TGE ผลงานโค้งแรกโดดเด่น Q1/66 กำไรสุทธิ 63 ล้านบาท พุ่งแรง 22.1% รับค่า Ft เพิ่มและต้นทุนลดลง มั่นใจไตรมาส 2 โตต่อเนื่อง

จันทร์ ๑๕ พฤษภาคม ๒๐๒๓ ๑๔:๒๓
'บมจ.ท่าฉาง กรีน เอ็นเนอร์ยี่' หรือ TGE ผู้พัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาด ประกาศผลงานไตรมาสแรกแข็งแกร่ง ทำกำไรสุทธิ 63 ล้านบาท เติบโตแรง 22.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีรายได้จากการดำเนินงานรวม 234.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากค่า Ft ที่เพิ่มขึ้น ต้นทุนการผลิตที่ลดลงอย่างมากและการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้า คาดไตรมาส 2 เติบโตต่อเนื่องจากปัจจัยด้านราคาเชื้อเพลิงและราคารับซื้อไฟฟ้าที่จะส่งผลดีต่อเนื่อง

นายพงศ์นรินทร์ วนสุวรรณกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ท่าฉาง กรีน เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ TGE เปิดเผยถึงภาพรวมผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2566 (มกราคม - มีนาคม) สามารถสร้างผลงานเติบโตตามแผนงานที่วางไว้ทั้งรายได้และกำไรเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีกำไรสุทธิ 63 ล้านบาท เติบโตโดดเด่น 22.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 5.2% จากไตรมาสก่อนหน้า ส่วนรายได้จากการดำเนินงานรวมอยู่ที่ 234.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ตอกย้ำความแข็งแกร่งของบริษัทฯ และความเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาด

ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2566 ที่เติบโตได้ดีจากช่วงเดียวกันของปีก่อน มาจาก 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่ 1) ค่า Ft (ค่าไฟฟ้าผันแปร) ที่เพิ่มขึ้น ค่า FiT (Feed-in Tariff) และสัญญาซื้อขายไฟฟ้าเพิ่มเติมของโรงไฟฟ้า TBP ในพื้นที่อำเภอท่าฉาง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ส่งผลดีต่อรายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น 2) ต้นทุนการผลิตที่ลดลงอย่างมาก โดยเฉพาะราคาเชื้อเพลิงมีราคาลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา และ3) การเพิ่มประสิทธิภาพบริหารต้นทุนในการผลิตไฟฟ้าภายในโรงไฟฟ้าชีวมวลทั้ง 3 โรง ที่ผลิตไฟฟ้าเพื่อจำหน่ายเชิงพาณิชย์ (COD) แล้ว ได้แก่ โรงไฟฟ้าชีวมวล TGE, TPG และ TBP ในพื้นที่อำเภอท่าฉาง จังหวัดสุราษฎร์ธานี

ขณะที่แนวโน้มผลการดำเนนงานไตรมาส 2/2566 ได้มุ่งสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องจากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยจะได้รับปัจจัยบวกอย่างต่อเนื่องจากราคาวัตถุดิบที่ลดลงและอัตรารับซื้อไฟฟ้าจากภาครัฐที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้คาดว่าอัตราการเดินเครื่องจักรผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าชีวมวลทั้ง 3 โรงจะอยู่ในระดับสูง เนื่องจากไม่มีแผนหยุดเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าชั่วคราวเพื่อปรับปรุงเครื่องจักร

ทั้งนี้ สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างการพัฒนา 5 โครงการ ได้แก่ โครงการ TES-SKW จังหวัดสระแก้ว โครงการ TES-RBR จังหวัดราชบุรี โครงการ TES-CPN จังหวัดชุมพร โครงการ TES-TCN จังหวัดสมุทรสาคร และโครงการ TES-CNT จังหวัดชัยนาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพัฒนาคาดว่าจะทยอยแล้วเสร็จและเริ่มรับรู้รายได้ก่อน 3 โรงในปี 2567 และจะรับรู้รายได้เต็มปีตั้งแต่ปี 2568 ส่วนอีก 2 โรงจะเริ่มรับรู้รายได้ปลายปี 2568 เป็นต้นไป ซึ่งจะส่งผลดีต่อภาพรวมผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปี 2569 จะเข้าสู่ช่วงเติบโตอย่างก้าวกระโดด คาดว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้น 3 เท่า นอกจากนี้บริษัทฯ เตรียมเข้าประมูลโครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชนจาก อปท. เพิ่มอีก 2 โครงการภายในปีนี้

ที่มา: เอ็มที มัลติมีเดีย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ