นางนันท์มนัส กล่าวต่อไปว่า "ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ได้มีการขึ้นดอกเบี้ยอัตราดอกเบี้ยนโยบายครั้งล่าสุดอีกร้อยละ 0.25 ในรอบการประชุมเดือน พฤษภาคม 2566 เป็นร้อยละ 5.00 ถึง 5.25 และส่งสัญญาณเริ่มหยุดขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายหลังจากอัตราเงินเฟ้อเริ่มมีแนวโน้มขยายตัวช้าลง การเข้าใกล้จุดสูงสุดของการดำเนินนโยบายการเงินแบบหดตัว จะทำเป็นจุดที่น่าลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพดี อีกทั้งทำให้ Fed มีขีดความสามารถในการดำเนินนโยบายการเงิน (Policy space) ในการกระตุ้นเศรษฐกิจระลอกใหม่ ซึ่งอาจส่งผลให้ตลาดทุนมีแนวโน้มกลับมาฟื้นตัวได้ ซึ่งในจังหวะนี้ บริษัทฯ มองว่าตลาดทุนยังอยู่ในช่วงระยะปรับฐาน จึงมองเป็นโอกาสสำหรับการลงทุนกับกลุ่มสินทรัพย์หุ้นคุณภาพที่คาดว่าจะสามารถโดดเด่น/ทนทานกว่าตลาดโดยรวม และเป็นจังหวะที่ระดับราคาตลาดน่าสนใจเข้าลงทุน"
สำหรับ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ Performance-Linked Complex Return 2YB ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย หรือ กองทุน SCBLINK2YB เป็นกองทุน Complex Fund อายุ 2 ปี ที่ลงทุนในธุรกิจที่เน้นการบริหารและสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจด้วยความยั่งยืน โดยกองทุนจะมีนโยบายแบ่งเงินลงทุนเป็น 2 ส่วน คือ (1) ลงทุนในตราสารหนี้ระดับ Investment Grade ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งเป็นตราสารลงทุนที่มีความผันผวนต่ำ ในสัดส่วนร้อยละ 97.50 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน (NAV) จึงสามารถช่วยลดความเสี่ยงการขาดทุนของเงินต้น อีกทั้ง ยังมีการป้องกันความเสี่ยง (Hedging) ของอัตราแลกเปลี่ยนสำหรับการลงทุนในตราสารหนี้และเงินฝากต่างประเทศทั้งจำนวน จึงทำให้มีโอกาสได้รับเงินลงทุนคืนพร้อมโอกาสรับผลตอบแทน/ดอกเบี้ยคงที่ระหว่างทางที่ร้อยละ 0.5 ในปีที่ 1 และปีที่ 2 สำหรับส่วนที่ (2) ลงทุนในสัญญาออปชั่นอ้างอิงกับดัชนี S&P ESG Global Macro อีกประมาณร้อยละ 2.50 โดยมีตัวคูณร่วม (Participation Rate) อยู่ที่ร้อยละ 50 และจ่ายผลตอบแทนส่วนเพิ่มแบบ Performance Link รวมถึงมีการปรับสัดส่วนน้ำหนักการลงทุนตามทิศทางตลาดด้วยวิธี rule-based จึงมีโอกาสในการสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่มที่ไม่จำกัด หากดัชนีมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น ณ วันพิจารณาเมื่อเทียบกับราคาสินทรัพย์ ณ วันเริ่มต้นสัญญา
ที่มา: บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์