คุณจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ JKN เปิดเผยว่า บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการผลักดันผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2566 (มกราคม-มีนาคม) เติบโตก้าวกระโดด โดยมีรายได้รวม 932.51 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 100% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งปัจจัยมาจากรายได้จากการดำเนินงานของกลุ่มธุรกิจ MUO ที่เป็นหัวหอกสำคัญช่วยขับเคลื่อนการเติบโต เช่นเดียวกับกลุ่มธุรกิจ Content ที่เป็นธุรกิจที่สร้างรายได้หลักสามารถขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง ผ่านจุดแข็งการเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์แบรนด์ดังระดับโลกในรูปแบบ Output Deal ที่ครอบคลุมทุกกลุ่มผู้ชมเพื่อจำหน่ายให้แก่คู่ค้าทั้งในและต่างประเทศ ประกอบกับการบริหารจัดการลิขสิทธิ์คอนเทนต์เพื่อส่งเสริมการทำตลาดและสร้างการรับรู้ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ของ Commerce ผ่านช่องทาง JKN18 และมีรายได้จากค่าบริการรับฝากขายสินค้าจากลูกค้าผ่านช่อง JKN Hi-Shopping เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้กลุ่มธุรกิจ Commerece ขยายตัวได้ดีเช่นกัน
ส่วนกำไรสุทธิเบ็ดเสร็จในไตรมาสนี้ทำได้ 73.63 ล้านบาท เติบโตถึง 48.50% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นการเติบโตสอดคล้องกับรายได้รวมที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการบริหารจัดการด้านค่าใช้จ่ายการขายและการบริหารที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
"ผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกของปีนี้ เป็นเครื่องยืนยันที่ชัดเจนว่า ปีนี้จะเป็นปี Growth Mode ของกลุ่ม JKN โดยมีกลุ่มธุรกิจ MUO ที่เป็น New S Curve ที่เป็นพลังสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนการเติบโตอย่างก้าวกระโดดนับจากนี้เป็นต้นไป " คุณจักรพงษ์ กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ JKN กล่าวว่า บริษัทฯ มั่นใจว่าจะผลักดันผลการดำเนินงานทั้งปีเติบโต 80% หรือคิดเป็นรายได้รวม 3,800 ล้านบาท จากแผนกลยุทธ์ขับเคลื่อนองค์กรไปสู่ Global Content Commerce Company โดยมีกลุ่มธุรกิจ MUO ช่วยสนับสนุนการเติบโตจากแผนงานโครงสร้างรายได้ 9 ด้าน โดยมีแผนนำ Licensing & Merchandising Fee หรือ การจำหน่ายสินค้าหรือบริการหรือให้สิทธิ์ผลิตสินค้าหรือบริการ ภายใต้แบรนด์หรือเครื่องหมายการค้าต่างๆ ของ MUO เพื่อขยายธุรกิจ Commerce ในครึ่งปีหลังของปีนี้ รวมถึงแผนจัดการประกวด Miss Universe ครั้งที่ 72 ที่ประเทศเอลซัลวาดอร์ ที่ช่วยผลักดันเป้าหมายและทำให้มีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานธุรกิจที่ดีขึ้น โดยบริษัทฯ อยู่ระหว่างดำเนินการยกเลิกการใช้ AO Fund ซึ่งปัจจุบันมียอดหุ้นกู้แปลงสภาพที่ให้สิทธิแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญของบริษัทฯ คงเหลือประมาณ 3 ล้านบาทเท่านั้น
ที่มา: เอ็ม ที มัลติมีเดีย