เนื่องจาก ความรู้ทางการเงิน ถือเป็นทักษะสำคัญใน 3 อันดับแรกของเด็กๆในอนาคต รองมาจากทักษะด้าน STEM (วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ วิศวกรรม และเทคโนโลยี) และ ความชำนาญในด้านดิจิทัล พรูเด็นซ์ ฟาวน์เดชัน ซึ่งเป็นองค์กรการกุศลในเอเชียของกลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียล จึงได้เปิดตัวโครงการ "ชะ-ชิ้ง" นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2559 โดยเป็นหลักสูตรที่ให้ความรู้ทางการเงินที่ได้รับการยอมรับทั่วโลกสำหรับเด็กอายุระหว่าง 7 ถึง 12 ปี โดยได้รับความร่วมมือจากการ์ตูนเน็ตเวิร์ก เอเชีย (Cartoon Network Asia) ช่องการ์ตูนและรายการเด็กชั้นนำในเอเชียแปซิฟิก และความเชี่ยวชาญของ ดร. อลิซ ไวล์เดอร์ (Dr. Alice Wilder) ผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาสำหรับเด็กที่ได้รับรางวัลเอ็มมี
นายมาร์ค แฟนซี ผู้อำนวยการบริหาร พรูเด็นซ์ ฟาวน์เดชัน กล่าวว่า "ผมอยากเน้นย้ำว่า การปลูกฝังให้เด็กๆมีความรู้เรื่องการเงินตั้งแต่เนิ่นๆ ถือเป็นสิ่งที่คุ้มค่าเป็นอย่างยิ่ง เพราะเราไม่ได้เพียงแค่วางรากฐานให้กับพวกเขาด้านการศึกษาเท่านั้น แต่เรายังปลูกฝังให้เด็กๆสามารถนำความรู้เหล่านั้นไปต่อยอดในชีวิตของพวกเขาอีกด้วย อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ควรเป็นวาระสำคัญที่ได้รับการสนับสนุนจากหลายภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็น นักวิชาการ, ภาครัฐ และองค์กรต่างๆ เพราะเป็นโอกาสที่สำคัญยิ่งของเด็กและเยาวชน ที่จะได้พัฒนาทักษะทางการเงินที่จะช่วยให้พวกเขาประสบความสำเร็จด้านการเงินไปตลอดชีวิต"
โครงการ "ชะ-ชิ้ง" มีจุดมุ่งหมายเพื่อปลูกฝังพฤติกรรม ความรู้ และค่านิยมที่ดีเกี่ยวกับการบริหารเงินในเยาวชน โดยมีพันธมิตรที่แข็งแกร่งในการสนับสนุนโครงการฯอย่าง มูลนิธิจูเนียร์อะชีฟเม้นท์ หรือ JA ที่ผลักดันให้สื่อการ์ตูนแอนิเมชันประกอบเพลงได้รับการบรรจุอยู่ในหลักสูตรของโรงเรียน โดยเปิดตัวไปแล้วใน 15 ประเทศทั่วเอเชียและแอฟริกา และรองรับมากถึง 13 ภาษา เข้าถึงเยาวชนกว่า 1.2 ล้านคน และครูอีกกว่า 37,000 คนทั่วโลก
นายมาซิเออ ซัลเบ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารมูลนิธิจูเนียร์ อะชีฟเม้นท์ ภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า "เป้าหมายหลักของโครงการ "ชะ-ชิ้ง" คือการเป็นส่วนสำคัญในการเสริมสร้างศักยภาพและวางรากฐานความรู้ด้านการเงินให้แก่เยาวชนทั่วโลก ผมขอบคุณ พรูเด็นซ์ ฟาวน์เดชัน และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน ที่ร่วมกันทุ่มเททำงาน เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงให้คนหลายล้านคน ผมเห็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น เห็นถึงการพัฒนาของชุมชนรวมถึงสถาบันที่กำกับชุมชนเหล่านั้น โครงการนี้เป็นต้นแบบที่เราได้ร่วมมือกันสร้างการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากการทำงานเป็นทีมเวิร์คท่ามกลางความท้าทายต่าง ๆ ผมยังคงเดินหน้าสานต่องานโครงการ "ชะ-ชิ้ง" เพื่อเด็กๆและเยาวชนของเราต่อไป"
ม.ล. ปริยดา ดิศกุล กรรมการอำนวยการ มูลนิธิจูเนียร์อะชีฟเม้นท์ ประเทศไทย หรือ JA Thailand กล่าวว่า "สำหรับประเทศไทย ดิฉันภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างอนาคตที่สดใสและมั่นคงทางการเงินเพื่อเด็ก ๆของเรา โดยร่วมผลักดันหลักสูตร "ชะ-ชิ้ง" ในโรงเรียนต่างๆอย่างต่อเนื่อง พันธกิจของเราคือ การมุ่งมั่นที่จะสร้างศักยภาพให้แก่เยาวชนคนรุ่นใหม่ด้วยเครื่องมือและทักษะที่สำคัญทางการเงินที่จำเป็นต่อความสำเร็จ"
ด้าน พรูเด็นเชียล ประเทศไทย นายศิวะ ชานเกอร์ จายาราจ ผู้อำนวยการ ฝ่ายภาพลักษณ์องค์กร เปิดเผยว่า "บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการสร้างสุขภาวะทุกมิติของสังคมไทย สำหรับโครงการ "ชะ-ชิ้ง" เราเชื่อมั่นว่า การมอบองค์ความรู้ที่สำคัญเรื่องการเงิน (financial literacy ) จะเป็นรากฐานสำคัญของการสร้างสังคมที่มั่นคงในอนาคต เรามีความภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการสนับสนุนโครงการนี้ให้กับเยาวชนที่จะเติบโตเป็นอนาคตของชาติในวันข้างหน้า"
เป้าหมายของโครงการ "ชะ-ชิ้ง" นับจากนี้ คือการขยายโครงการให้เข้าถึงเยาวชน 6 ล้านคน ผ่านหลักสูตรการเรียนการสอนในโรงเรียนภายในปีพ.ศ. 2568 โดยในปีพ.ศ. 2566 คาดการณ์ว่าจะสามารถเพิ่มจำนวนการเข้าถึงเยาวชนได้มากขึ้นเกือบสองเท่าของปัจจุบัน เพื่อเข้าถึงนักเรียนกว่า 700,000 คนซึ่งจะทำให้จำนวนนักเรียนทั้งหมดรวมเป็น 2 ล้านคนภายในสิ้นปีนี้ และ คาดว่าภายในปี พ.ศ. 2593 เด็กที่อาศัยอยู่ในเอเชียและแอฟริกา จะมีสัดส่วนสูงถึง 80% เมื่อเทียบกับอัตราส่วนของเด็กทั่วโลก ซึ่งนั่นหมายความว่า จะยิ่งเป็นการขยายโอกาสให้พวกเขาได้มีความรู้เรื่องการเงินผ่านโครงการ "ชะ-ชิ้ง"
จากนี้ไปไม่ว่าจะอีกกี่ปี พรูเด็นซ์ ฟาวน์เดชัน และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ยังคงเดินหน้าเพื่อผลักดันโครงการ "ชะ-ชิ้ง" ไปถึงเยาวชนทั่วโลก ให้พวกเขาได้มีความรู้ความเข้าใจ มีการพัฒนาทักษะด้านการเงิน ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการที่จะพาเยาวชนเหล่านั้นไปถึงจุดมุ่งหมายสูงสุดในชีวิตของพวกเขาในอนาคต
ที่มา: โทเทิล ควอลิตี้ พีอาร์ (ประเทศไทย)