หลัง บริษัท อควา คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ "AQUA" ประกาศเสนอขาย "หุ้นกู้มีประกันของบริษัท อควา คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 1/2566 ครบกำหนดไถ่ถอน พ.ศ. 2568 ซึ่งผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนครบกำหนดไถ่ถอน" ไปช่วงก่อนหน้านี้ ได้รับความสนใจจากนักลงทุนด้วยเป็นหุ้นกู้ระยะยาวที่สามารถซื้อได้ตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยข้อเสนอสุดน่าสนใจกับนโยบายจ่ายผลตอบแทน 6% ต่อปี ทุกๆ 3 เดือน เป็นหุ้นกู้มีหลักประกัน 120% ของมูลค่าหุ้นกู้
บริษัทฯจะนำเงินทุนที่ได้จากการจำหน่ายหุ้นกู้ไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนขยายธุรกิจ Mega Trend ที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยเศรษฐกิจและสภาพสังคมที่เปลี่ยนไปทำให้ AQUA ผันตัวสู่ การดำเนินธุรกิจในรูปแบบ Investment Company หรือการเข้าลงทุนในประเภทธุรกิจที่หลากหลายเพื่อแบ่งสัดส่วนการลงทุนที่คุ้มค่า มั่นคง และเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง จากการกระจายการลงทุนในธุรกิจต่างๆ ซึ่งสอดคล้องไปกับธุรกิจเดิมที่มีอยู่ของทางบริษัทฯ ปัจจุบัน AQUA ลงทุนในธุรกิจดังนี้
- อสังหาริมทรัพย์ให้เช่า ซึ่งเป็น Fixed income ในรูปแบบสัญญาระยะยาวภายใต้ บจก.ไทย คอนซูมเมอร์ ดิสทริบิวชั่น เซ็นเตอร์ (TCDC), บจก.แอ๊คคอมพลิชเวย์ โฮลดิ้ง (AWH) และบจก.มันตรา แอสเซ็ท (MANTRA) เป็นธุรกิจที่ทำรายได้หลักและมั่นคงระยะยาวให้แก่บริษัทฯ
- ด้านธุรกิจพลังงาน เข้าลงทุนใน บมจ.อีสเทอร์น พาวเวอร์ กรุ๊ป (EP) ผู้ประกอบการด้านโรงไฟฟ้ารายใหญ่ที่สร้างผลการดำเนินงาน-กำไรดีอย่างต่อเนื่องให้กับบริษัทฯ
- ธุรกิจนวัตกรรมด้านการเงินหรือหนึ่งในธุรกิจ Mega Trend ที่บริษัทฯเริ่มเข้าลงทุนเมื่อช่วงต้นปี 2565 เริ่มจากการบุกเบิก FinTech ในรูปแบบ Peer-to-Peer Lending ตัวแรกของประเทศไทยภายใต้ บจก.เพียร์ ฟอร์ ออล (PFA)
- ธุรกิจโลจิสติกส์ บริษัทฯเริ่มลุยลงทุนแล้วกับ 2 ประเภทธุรกิจขนส่งคือ ) บมจ.ไทยพาร์เซิล (TPL) ให้บริการขนส่งสินค้าที่มีจุดแข็ง คือส่งสินค้า/พัสดุขนาดใหญ่ได้น้ำหนักสูงสุด 200 กิโลกรัม มีผลประกอบการเติบโตอย่างต่อเนื่องแม้ช่วงโควิดระบาดหนักที่ผ่านมา และ 2.) บจก.เฉลิมภัทร ทรานสปอร์ต (CPT) ให้บริการขนส่งแต่เป็นการบริการรับ-ส่งคน หรือรถโดยสารไม่ประจำทาง ที่มีสัญญาให้บริการกับหลากหลายบริษัทอุตสาหกรรม/โรงงานในระยะยาวรับส่งพนักงานตามจุดต่างๆ ซึ่งทั้งสองธุรกิจโลจิสติกส์ กำลังเตรียมความพร้อมสู่การเข้าตลาดฯ ในช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2566 นี้ และในปี 2567 ตามลำดับ
- รวมถึงธุรกิจสื่อโฆษณา ที่ทางบริษัทฯ ได้เข้าไปลงทุนใน บมจ.แพลน บี มีเดีย หรือ PLANB คิดเป็นสัดส่วนการลงทุนทั้งสิ้น 96%
นายชัยพิพัฒน์ แก้วไตรรัตน์ กรรมการผู้จัดการ AQUA เปิดเผยว่า "แม้ปัจจุบันเราจะเห็นข่าวเรื่องการไม่สามารถชำระคืนเงินหุ้นกู้ในตลาดการลงทุนบ้าง แต่ AQUA เองมีความมั่นใจอย่างมากในศักยภาพการชำระคืนทั้งเงินต้นและผลตอบแทนของหุ้นกู้ทุกตัวรวมถึงหุ้นกู้ "AQUA23NA" ตัวล่าสุดนี้ด้วย บริษัท AQUA ดำเนินการภายใต้หลักธรรมาภิบาล เราใส่ใจดูแลและทุ่มเทในทุกการลงทุน ส่งให้ผลประกอบการตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ อีกทั้งบริษัทได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัท ที่ระดับ "BBB-" แนวโน้ม "คงที่" จาก Tris Rating"
"สิ่งที่นักลงทุนสามารถเชื่อมั่นและไว้วางใจได้อย่างแน่นอนคือ AQUA มีประวัติการชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ยที่ตรงตามเวลาและจำนวนให้กับทุกกลุ่มนักลงทุนอย่างดีตลอดมา พร้อมทั้งมีแผนโครงสร้างการใช้เงินทุนที่รัดกุม หุ้นกู้ระยะยาวไม่ด้อยสิทธิที่บริษัทเสนอขายจึงมีหลักประกันรวมมูลค่าสูงถึง 1,200 ล้านบาท ด้วยหุ้นสามัญของบริษัท อีสเทอร์น พาวเวอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ "EP" และของบริษัทไทย พาร์เซิล จำกัด (มหาชน) หรือ "TP" รวมถึงที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง ภายใต้ชื่อ "เดอะฮิลล์ รีแฮบ เชียงใหม่" และยังมีกรรมสิทธิ์ห้องชุดสำนักงานคิดเป็นพื้นที่กว่า 1,089 ตร.ม."
หุ้นกู้ระยะยาวไม่ด้อยสิทธิ "AQUA23NA" มีเรตติ้งอยู่ที่ระดับ "BB+" พร้อมเสนอขายให้แก่นักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนสถาบัน จองซื้อได้ระหว่างวันที่ 24-29 พฤษภาคมนี้ผ่านทางแอปพลิเคชัน "TrueMoney Wallet" ตลอด 24 ชั่วโมง หรือ จองซื้อผ่านตัวแทนผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ "บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด" ในวันและเวลาทำการปกติ โดยนักลงทุนรายย่อยสามารถจองซื้อขั้นต่ำ 50,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 50,000 บาท และนักลงทุนสถาบันจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท
อย่ามัวรอ….. ช้า หมด อด
ที่มา: อควา คอร์เปอเรชั่น