แอลจี อีเลคทรอนิคส์ อิงค์ เผยผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 1 พ.ศ. 2566 ที่ 20.4 ล้านล้านวอน (หรือประมาณ 5.22 แสนล้านบาท) ซึ่งเป็นรายรับประจำไตรมาสที่สูงสุดเป็นอันดับที่สอง โดยมีกำไรจากการดำเนินงานที่ 1.5 ล้านล้านวอน (หรือประมาณ 3.84 หมื่นล้านบาท) ซึ่งเป็นผลกำไรประจำไตรมาสแรกที่สูงที่สุดเป็นอันดับสามของบริษัท ยอดขายที่สูงเป็นประวัติการณ์สะท้อนถึงกลยุทธ์ความมุ่งมั่นในการยกระดับธุรกิจทั้งองค์กร เพื่อเสริมความแข็งแกร่งของโครงสร้างและประสิทธิภาพการดำเนินงาน แม้ผลกำไรจะยังคงได้รับผลกระทบจากความท้าทายที่มาจากภาวะผันผวนของเศรษฐกิจโลกอย่างต่อเนื่อง
โดยโครงสร้างธุรกิจของบริษัทได้รับแรงหนุนอย่างต่อเนื่องจากการขยายตัวของธุรกิจ B2B และธุรกิจที่นอกเหนือจากกลุ่มฮาร์ดแวร์ เช่น ธุรกิจคอนเทนต์และการบริการซึ่งเติบโตอย่างก้าวกระโดด
กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านและเครื่องปรับอากาศ ทำสถิติรายได้ในไตรมาสแรกที่ 8.02 ล้านล้านวอน (หรือประมาณ 2.05 แสนล้านบาท) โดยมีกำไรจากการดำเนินงาน 1.02 ล้านล้านวอน (หรือประมาณ 2.61 หมื่นล้านบาท) ส่งผลให้หน่วยธุรกิจมีรายได้ไตรมาสแรกสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยมีกำไรจากการดำเนินงานเกิน 1 ล้านล้านวอน (หรือประมาณ 2.56 หมื่นล้านบาท) เป็นครั้งแรก การเติบโตอย่างต่อเนื่องได้รับแรงหนุนจากการขยายตัวอย่างรวดเร็วของกลุ่มธุรกิจ B2B ซึ่งเป็นผลพวงจากยอดขายผลิตภัณฑ์ที่ประกอบด้วยปั๊มความร้อนประหยัดพลังงานรวมถึงระบบกักเก็บพลังงาน โดยโซลูชันระบบทำความร้อน ระบบระบายอากาศ และระบบปรับอากาศชั้นนำของแอลจี (LG HVAC) สำหรับการใช้งานเชิงพาณิชย์และที่อยู่อาศัย มีอัตราการเติบโตต่อเนื่องพร้อมประสิทธิภาพเหนือชั้นในการประหยัดพลังงาน สอดรับกับแนวโน้มตลาดยุโรปในปัจจุบันที่ต้องตอบสนองข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดมากขึ้น บริษัทมุ่งเน้นการคงความสามารถในการแข่งขันของกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าพรีเมียม รวมถึงการเสริมความแข็งแกร่งของกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไปเพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการของตลาด พร้อมการจัดการโครงสร้างต้นทุนที่มีประสิทธิภาพเพื่อเพิ่มความสามารถในการทำกำไร โดยคาดว่ากลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าจะเติบโตอย่างต่อเนื่องด้วยกลยุทธ์การขยายฐานลูกค้ากลุ่ม B2B และเร่งการเติบโตของธุรกิจการบริการที่รวมถึงธุรกิจให้เช่าและบำรุงรักษา ซึ่งในช่วง 5 ปีที่ผ่านมามีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีราว 30% ในประเทศเกาหลีใต้
กลุ่มธุรกิจโฮมเอ็นเตอร์เทนเมนต์ เผยผลประกอบการไตรมาสที่ 1 ปี พ.ศ. 2566 ที่ 3.36 ล้านล้านวอน (หรือประมาณ 8.60 หมื่นล้านบาท) โดยมีผลกำไรจากการดำเนินงาน 2.00 แสนล้านวอน (หรือประมาณ 5.13 พันล้านบาท) อัตราการทำกำไรพุ่งสูงขึ้นด้วยกลยุทธ์การจัดการต้นทุนการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพและการคาดการณ์ความต้องการตลาดที่แม่นยำ แม้ว่าความต้องการทีวีทั่วโลกจะลดลงซึ่งมีผลพวงมาจากสภาพเศรษฐกิจที่ท้าทายในทวีปยุโรป แต่ยอดขายยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากการเติบโตของธุรกิจคอนเทนต์และการบริการบนแพลตฟอร์มสมาร์ตทีวี webOS ของแอลจี ควบคู่ไปกับการเสริมศักยภาพทางการแข่งขัน การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียมในปีพ.ศ. 2566 ยังคงสร้างความตื่นเต้นด้วยผลิตภัณฑ์ที่เปี่ยมด้วยนวัตกรรมขั้นสูง เช่นทีวี LG OLED evo โดยคาดว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจะคงความได้เปรียบด้านขีดความสามารถในการแข่งขันของบริษัทอีกด้วย ในขณะเดียวกันการเปิดตัวผลิตภัณฑ์กลุ่มจอไลฟ์สไตล์ (Lifestyle Screens) ซึ่งมาพร้อมการออกแบบและฟีเจอร์ที่โดดเด่นจะช่วยกระตุ้นยอดขายและผลักดันตลาดทีวีพรีเมียมให้เติบโตต่อเนื่อง โดยแอลจีมีกำหนดการเปิดตัวทีวี LG OLED Objet Collection Pose ในกว่า 40 ประเทศทั่วโลกในปีนี้
กลุ่มผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนยานยนต์ สร้างผลงานยอดขายไตรมาสแรก 2.39 ล้านล้านวอน (หรือประมาณ 6.12 หมื่นล้านบาท) โดยมีกำไรจากการดำเนินงาน 5.40 หมื่นล้านวอน (หรือประมาณ 1.38 พันล้านบาท) สร้างรายได้ในไตรมาสแรกสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยได้รับแรงหนุนจากอัตราการทำกำไรต่อเนื่องจากไตรมาสที่ 4 ของปีที่ผ่านมา กลยุทธ์การเสริมความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องของห่วงโซ่ซัพพลายทั่วโลกส่งผลให้ความสามารถในการทำกำไรเพิ่มสูงขึ้นในไตรมาสแรก เนื่องจากมีมูลค่าการสั่งซื้อชิ้นส่วนรถยนต์สะสมสูงถึง 80 ล้านล้านวอน (หรือประมาณ 2.05 ล้านล้านบาท) แม้อุตสาหกรรมยานยนต์โดยรวมทั่วโลกจะเผชิญภาวะผันผวนที่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรม แต่คาดการณ์ว่าความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าจะขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บริษัทคงความได้เปรียบในการแข่งขันจากผลิตภัณฑ์ที่เป็นที่นิยมต่อเนื่อง ประกอบด้วยระบบอินโฟเทนเมนท์ในรถยนต์, ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า (e-Powertrain), ไฟหน้าและโซลูชันยนตกรรมอันโดดเด่น
กลุ่มธุรกิจโซลูชันสำหรับองค์กร เผยรายรับดีขึ้นในไตรมาสแรกที่ 1.48 ล้านล้านวอน (หรือประมาณ 3.79 หมื่นล้านบาท) โดยมีกำไรจากการดำเนินงาน 6.57 หมื่นล้านวอน (หรือประมาณ 1.68 พันล้านบาท) การเติบโตอย่างต่อเนื่องเป็นผลพวงจากกลยุทธ์การตอบโจทย์ความต้องการเชิงรุกของฤดูเปิดภาคการศึกษาด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีความได้เปรียบทางการแข่งขัน ซึ่งรวมถึงคอมพิวเตอร์ Ultraslim LG gram รุ่นใหม่ ขณะเดียวกันยังมุ่งพัฒนาความสามารถในการแข่งขันของผลิตภัณฑ์และยกระดับประสิทธิภาพการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง แอลจีมุ่งเน้นการขยายธุรกิจการแสดงผลโดยการพัฒนาโซลูชันที่กำหนดได้ตามความต้องการและศึกษาความต้องการใหม่ ๆ ของลูกค้าอย่างไม่หยุดยั้ง นอกจากนี้ ยังวางแผนเร่งการพัฒนากลุ่มธุรกิจใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศเกาหลีใต้ โดยการผลิตหุ่นยนต์ (แอลจี ฟิวเจอร์ ปาร์คในเมืองกูมิ) และแท่นชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า (แอลจี ดิจิทัล ปาร์คในเมืองพย็องแท็ก) ได้รับการบูรณาการเข้ากับระบบการผลิตของแอลจีอย่างเต็มรูปแบบ
การประชุมทางโทรศัพท์เพื่อรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 1 ปี พ.ศ. 2566
แอลจี อีเลคทรอนิคส์ อิงค์ (แอลจี) จัดการประชุมทางโทรศัพท์ทั้งภาษาเกาหลีและภาษาอังกฤษในวันที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2566 เวลา 16:00 น. ตามเวลามาตรฐานในประเทศเกาหลี (07:00 GMT/UTC) ผู้เข้าร่วมการประชุมทางโทรศัพท์โปรดลงทะเบียนออนไลน์ล่วงหน้าเพื่อรับ PIN ส่วนบุคคล เพื่อเข้าร่วมการประชุมทางโทรศัพท์ กดหมายเลข +82 31 810 3130 และป้อนรหัสผ่าน 6418# แล้วตามด้วย PIN ส่วนบุคคล โดยสามารถดาวน์โหลดเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการประชุมล่วงหน้าได้ที่เว็บไซต์ LG Electronics
ที่มา: แอลจี-วัน ประเทศไทย