่า "ผู้สูงวัยมักจะอาศัยอยู่กับลูกหลานอันเป็นที่รัก แต่เนื่องจากเป็นคนต่างรุ่น ต่างวัยกัน ทำให้มีความต้องการทางด้านไลฟ์สไตล์ที่ไม่เหมือนกัน แบบของบ้านหรือสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่มีอยู่ในบ้าน อาจจะไม่สมบูรณ์พร้อมสำหรับการใช้ชีวิตของผู้สูงวัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของการดูแลรักษาสุขภาพ แต่ที่พักอาศัยโครงการ ดิ แอสเพน ทรี ได้การออกแบบให้เป็นอาคารที่พักอาศัยแบบคอนโดมิเนียมและสกายวิลล่าระดับเฟิร์สคลาส มีจุดเด่นพิเศษทางด้านดีไซน์ที่ให้ความปลอดภัย และเอื้อต่อการใช้ชีวิตของผู้อยู่อาศัยในวัยนี้มากกว่า อีกทั้งยังมีบริการที่ส่งเสริมการใช้ชีวิตในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นบริการด้านการดูแลรักษาสุขภาพของวัยที่ต้องการการเอาใจใส่ดูแลเป็นพิเศษ หรือความต้องการอื่นๆ ในบริเวณบ้าน หรือไปจนถึงบริการนอกบ้าน อย่างเช่น อำนวยความสะดวกการเดินไปที่ทาวน์เซ็นเตอร์ของเดอะ ฟอเรสเทียส์ หรือเดินเล่นในป่าเนื้อที่ 30 ไร่ เป็นต้น"

ภายใต้แนวคิดการดูแลตลอดชีวิต (Life-time Care) ของดิ แอสเพน ทรี เพียงจ่ายเงินซื้อบ้านครั้งเดียว คือนอกจากจะได้ที่พักอาศัยแล้ว เจ้าของบ้านยังจะได้รับประกันสุขภาพ ซึ่งครอบคลุมความจำเป็นด้านการรักษาพยาบาลไปจนถึงอายุ 99 ปี รวมทั้งได้รับการดูแลการใช้ชีวิตแบบตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน บริการแม่บ้านทุกสัปดาห์ อาหารเช้า บริการอาหารสำหรับผู้ที่ต้องการการดูแลด้านโภชนาการเป็นพิเศษ หรือสิทธิในการใช้บริการห้องรับประทานอาหารส่วนกลาง และคลับเฮาส์ที่มีโปรแกรมฟิตเนสพิเศษ ในการบริหารร่างกายและจิตใจอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงกิจกรรมทางสังคม อย่างกลุ่มเรียนศิลปะ และงานฝีมือ เป็นต้น

นอกจากนั้น ดิ แอสเพน ทรี ยังมีศูนย์สุขภาพและสมอง (Health & Brain Center) ที่มีบริการทางการแพทย์พิเศษเฉพาะ เพื่อให้บริการหากผู้พักอาศัยของโครงการต้องการ

นางสาว เฮ จูน พาร์ค กล่าวว่า การที่โครงการมอบบริการและสิ่งต่างๆ อย่างครบวงจรเป็นการช่วยลดความเสี่ยงของผู้พักอาศัย อันเกิดจากจากความไม่แน่นอนต่างๆ ในชีวิตให้น้อยลง

"แนวคิดการดูแลตลอดชีวิตหรือ Life-time Care ของดิ แอสเพน ทรี ช่วยขจัดความวิตกกังวลหลายอย่างที่เป็นปัญหาใหญ่ของวัย 50 ขึ้นไป และด้วยบริการที่หลากหลายในโครงการ ทำให้ผู้อยู่อาศัยในวัยนี้สามารถที่จะอยู่อย่างมีความสุข มีความสบายใจไปกับไลฟ์สไตล์ของตนเองได้ แม้ในขณะที่อายุของตนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยไม่ต้องพึ่งพาอาศัยญาติพี่น้องหรือเพื่อนพ้องในการดำเนินชีวิตประจำวัน นอกจากนั้นยังช่วยลดความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนทางการเงิน เนื่องจากไม่มีภาระค่าส่วนกลางที่ต้องจ่ายเมื่อเข้าพักอาศัยในโครงการ ซึ่งโดยทั่วไปค่าส่วนกลาง อาจจะมีการเรียกเก็บเพิ่มขึ้นแบบคาดเดาไม่ได้ในอนาคต และในขณะเดียวกันผู้อาศัยก็จะหมดกังวลเรื่องการจ่ายเบี้ยประกันสุขภาพอีกทั้งค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามอายุด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้ได้รวมเอาไว้ในราคาที่ซื้อกับโครงการแล้ว" นางสาว เฮ จูน พาร์ค กล่าว

ประชากรสูงวัยเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว

นายวิทยา สินทราพรรณทร ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดโครงการ ของ MQDC ได้แสดงความมั่นใจในกระแสตอบรับที่มีต่อแนวคิดการดูแลตลอดชีวิต ทั้งจากกลุ่มลูกค้าคนไทยและลูกค้าต่างชาติ โดยระบุว่า ปัจจุบันประเทศไทยและทั่วโลกกำลังเผชิญกับภาวะการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของประชากรสูงวัย

"ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีจำนวนประชากรสูงวัยเพิ่มขึ้นเร็วที่สุดในโลก โดยจากการศึกษาพบว่าในปี พ.ศ.2528 มีประชากรไทยที่มีอายุมากกว่า 60 ปี มีเพียงประมาณ 6% ของประชากรทั้งหมด แต่ปัจจุบัน สัดส่วนประชากรสูงวัยเพิ่มขึ้นมากกว่าสามเท่าตัว คือมีผู้สูงวัยอยู่ที่ 20% ของประชากรทั้งหมด ซึ่งจากรายงานแนวโน้มประชากรโลกของสหประชาชาติ (The United Nations' World Population Prospects study) คาดการณ์ว่าประเทศไทยจะมีพลเมืองอาวุโสเพิ่มขึ้นจากในปัจจุบันประมาณสองเท่าตัวภายในปี พ.ศ.2593 นั่นหมายความว่า 1 ใน 3 ของประชากรทั้งหมดของไทย จะเป็นคนสูงวัย"

"คนสูงวัยที่เพิ่มขึ้นนี้ มีสุขภาพดีกว่าเมื่อก่อน เพราะฉะนั้น เราจะมีคนจำนวนมากขึ้นที่แสวงหาการใช้ชีวิตแบบสบายๆ มีความสุขในช่วงวัย 60 ปีขึ้นไป โดยไม่ต้องการพึ่งพาใคร สามารถใช้ชีวิตอิสระ ได้ทำในสิ่งที่ชอบ ใช้ชีวิตในแบบที่เป็นตัวเอง ซึ่งนั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมการใช้ชีวิตอิสระโดยไร้ความกังวล แบบที่ดิ แอสเพน ทรี มอบให้ จึงมีความสำคัญเป็นพิเศษต่อคนรุ่นนี้" นายวิทยากล่าว

นายวิทยาเปิดเผยว่า คนวัยทำงานในประเทศไทยมีจำนวนลดน้อยลง และคาดกันว่าในระยะเวลาไม่เกินสองปี คนสูงวัยจะมีจำนวนมากกว่าเด็กๆ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์

"แนวโน้มดังกล่าวนี้หมายความว่าจะมีคนจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ที่มองหาที่อยู่อาศัยซึ่งมีบริการที่ช่วยให้ตนเองสามารถที่จะใช้ชีวิตอย่างอิสระไร้ความกังวัลได้ในช่วงวัยที่สวยงาม โดยไม่ต้องพึ่งพาให้ลูกหลานต้องกังวลคอยช่วยเหลือดูแลปรนนิบัติทุกอย่าง

"เทรนด์ดังกล่าวนี้คล้ายกับประเทศอื่นๆในอีกหลายประเทศทั่วโลก เราจึงเชื่อว่าตลาดที่พักอาศัยสำหรับคนวัยนี้จะเป็นเซ็กเมนต์ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว รวมทั้งจะได้รับความสนใจอย่างมากจากชาวต่างชาติที่อยากเข้ามาใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในประเทศไทย เพราะประเทศไทยยังมีบริการสนับสนุนต่างๆ และมีมิตรไมตรีจิตที่เป็นนิสัยประจำชาติของคนไทย" นายวิทยากล่าว

แพ็คเกจทดลอง 1 ปี และ 5 ปี เพื่อตอบโจทย์ความต้องการและไลฟ์สไตล์ของแต่ละบุคคล

นายวิทยาเปิดเผยว่า MQDC เปิดโอกาสให้สำหรับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายที่จะได้เข้ามาสัมผัสกับความยอดเยี่ยมของโครงการแนวคิดใหม่ดังกล่าวนี้ โดยตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2566 เป็นต้นไป MQDC นำเสนอแพ็คเกจทดลองอยู่ ในโครงการ ดิ แอสเพน ทรี แบบแพ็คแกจระยะเวลา 1 ปีและระยะเวลา 5 ปี โดยขอเชิญชวนผู้ที่สนใจ สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Call Center โทร 1265 หรือเข้าไปที่เว็บไซต์ theaspentree.com

แพ็คเกจทดลองอยู่แบบระยะเวลา 1 ปี มีให้เลือกสำหรับห้องพักขนาด 1 ห้องนอนหรือ 2 ห้องนอน โดยพื้นที่ใช้สอยมีขนาดตั้งแต่ 80 กว่าตารางเมตร ไปจนถึง 123 ตารางเมตร พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อการใช้ชีวิตและการทำกิจกรรมร่วมกันมากมาย ทุกยูนิตตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ครบเพื่อให้ลูกค้าที่ประสงค์จะไปทดลองใช้ชีวิตในสไตล์ดิ แอสเพน ทรี ได้พิสูจน์ให้เป็นที่ประจักษ์ด้วยตนเองถึงระดับของความสะดวกสบายและบริการ

แพ็คเกจทดลองอยู่แบบระยะเวลา 5 ปี มีให้เลือกสำหรับห้องพักขนาด 1 ห้องนอนหรือ 2 ห้องนอนเช่นเดียวกัน แต่มีบริการเพิ่มเติมเรื่องประกันสุขภาพตลอดระยะเวลาที่พักอาศัยด้วย

"เรามั่นใจว่าลูกค้ากลุ่มนี้จะชื่นชอบสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยไร้กังวล รวมทั้งธรรมชาติของเดอะ ฟอเรสเทียส์ ซึ่งหากลูกค้าตัดสินใจเลือกดิ แอสเพน ทรี เป็นที่อยู่อาศัยถาวรของตนเองต่อไป เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาทดลองอยู่ เงินที่จ่ายไปในช่วงเวลาห้าปีนั้น เราจะนำมาหักออกจากราคาที่จะอยู่ตลอดชีวิตให้ด้วย" นายวิทยากล่าว

สิทธิพิเศษถึง 30 มิถุนายน 2566

MQDC มอบสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าที่จองซื้อยูนิตขนาด 2 ห้องนอน ตั้งแต่วันนี้ - 30 มิถุนายน 2566 จะได้รับเครดิตสำหรับซื้อบัตรโดยสารการบินไทยมูลค่า 350,000 บาท พร้อมกับเป็นสมาชิกสะสมไมล์ รอยัล ออร์คิด พลัส ของการบินไทย ระดับโกลด์ 2 ปี เท่านั้นยังไม่พอ ดิ แอสเพน ทรียังมอบความสะดวกสำหรับลูกค้าชาวต่างชาติ จะได้รับบัตรสมาชิกไทยแลนด์ อีลิท การ์ด มูลค่า 1 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกในการขอวีซ่าเพื่อการพำนักในประเทศไทยในระยะยาว นอกจากนั้น ดิ แอสเพน ทรี ยังช่วยให้ลูกค้าต่างชาติสามารถปรับตัวในที่อยู่อาศัยใหม่ในประเทศไทยของตนได้ง่ายขึ้น ด้วยการมอบสิทธิพิเศษเวาเชอร์เพื่อซื้อเฟอร์นิเจอร์ มูลค่า 1 ล้านบาท

ดิ แอสเพน ทรี ประกอบด้วยที่พักอาศัยจำนวน 290 ยูนิต ซึ่งตั้งอยู่ในโครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์ มีขนาดพื้นที่ตั้งแต่ 83 ตารางเมตรไปจนถึง 253 ตารางเมตรทุกยูนิตสามารถมองเห็นผืนป่าเดอะ ฟอเรสเทียส์ขนาด 30 ไร่ได้อย่างสดชื่นเต็มตา

ผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ Call Center โทร 1265 หรือเว็บไซต์ theaspentree.com

สำหรับโครงการที่อยู่อาศัยอื่นๆ ในเดอะ ฟอเรสเทียส์ที่เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างชุมชนที่เอื้อและเปิดโอกาสให้คนต่างวัย ต่างไลฟ์สไตล์ ได้อยู่อาศัยร่วมกันแบบใกล้ชิดธรรมชาติในอาณาบริเวณใกล้กัน เชื่อมถึงกัน ประกอบด้วยโครงการคอนโดมิเนียมมัลเบอร์รี่ โกรฟ บ้านสไตล์คลัสเตอร์โฮม มัลเบอร์รี่ โกรฟ วิลล่าที่ออกแบบเพื่อครอบครัวขยายหลายเจนเนอเรชั่น คอนโดมิเนียมวิสซ์ดอม และซิกส์เซนส์ เรสซิเดนซ์ ซึ่งประกอบด้วยวิลล่าสุดหรูภายใต้การบริหารของแบรนด์ซิกส์เซนส์

ที่มา: บางกอก พับบลิค รีเลชั่นส์

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ