นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ICHI กล่าวว่า "บริษัทฯ คาดผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2566 มีแนวโน้มเติบโตอย่างน่าประทับใจ ถ้าเป็นไปตามที่บริษัทวางแผนวางเป้าหมายเอาไว้ ต่อเนื่องจากความสำเร็จในไตรมาส 1/2566 ที่ผ่านมา ที่กวาดรายได้ที่ 1,832.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% และมีกำไรสุทธิ 222 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 113% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นยังอยู่ในระดับสูงกว่า 20% ได้เช่นกัน โดยเป็นผลมาจากประสิทธิภาพในการบริหารต้นทุนที่ดี โดยเฉพาะราคาบรรจุภัณฑ์ที่ปรับลดลงต่อเนื่อง"
โดยเริ่มไตรมาส 2/2566 บริษัทฯ สามารถทำยอดขายเครื่องดื่มดับร้อนได้ดีในหลาย SKU อาทิ อิชิตัน กรีนที, เย็นเย็น น้ำจับเลี้ยงสมุนไพร รวมทั้ง เครื่องดื่มน้ำอัดลมสไตล์เกาหลี น้องใหม่มาแรง "ตันซันซู" และ "น้ำด่าง อิชิตัน พลัส CBD" จากกัญชง สนับสนุนยอดขายในประเทศ รวมทั้ง ยอดขายจากการส่งออกไปต่างประเทศ ในกลุ่ม CLMV มีแนวโน้มที่ดีในไตรมาส 2
รวมทั้ง ธุรกิจรับจ้างผลิต (Ichitan OEM Service) ได้ปิดดีลพาร์ทเนอร์รายใหญ่ กับเครื่องดื่มแบรนด์อีฟ (if) เข้ามาเสริมทัพ และจะเริ่มรับรู้รายได้ OEM เต็มไตรมาส ตั้งแต่ไตรมาส 2 เป็นต้นไป หนุนการใช้กำลังการผลิตให้สูงขึ้น ประกอบกับยอดขายสินค้าของอิชิตัน เย็นเย็น ที่ขายดีไม่มีแผ่ว ตอบโจทย์ผู้บริโภคดับกระหาย พร้อมสู้ไปกับอากาศร้อนๆ ของเมืองไทย จึงคาดว่าจนถึงสิ้นปีนี้กำลังการผลิต (Utilization Rate) จะอยู่ที่ 70% จากปัจจุบันอยู่ที่ 62% และสนับสนุนให้ปีนี้มีอัตรากำไรขั้นต้นที่มากกว่า 20% รายได้รวมเพิ่มขึ้น 15% แตะระดับ 7,300 ล้านบาท ตามเป้าหมายที่วางไว้
นายตัน กล่าวทิ้งท้ายอีกว่า "สภาพอากาศที่ร้อนต่อเนื่องในไตรมาส 2/2566 ส่งผลดีต่อยอดขายของบริษัทฯ ที่ขายเครื่องดื่มดับร้อนได้มากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ จึงคาดว่าไตรมาส 2/2566 เรามีโอกาสทำ New High ได้ต่อเนื่อง" นายตัน กล่าว
ด้านบทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน ระบุ (เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2566) มีมุมมอง ICHI เป็น Top pick ของกลุ่มฯ แนะนำ "ซื้อ" ปรับราคาเป้าหมายใหม่เป็น 17.2 บาท จากเดิม 15.6 บาท และปรับประมาณการกำไรปี 66-67 ขึ้นเฉลี่ย 12% จากรายได้ที่เพิ่มทั้งจากสินค้าชาเขียว และงาน OEM โดยโมเมนตัม Q2/66 ยังเด่นมาก
บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด ระบุ (เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2566) แนะนำซื้อ ICHI ประเมินราคาเป้าหมาย 16.8 บาท จากแนวโน้มกำไรเติบโตต่อเนื่อง โดยคาดกำไร 2023F จะเติบโตต่อเนื่องทั้ง YoY และ QoQ จากการออกสินค้าใหม่และรับรู้รายได้จากการรับจ้างผลิต (OEM) ขณะที่ต้นทุนแพคเกจจิ้งเริ่มปรับตัวลงและการปรับสูตรความหวานช่วยลดภาษีจ่าย ส่งผลดีต่ออัตรากำไรขั้นต้น
ที่มา: ไออาร์ พลัส