ไทยพาณิชย์ และ เอฟดับบลิวดี จับมือขยายสัญญาความร่วมมือธุรกิจประกันชีวิตผ่านช่องทางธนาคาร ในประเทศไทย

ศุกร์ ๒๘ เมษายน ๒๐๒๓ ๑๖:๕๔
ขยายเวลาความร่วมมือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจประกันชีวิตผ่านธนาคารต่อเนื่องอีก 2 ปีการทำงานร่วมกับธนาคารไทยพาณิชย์ถือเป็นสัดส่วนใหญ่ที่สุดของธุรกิจประกันเอฟดับบลิวดีในประเทศไทยธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (SCB) และ เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) (FWD ประเทศไทย) ได้ขยายอายุสัญญาความร่วมมือในธุรกิจประกันชีวิตผ่านธนาคารต่อเนื่องอีก 2 ปี เพื่อตอบรับความต้องการด้านความคุ้มครองและการเติบโตของธุรกิจประกันภัยในยุคดิจิทัลของประเทศไทย

การขยายสัญญาความร่วมมือนี้ เป็นการต่อยอดความสำเร็จของการเป็นพันธมิตรระหว่าง ธนาคารไทยพาณิชย์ และ เอฟดับบลิวดี ประเทศไทย ที่ผนึกกำลังสร้างการเติบโตร่วมกันในปีที่ผ่านมา โดย เอฟดับบลิวดี ประเทศไทย มีอัตราการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่ที่ 67% ในปี 2562 มาอยู่ที่มูลค่า 270 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ ในปี 2565 ส่งผลให้ปัจจุบัน เอฟดับบลิวดี ประเทศไทย ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำด้านเบี้ยประกันชีวิตรับรายใหม่ผ่านช่องทางธนาคาร

นายกฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "นับตั้งแต่ปี 2562 ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ประกาศความร่วมมือด้านประกันชีวิตร่วมกับกลุ่มเอฟดับบลิวดี เพื่อจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตผ่านธนาคาร ด้วยความมุ่งมั่นและวิสัยทัศน์ร่วมกันในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ด้านความคุ้มครองและนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาสร้างประสบการณ์รูปแบบใหม่ให้แก่ลูกค้า มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการผลักดันให้ธุรกิจ ประกันชีวิตผ่านธนาคารของธนาคารไทยพาณิชย์ครองอันดับหนึ่งในตลาดในปัจจุบัน ธนาคารจึงมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งในการขยายความร่วมมือกับกลุ่มเอฟดับบลิวดีต่อไป โดยจะร่วมมือกันพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตด้วยตัวเลือกที่หลากหลายครอบคลุมความต้องการของลูกค้าในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างโอกาสการเติบโตในกลุ่มลูกค้า Affluent และกลุ่มผู้ใช้งานดิจิทัลซึ่งเป็นเป้าหมายทางธุรกิจใหม่ของธนาคาร ความร่วมมือในครั้งนี้จะยังผลให้ธนาคาร รักษาความเป็นผู้นำทางการตลาดอย่างแข็งแกร่ง และบรรลุจุดมุ่งหมายในการเป็น Digital Bank with Human Touch ที่เป็นอันดับหนึ่งด้านการบริหารความมั่งคั่ง พร้อมส่งมอบประสบการณ์การให้บริการที่เชื่อมถึงกันอย่างไร้รอยต่อในทุกช่องทางให้กับลูกค้า

ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) เป็นหนึ่งในธนาคารพาณิชย์ที่มีความสำคัญต่อระบบในประเทศ (D-SIBs) มีจำนวนสาขา 660 สาขาตาม ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565 และได้มีการนำผลิตภัณฑ์และบริการ ของ เอฟดับบลิวดี ประเทศไทย มารวมไว้บนเครื่องมือดิจิทัลของธนาคารอย่างเต็มรูปแบบ โดยมีผู้ใช้บริการสูงถึง 78% จากจำนวนลูกค้าทั้งหมดของธนาคาร และเมื่อสิ้นปี 2565 เอฟดับบลิวดี ประเทศไทยมีจำนวนผู้ถือกรมธรรม์ที่มาจากการเป็นพันธมิตรร่วมกับธนาคารไทยพาณิชย์ จำนวน 1.4 ล้านราย

นายปีเตอร์ กริมส์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มธุรกิจประจำประเทศไทยและกัมพูชา กล่าวว่า "เนื่องในโอกาสครบรอบ 10 ปีของกลุ่มบริษัท เอฟดับบลิวดี เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ขยายระยะเวลาความร่วมมือกับพันธมิตรที่เคียงข้างสร้างความสำเร็จมาด้วยกัน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เอฟดับบลิวดี และธนาคารไทยพาณิชย์ มีวิสัยทัศน์ร่วมกันในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าซึ่งถือเป็นเรื่องหลัก และเป็นหัวใจในการดำเนินธุรกิจของเรา เรามุ่งมั่นทำงานร่วมกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อร่วมกันเปลี่ยนมุมมองของผู้คนที่มีต่อการประกันชีวิตในประเทศไทย ประเทศที่มีศักยภาพในการเติบโตทางเศรษฐกิจ และมีความรู้ความเข้าใจในเทคโนโลยีอย่างกว้างขวาง"

นับตั้งแต่กลุ่ม เอฟดับบลิวดี เข้าซื้อกิจการประกันชีวิตของธนาคารไทยพาณิชย์ และเริ่มทำงานร่วมกับธนาคารไทยพาณิชย์มาตั้งแต่เดือนกันยายน 2562 เอฟดับบลิวดี ประเทศไทยได้ขยายการเติบโต ทั้งในด้านช่องทางการจัดจำหน่าย และการสร้างแบรนด์อย่างต่อเนื่อง และภายใน 6 เดือนนับจากการจับมือเป็นพันธมิตร ได้ประสบความสำเร็จและก้าวขึ้นเป็นอันดับหนึ่งในธุรกิจประกันชีวิตผ่านธนาคาร โดยพิจารณาจากเบี้ยประกันภัยรับรวม ตามข้อมูลของสมาคมประกันชีวิตไทย

ธุรกิจประกันชีวิตในประเทศไทยยังคงมีโอกาสเติบโตและเปี่ยมไปด้วยศักยภาพ ดังจะเห็นได้จากจำนวนประชากรที่ยังไม่สามารถเข้าถึงการประกันภัยอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งในปัจจุบันประเทศไทยมีอัตราการถือครองกรมธรรม์อยู่ที่ 3.8% อ้างอิงจากข้อมูล ณ สิ้นปี 2564 และยังมีโอกาสในการลดช่องว่างความคุ้มครองประกันภัย (Protection gap) ของประเทศคิดเป็นมูลค่า 4.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ จากจำนวนประชากร 72 ล้านคน โดยมีอัตราการเติบโตของรายได้มวลรวมประชาชาติเฉลี่ยต่อคน (Thailand income per capita) อยู่ที่ 3.9% วัด ณ สิ้นปี 2564 เทียบกับค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ 3.0% และมีอัตราการใช้งานโทรศัพท์มือถือและเข้าถึงอินเทอร์เน็ตของประเทศอยู่ที่ 96% และ 68% ตามลำดับ

ที่มา: ธนาคารไทยพาณิชย์

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ