นายปุณณมาศ วิจิตรกุลวงศา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เน็คซ์ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ NCAP เปิดเผยว่า ภาพรวมบริษัทในปี 2566 มั่นใจว่า สามารถเดินหน้าตามแผน ตามกลยุทธ์การต่อยอดธุรกิจ จากการเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์มานานกว่า 17 ปี และในเดือนกรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา ได้ต่อยอดมายังธุรกิจเช่าซื้อรถบรรทุกมือสอง และล่าสุด ในเดือนเมษายน 2566 ได้เปิดตัวธุรกิจจำนำทะเบียนเล่ม ด้วยพันธกิจในการเป็นที่พึ่งทางการเงินให้กลุ่มลูกค้า Underbanked
ในด้านช่องทางการจำหน่าย NCAP มีเครือข่ายการขายครอบคลุมทั่วประเทศไทย โดยมีทีมงานที่ให้บริการในพื้นที่มากกว่า 400 ท่าน นำเทคโนโลยีขับเคลื่อน Digital Transformation สนับสนุนการให้บริการลูกค้าที่ดีขึ้น ทำงานมีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น ควบคุมความเสี่ยง และคุณภาพสินเชื่อที่ดี
"สำหรับปี 2566 บริษัทฯ ยังคงเน้นการต่อยอดและการเติบโตอย่างมีคุณภาพ จากปี 2565 เป็นปีที่ท้าทายของเราในการพัฒนาปรับปรุงคุณภาพสินเชื่อ และวันนี้คุณภาพสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ของเราดีที่สุด โดยมี OD อยู่ที่ 12.5% และ NPL อยู่ที่ 2.2% สร้างความพร้อมในการขยายธุรกิจ ต่อยอดมายังสินเชื่อเช่าซื้อรถบรรทุก ซึ่งเติบโตได้ดี และคุณภาพดีกว่าเป้าหมาย เนื่องจากรถบรรทุกใช้สำหรับประกอบกิจการ ความเสี่ยงต่ำ ควบคู่การขยายไปยังธุรกิจประกันเพิ่มเติม จำนวนสัญญาใหม่เกิน 1,000 ล้านแน่นอนในปี 2566 แผนต่อไปเราได้เริ่มธุรกิจจำนำทะเบียนเล่มภายใต้บริษัท เน็คซ์ มันนี่ จำกัด ในเดือนเมษายนเริ่มมีลูกค้าเข้ามาแล้ว จะเป็น Growth Engine ถัดไปให้บริษัทต่อไปในอนาคต ด้วยคอนเซ็ปต์คือการเน้น Loan ที่ความเสี่ยงต่ำ เพิ่มด้วยรายได้ค่าธรรมเนียมจากการขายประกัน เพื่อคุ้มความเสี่ยงและคุณภาพหนี้ของเรา" นายปุณณมาศ กล่าว
โดยในไตรมาส 1/2566 มีพอร์ตสินเชื่อรวมอยู่ที่ 7,923 ล้านบาท แบ่งเป็นสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ 97% และสินเชื่อเช่าชื้อรถบรรทุกมือสอง มีสัดส่วน 3% ซึ่งธุรกิจที่ต่อยอดมีการเติบโตอย่างโดดเด่น ภายใต้การให้บริหารจัดการอย่างรัดกุม สร้างรากฐานการเติบโตที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น รวมทั้งเพิ่มความสามารถในการทำกำไรที่ดีในอนาคต และคาดว่าสิ้นปีนี้ พอร์ตสินเชื่อรวมจะเติบโต 20% สู่ระดับ 9,500 ล้านบาท จาก ณ สิ้นปี 2565 มีมูลค่าพอร์ตรวมอยู่ที่ 7,438 ล้านบาท
รวมทั้ง แผนต่อยอดไปยังการให้บริการสินเชื่อจำนำทะเบียนเล่มสำหรับรถจักรยานยนต์และรถบรรทุก ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่กว่าสินเชื่อเช่าซื้อ โดยจะเริ่มเกมบุกตลาดนี้ตั้งแต่ไตรมาส 2/2566 และจะต่อยอดไปยังธุรกิจติดตามหนี้ รวมทั้งธุรกิจประกันภัย
สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2566 (สิ้นสุด 31 มีนาคม 2566) กลับคืนฟอร์มมุ่งสู่การเติบโตครั้งใหม่ โดยบริษัทฯ มีกำไรสุทธิสูงถึง 142 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 118% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 65 ล้านบาท และมีรายได้รวม 482 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้ 454 ล้านบาท จากธุรกิจหลักเติบโต และการต่อยอดธุรกิจไปยังสินเชื่อเช่าชื้อรถบรรทุกมือสองเข้ามาเสริมทัพ โดยบริษัทฯ มีรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการรับรู้รายได้ดอกเบี้ยจากสัญญาเช่าซื้อจำนวน 376 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.05% เนื่องจากจำนวนสัญญาเช่าซื้อเพิ่มขึ้น ส่งผลให้รายได้ค่าธรรมเนียมและค่าบริการเพิ่มขึ้นในทิศทางเดียวกัน
ขณะที่ค่าใช้จ่ายไตรมาส 1/2566 จำนวน 304 ล้านบาท ลดลง 18% เนื่องจากชั้นหนี้ของลูกหนี้ตามสัญญาเช่าซื้อปรับตัวดีขึ้น และการปรับแบบจำลองการคำนวณผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นประจำปี 2566 ซึ่งเป็นไปตามนโยบายการบัญชีของบริษัทฯ และมีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร 173 ล้านบาท ลดลง 3%
ที่มา: ไออาร์ พลัส