มูลนิธิที่อยู่อาศัยเพื่อมนุษยชาติ เปิดตัวแคมเปญ Home Equals มุ่งสนับสนุนผู้อยู่อาศัยในชุมชนแออัดทั่วโลก

อังคาร ๑๖ พฤษภาคม ๒๐๒๓ ๐๘:๓๐
มูลนิธิที่อยู่อาศัยเพื่อมนุษยชาติ (Habitat for Humanity) และพันธมิตรทั่วโลก เปิดตัวแคมเปญระยะเวลา 5 ปีที่มีชื่อว่า Home Equals หรือ บ้านเท่าเทียม เพื่อผลักดันการเปลี่ยนแปลงนโยบายในระดับท้องถิ่น ระดับชาติ และระดับโลก ในการเพิ่มการเข้าถึงที่อยู่อาศัยที่เพียงพอสำหรับผู้อยู่อาศัยในชุมชนแออัดและที่อยู่อาศัยนอกระบบ (Informal Settlement)

ประชากรมากกว่า 1 พันล้านคนทั่วโลกอาศัยอยู่ในชุมชนแออัดและที่อยู่อาศัยนอกระบบ และตัวเลขดังกล่าวยังคงเพิ่มสูงขึ้น ชุมชนเหล่านี้เข้าถึงบริการขั้นพื้นฐานได้อย่างจำกัด เช่น น้ำสะอาด สุขาภิบาล และไฟฟ้า นอกจากนี้ ผู้อยู่อาศัยในชุมชนแออัดและที่อยู่อาศัยนอกระบบยังไม่มีสิทธิในที่ดินและทรัพย์สิน จึงกลัวการถูกไล่ที่ อีกทั้งยังเผชิญกับภัยคุกคามจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ทวีความรุนแรงขึ้น เช่น ภัยแล้ง และน้ำท่วม

"เมื่อพูดถึงสถานที่ที่เราเรียกว่าบ้าน ผู้อยู่อาศัยในชุมชนแออัดและที่อยู่อาศัยนอกระบบมักไม่ได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียม" คุณโจนาธาน เรกฟอร์ด (Jonathan Reckford) ประธานและซีอีโอของมูลนิธิที่อยู่อาศัยเพื่อมนุษยชาติสากล กล่าว "พันธมิตรของเราในแคมเปญบ้านเท่าเทียมสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงนโยบาย ด้วยการเพิ่มการเข้าถึงที่อยู่อาศัยที่เพียงพอ และสนับสนุนวิธีการแก้ปัญหาที่สร้างสรรค์ที่มาจากผู้อยู่อาศัยในชุมชนเอง ขอเชิญมาร่วมกันกับเราในการสร้างโลกที่เท่าเทียมกันมากขึ้น เพราะบ้านเท่ากับสุขภาพ บ้านเท่ากับความปลอดภัยและความมั่นคง และบ้านเท่ากับโอกาสสำหรับอนาคตที่ดีกว่า"

ในระดับโลกนั้น มูลนิธิที่อยู่อาศัยเพื่อมนุษยชาติเรียกร้องให้กลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ G7 ซึ่งมีกำหนดการประชุมในช่วงสุดสัปดาห์นี้ที่เมืองฮิโรชิมา ประเทศญี่ปุ่น ยอมรับว่าที่อยู่อาศัยเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนา และเรียกร้องให้ทางกลุ่มให้คำมั่นสัญญาว่าจะตอบสนองความต้องการที่อยู่อาศัยในชุมชนแออัดและที่อยู่อาศัยนอกระบบ ในฐานะที่เป็นหนทางหนึ่งในการขับเคลื่อนการพัฒนาที่สำคัญในระดับสากล เช่น การเติบโตทางเศรษฐกิจ สุขภาพ และการศึกษา

เศรษฐกิจและมนุษย์จะได้รับการพัฒนามากขึ้น หากมีการปรับปรุงที่อยู่อาศัยนอกระบบในวงกว้าง ตามรายงานที่เผยแพร่ในวันนี้เพื่อสนับสนุนแคมเปญบ้านเท่าเทียม โดยรายงานฉบับแรกจากมูลนิธิที่อยู่อาศัยเพื่อมนุษยชาติ และสถาบันระหว่างประเทศเพื่อสิ่งแวดล้อมและการพัฒนา (International Institute for Environment and Development หรือ IIED) ซึ่งเป็นพันธมิตรด้านการวิจัย ได้จำลองประโยชน์ที่จะได้รับจากการปรับปรุงที่อยู่อาศัยเหล่านั้น ในแง่ของการผลิตที่ประหยัด รายได้ สุขภาพ และการศึกษา

รายงานพบว่า จีดีพีและรายได้ต่อหัวอาจเพิ่มขึ้นมากถึง 10.5% ในบางประเทศ และอาจช่วยชีวิตประชากรได้มากกว่า 730,000 คนทั่วโลกในแต่ละปี ซึ่งมากกว่าจำนวนผู้เสียชีวิตที่สามารถป้องกันได้ในแต่ละปีจากการกำจัดโรคมาลาเรีย แบบจำลองยังแสดงด้วยว่า เด็กอีกมากถึง 41.6 ล้านคนจะได้เข้าเรียนในโรงเรียน ซึ่งตัวเลขดังกล่าวคิดเป็น 1 ใน 6 ของเด็กที่ไม่ได้เรียนหนังสือทั่วโลก

"การรับประกันว่าผู้อยู่อาศัยในชุมชนแออัดจะสามารถเข้าถึงที่อยู่อาศัยได้อย่างเพียงพอไม่เพียงเป็นสิ่งที่ถูกต้องเท่านั้น" คุณเรกฟอร์ดกล่าว "แต่ยังเป็นเรื่องฉลาดที่จะทำด้วย"

คุณอเล็กซานเดร อัปซาน เฟรดิอานี (Alexandre Apsan Frediani) นักวิจัยจาก IIED และหนึ่งในผู้เขียนรายงาน กล่าวว่า "ผลการวิจัยของเราแสดงให้เห็นประโยชน์มากมายต่อสุขภาพ การศึกษา และรายได้ของผู้คน หากได้อาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม สามารถเข้าถึงบริการพื้นฐาน เช่น ระบบน้ำประปาและน้ำเสีย และปราศจากภัยคุกคามจากการขับไล่หรือการก่อกวน" โดยประโยชน์ที่จำลองไว้ในรายงานการวิจัยนั้นอาจจะเป็นการประเมินที่ต่ำเกินไป เพราะถึงแม้ว่านักวิจัยจะไม่สามารถวัดปริมาณได้ แต่ก็มีหลักฐานชัดเจนว่า สิ่งแวดล้อม การเมือง และระบบการดูแลดีขึ้นทั่วทุกชนชั้นของสังคม เมื่อผู้อยู่อาศัยในชุมชนแออัดและที่อยู่อาศัยนอกระบบสามารถเข้าถึงที่อยู่อาศัยที่ดีขึ้น ซึ่งนำไปสู่ความก้าวหน้าทั้งภายในและภายนอกชุมชนเหล่านั้น "เรื่องนี้ส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่" เขากล่าว "เพราะเมื่อผู้อาศัยในที่อยู่อาศัยนอกระบบมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ทุกคนในสังคมก็จะดีขึ้นตามไปด้วย"

แคมเปญบ้านเท่าเทียมดำเนินการแล้วในกว่า 35 ประเทศทั่วโลก โดยในบราซิลนั้น มูลนิธิที่อยู่อาศัยเพื่อมนุษยชาติและพันธมิตรกำลังทำงานร่วมกับฝ่ายบริหารชุดใหม่เกี่ยวกับโครงการที่อยู่อาศัยและการพัฒนาเมือง เพื่อให้แน่ใจว่าผู้อยู่อาศัยในชุมชนแออัดและที่อยู่อาศัยนอกระบบสามารถเข้าถึงบริการขั้นพื้นฐาน เช่น น้ำและสุขอนามัย ขณะที่มูลนิธิที่อยู่อาศัยเพื่อมนุษยชาติ ประเทศมาลาวี เรียกร้องให้มีการบังคับใช้กฎหมายการจัดการความเสี่ยงจากภัยพิบัติ (Disaster Risk Management Bill) เพื่อสร้างความมั่นใจว่าที่อยู่อาศัยในประเทศจะทนทานต่อภัยพิบัติเมื่อเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ส่วนในเวียดนาม เรากำลังทำงานร่วมกับพันธมิตรในท้องถิ่นเกี่ยวกับนโยบายที่ยั่งยืน ซึ่งจะช่วยให้ชาวเวียดนามที่เดินทางกลับจากกัมพูชามีบ้านที่ปลอดภัย และในมาซิโดเนียเหนือ ทางมูลนิธิที่อยู่อาศัยเพื่อมนุษยชาติกำลังร่วมมือกับชุมชนชาวโรมา (Roma) เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขามีสิทธิ์มีเสียงในการตัดสินใจทั้งในระดับเทศบาลและระดับชาติ

วิดีโอ - https://mma.prnewswire.com/media/2073672/Habitat_for_Humanity_Video.mp4
รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/2073671/Manaus_Brazil.jpg
โลโก้ - https://mma.prnewswire.com/media/95215/habitat_for_humanity_logo.jpg



ที่มา:  พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version