นายสยาม เตียวตรานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทิร์นคีย์ คอมมูนิเคชั่น เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ TKC กล่าวว่า ผลประกอบการบริษัทฯ ในงวดไตรมาส 1/2566 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 53.07 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.53 ล้านบาท หรือ 14.03% มีรายได้รวม 914.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 275.58 ล้านบาท หรือคิดเป็น 43.12% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยรายได้หลักแบ่งเป็นรายได้จากงานโครงการ 490.33 ล้านบาท รายได้จากงานบริการวิศวกรรมและบำรุงรักษา 202.68 ล้านบาท รายได้จากการขาย 219.21 ล้านบาท
"ผลการดำเนินงานเป็นที่น่าพอใจเติบโตทั้งรายได้และกำไร โดยภาพรวมผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในงวดไตรมาสแรกปีนี้ รายได้รวมเพิ่มขึ้นจำนวน 275.58 ล้านบาท หรือคิดเป็น 43.12% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันในปีก่อน เนื่องจากบริษัทฯ มีการรับรู้รายได้จากการขายและรายได้จากงานโครงการพัฒนาระบบนิเวศศูนย์ดิจิทัลชุมชนอย่างยั่งยืน จำนวน 361.41 ล้านบาท หรือคิดเป็น 39.51% ของรายได้รวม" นายสยามกล่าว
โดยแผนธุรกิจปี 66 บริษัทฯตั้งเป้ารายได้เติบโตไม่น้อยกว่า 20% จากธุรกิจหลักด้านโทรคมนาคมที่มีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เสริมทัพด้วยกลุ่มธุรกิจใหม่ Smart solution โดยแบ่งสัดส่วนการเติบโตไว้ที่ 75% และ 25% ตามลำดับ ในขณะที่ปัจจุบัน TKC มีมูลค่างานในมือ (Backlog) กว่า 4,000 ล้านบาท คาดทยอยรับรู้รายได้ปีนี้ประมาณ 40% ส่วนที่เหลือรับรู้เพิ่มเติมภายในปี 68
"ธุรกิจหลักด้านโทรคมนาคม ปีนี้มีแนวโน้มเติบโตในทิศทางที่ดีขึ้น เนื่องจากมีความชัดเจนเรื่องการควบรวมกิจการของโอเปอเรเตอร์ TKC มีโอกาสสร้างรายได้จากการเติบโตจากอุตสาหกรรมที่เรามีความเชี่ยวชาญมากว่า 20 ปี ขณะที่ธุรกิจสายงานไอที IoT AI รวมทั้งระบบคลาวด์ ยังคงเติบโตต่อเนื่องในปีนี้ กลุ่มลูกค้าทั้งภาครัฐและเอกชน มองหาเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพขององค์กร จึงเป็นปีที่สดใสของอุตสาหกรรมด้านดิจิทัลโซลูชัน ขณะเดียวกันสายงานธุรกิจ Public safety หรือความปลอดภัยสาธารณะ ปีนี้คาดว่าจะเห็นความชัดเจนของระบบ National Trunk จากภาครัฐ ซึ่งบริษัทมีประสบการณ์จากการทำระบบ LTE เป็นรายแรกๆ ในประเทศไทย" นายสยาม กล่าว
นายสยาม กล่าวถึงโครงการในปี 2566 ที่บริษัทได้เซ็นสัญญาล่าสุด ได้แก่ โครงการสร้าง Smart Building มูลค่าเกือบ 400 ล้านบาท ปีนี้ TKC ตั้งเป้าจะเป็นผู้นำในการจัดอบรมบุคลากรด้านไซเบอร์ให้กับหน่วยงานที่ดูแลรับผิดชอบโครงสร้างพื้นฐาน (Critical Infrastructure CI) เช่น ไฟฟ้า ประปา
อีกทั้งในปี 2566 บริษัทฯ เดินหน้ายื่นประมูลงานใหม่เพิ่มเติมราว 6,500 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าจัดงบลงทุน เร่งพัฒนาบุคลากร เสริมทักษะ digital skill ต่อยอดความแข็งแกร่งด้านดิจิทัลและขับเคลื่อน Tech Ecosystem ในประเทศไทยให้เติบโตในระดับนานาชาติ
ที่มา: ไออาร์ พลัส