STA ทำรายได้ไตรมาสแรก 24,426 ล้านบาท เตรียมรับปัจจัยบวกใน Q2 ชี้สต๊อกวัตถุดิบผู้ประกอบการล้อยางทยอยลดลง หนุนดีมานด์และราคายางปรับตัวดีขึ้น

พุธ ๑๐ พฤษภาคม ๒๐๒๓ ๑๕:๒๖
บมจ.ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี ("STA" หรือ "บริษัทฯ) ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาสแรกของปีนี้ มีปริมาณการขายยางธรรมชาติ 400,000 ตัน เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า แต่ได้รับผลกระทบจากราคาสินค้าผันผวน ส่งผลให้มีรายได้จากการขายและบริการ 24,426 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 288 ล้านบาท ชะลอตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่แนวโน้มไตรมาส 2/2566 เห็นสัญญาณบวกจากระดับสต๊อกวัตถุดิบของผู้ประกอบการยางล้อที่ทยอยลดลง จะหนุนดีมานด์และราคายางค่อยๆปรับตัวดีขึ้น พร้อมขยายกำลังการผลิตตามแผนงานที่วางไว้

นายวีรสิทธิ์ สินเจริญกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่และกรรมการบริหาร บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) ผู้นำในธุรกิจยางธรรมชาติครบวงจรรายใหญ่ที่สุดของโลกและผู้ผลิตถุงมือยางรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2566 มีปริมาณการขายยางธรรมชาติรวม 400,000 ตัน เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าที่มีปริมาณการขายรวม 386,000 แสนตัน อย่างไรก็ตาม เนื่องจากราคาขายเฉลี่ยที่ปรับลดลง ส่งผลให้บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและให้บริการ 24,426 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 288 ล้านบาท ชะลอตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน

ทั้งนี้ คาดว่าภาพรวมความต้องการใช้ยางธรรมชาติในไตรมาส 2/2566 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เนื่องจากปริมาณสต๊อกวัตถุดิบของกลุ่มผู้ประกอบการล้อยางในปัจจุบันเริ่มทยอยลดลง ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อราคายางในตลาดโลกที่มีโอกาสปรับเพิ่มขึ้นและส่งผลดีต่อภาพรวมรายได้ของบริษัทฯ

ขณะเดียวกัน คาดว่าผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในไตรมาส 2/2566 จะได้รับผลดีจากปัจจัยบวกต่างๆ ได้แก่ 1) กำลังการผลิตใหม่ที่เพิ่มขึ้นกว่า 245,000 ตันต่อปีในไตรมาสแรกที่ผ่านมา จากการขยายโรงงานที่แล้วเสร็จในจ.สระแก้วและ จ.กาฬสินธุ์ 2) ความต้องการใช้ยางแท่งที่ยังคงมีมากกว่ากำลังการผลิตของบริษัทฯ 3) บริษัทฯ ได้พัฒนาแอปพลิเคชัน Sri Trang Friends ให้สามารถตรวจสอบย้อนกลับถึงแหล่งที่มาวัตถุดิบ เพื่อให้ความมั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ยางธรรมชาติของบริษัทฯ ไม่ได้มาจากแหล่งปลูกยางที่มีการตัดไม้ทำลายป่า จึงสามารถตอบโจทย์กลุ่มลูกค้ายุโรปที่เตรียมประกาศใช้ The European Union (EU) Regulation on Deforestation-Free Products (EUDR) หรือกฎหมายว่าด้วยสินค้าที่ปลอดจากการตัดไม้ทำลายป่า

"เรามองว่าแนวโน้มดีมานด์ยางธรรมชาติจากกลุ่มผู้ประกอบการล้อยางจะปรับเพิ่มขึ้นในครึ่งปีหลัง ดังนั้นปัจจุบันบริษัทฯ ยังคงเดินหน้าแผนขยายกำลังการผลิตยางแท่งและน้ำยางข้น ซึ่งจะทยอยแล้วเสร็จในไตรมาส 3 - 4 ของปีนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับตลาดที่กำลังปรับตัวดีขึ้นและจะเป็นโอกาสของบริษัทฯ ในการเพิ่มปริมาณการขายและส่วนแบ่งอุตสาหกรรมยางธรรมชาติในตลาดโลก" นายวีรสิทธิ์ กล่าว

ที่มา: เอ็ม ที มัลติมีเดีย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ