นางสุวรรณา ขจรวุฒิเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มีนาทรานสปอร์ต จำกัด (มหาชน) หรือ MENA ผู้นำธุรกิจให้บริการขนส่งคอนกรีตผสมเสร็จด้วยรถมิกเซอร์ (Mixer) และรถเทรลเลอร์ (Trailer) รายใหญ่ของประเทศ เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2566 (สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2566) ของบริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 15.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.4 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 73% จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 8.8 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมเท่ากับ 194.9 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนเท่ากับ 158.4 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 23%
ปัจจัยที่ส่งผลให้กำไรขั้นต้นและกำไรสุทธิไตรมาสแรกของบริษัทฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากรับอานิสงส์จากการขนส่งสินค้าทุกประเภททั้งซีเมนต์ คอนกรีต สินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าเฉพาะทาง และสินค้าควบคุมอุณหภูมิขยายตัวต่อเนื่อง รวมถึงการขยายงานของบริษัทฯ ทำให้เกิดการประหยัดต่อขนาด (Economies of Scale) และมีขีดความสามารถในการบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
"จากการที่บริษัทฯ มีความสามารถในการบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบกับมีแผนธุรกิจและทิศทางการเติบโตที่ชัดเจน ขณะที่ผลิตภัณฑ์และการบริการสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุดทำให้ MENA สามารถรักษามาตรฐานการดำเนินธุรกิจและตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ จึงเป็นผลทำให้ผลการดำเนินงานเติบโตตามที่คาดไว้ ซึ่งบริษัทฯ จะรักษาอัตราการเติบโตของผลการดำเนินงานทุกๆ ปี ให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป" นางสุวรรณากล่าว
สำหรับทิศทางธุรกิจครึ่งปีหลังคาดว่าจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก เนื่องจากธุรกิจโลจิสติกส์มีแนวโน้มสดใส โดยเฉพาะธุรกิจให้บริการขนส่งรถคอนกรีตผสมเสร็จด้วยรถผสมคอนกรีตหรือรถมิกเซอร์ (Mixer) ที่มีโอกาสเติบโตสูงจากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมก่อสร้าง ที่เร่งดำเนินการโครงการเมกะโปรเจคต่างๆ ตามนโยบายภาครัฐที่ขับเคลื่อนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ รวมถึงโครงการก่อสร้างภาคเอกชนทั้งรายใหญ่และรายย่อยโดยเฉพาะภาคอสังหาริมทรัพย์ที่มีแนวโน้มฟื้นตัวตามการเปิดโครงการใหม่ๆ ซึ่งส่งดีต่อ MENA ที่เป็นผู้ให้บริการขนส่งคอนกรีตผสมเสร็จด้วยรถมิกเซอร์ และรถเทรลเลอร์
ขณะเดียวกันบริษัทฯ ยังมีจุดแข็งจากการมีสัดส่วนขนส่งคอนกรีตผสมเสร็จอยู่ที่ 10% ของ Market share ทั้งประเทศ ซึ่งคาดว่าจะขยายเพิ่มขึ้นได้อีกในปีนี้ และยังมีแผนรุกขยายงานขนส่งให้ครอบคลุมในหลากหลายอุตสาหกรรม โดยบริษัทฯ ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนการขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภคในตลาดเฉพาะทางที่มีความเติบโตอย่างต่อเนื่องให้มากยิ่งขึ้น รวมถึงการเติบโตจากการร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจรายใหญ่โดยผ่านบริษัทร่วมทุน คือ ทีดี เอ็มลอจิสติกส์ จำกัด (TDM) ทำให้มั่นใจรายได้ปีนี้จะเติบโตตามเป้าไม่ต่ำกว่า 15%
ที่มา: ไออาร์ เน็ตเวิร์ค