กระทรวงคมนาคมและโลจิสติกส์ซาอุดีอาระเบียคาดตลาดโลจิสติกส์ในประเทศเติบโตแตะ 5.74 หมื่นล้านริยาลภายในปี 2573

ศุกร์ ๒๖ พฤษภาคม ๒๐๒๓ ๐๘:๓๐
กระทรวงคมนาคมและโลจิสติกส์แห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียประกาศยุทธศาสตร์สุดท้าทาย โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาภาคการคมนาคมและโลจิสติกส์ของประเทศ พร้อมกับตอบสนองความต้องการด้านบริการโลจิสติกส์ที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ปี 2573 (Vision 2030) ของซาอุดีอาระเบีย ที่มีเป้าหมายในการเปลี่ยนราชอาณาจักรให้กลายเป็นมหาอำนาจด้านอุตสาหกรรมและศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์ของโลก 

นับตั้งแต่มีการกำหนดเป้าหมายดังกล่าว ภาคการคมนาคมและโลจิสติกส์ของซาอุดีอาระเบียก็เติบโตและก้าวหน้าอย่างชัดเจนกว่าที่เคยเป็นมา จนสร้างชื่อเสียงในวงการโลจิสติกส์ระดับโลก ซึ่งเป็นผลพวงโดยตรงจากความพยายามอย่างต่อเนื่องของกระทรวงคมนาคมและโลจิสติกส์ ทั้งนี้ ดัชนีชี้วัดประสิทธิภาพโลจิสติกส์ (Logistics Performance Index หรือ LPI) ประจำปี 2566 ที่ธนาคารโลกเผยแพร่เมื่อเร็ว ๆ นี้ ระบุว่า ซาอุดีอาระเบียมีความก้าวหน้าอย่างมาก โดยกระโดดขึ้นถึง 17 ขั้น จากอันดับ 55 ในปี 2561 มาอยู่ที่อันดับ 38 ในปีนี้

เจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ทรงให้การสนับสนุนความพยายามของราชอาณาจักรในทิศทางดังกล่าว โดยทรงเปิดตัวโครงการหลายโครงการที่ครอบคลุมและให้ความสำคัญกับงานด้านต่าง ๆ ของภาคการคมนาคมและโลจิสติกส์ ซึ่งรวมถึงการประกาศยุทธศาสตร์การคมนาคมและโลจิสติกส์แห่งชาติ (National Transport and Logistics Strategy หรือ NTLS) ในปี 2564 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความสามารถของมนุษย์และความสามารถทางเทคนิคในภาคการคมนาคมและโลจิสติกส์ของราชอาณาจักร และก่อนหน้านั้นในปี 2562 ได้มีการเปิดตัวโครงการพัฒนาอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์แห่งชาติ (National Industrial Development and Logistics Program หรือ NIDLP) เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถด้านอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ของประเทศ และก้าวสู่ความเป็นผู้นำระดับโลกในอุตสาหกรรม

โครงการเหล่านี้ล้วนมีเป้าหมายในการผลักดันให้ซาอุดีอาระเบียกลายเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ระดับโลก เนื่องด้วยที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ที่มีลักษณะพิเศษเฉพาะ โดยเชื่อมระหว่างสามทวีป ได้แก่ ยุโรป เอเชีย และแอฟริกา ทำให้ซาอุดีอาระเบียมีความได้เปรียบในการเป็นทางผ่านที่เอื้อต่อการค้าและการขนส่งสินค้าข้ามทวีป นอกจากนี้ การตั้งอยู่บนเส้นทางการค้าเอเชีย-ยุโรป ยังทำให้ในแต่ละปีมีตู้คอนเทนเนอร์สินค้าจากทั่วโลกราว 12% ถูกขนส่งผ่านซาอุดีอาระเบีย

ซาอุดีอาระเบียกำลังดำเนินการอย่างรวดเร็วในการเปลี่ยนเศรษฐกิจของประเทศให้ถอยห่างจากการพึ่งพาน้ำมันไปสู่การสร้างระบบนิเวศเศรษฐกิจที่มีความหลากหลายและเป็นองค์รวมมากขึ้น ปัจจุบัน ภาคโลจิสติกส์คิดเป็นสัดส่วน 6% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 10% ภายในปี 2573 หรือคิดเป็นมูลค่าราว 2.01 หมื่นล้านริยาล

เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการบรรทุกสินค้าและพัฒนาห่วงโซ่อุปทานให้ดียิ่งขึ้น ซาอุดีอาระเบียได้ประกาศเปิดเขตโลจิสติกส์ 59 แห่ง ภายในปี 2573 โดยขณะนี้เปิดดำเนินการแล้ว 21 แห่ง นอกจากนั้นยังมีการเปิดเขตโลจิสติกส์พิเศษแบบบูรณาการ (Special Integrated Logistics Zone) แห่งแรกที่ท่าอากาศยานนานาชาติคิงคาลิดในกรุงริยาด โดยมาตรการเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งภายใต้กลยุทธ์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นการเติบโตของธุรกิจ ดึงดูดการลงทุน และเพิ่มรายได้ที่ไม่ได้มาจากน้ำมันให้ได้ราว 4.5 หมื่นล้านริยาลภายในปี 2573

วิสัยทัศน์ปี 2573 ของซาอุดีอาระเบีย เป็นโรดแมปในการสร้างประเทศให้มีความเป็นสากลและก้าวหน้าอย่างยั่งยืน และเนื่องจากการคมนาคมและโลจิสติกส์คือกระดูกสันหลังของทุกระบบเศรษฐกิจ เป้าหมายของประเทศจึงประกอบด้วยการพัฒนาภาคส่วนนี้ การสร้างระบบการเชื่อมต่อ และการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันระดับโลก ซาอุดีอาระเบียกำลังทุ่มเทความพยายามทั้งหมดในการพัฒนาห่วงโซ่อุปทานทั้งภายในและภายนอก พร้อมกับปรับปรุงกระบวนการให้ได้มาตรฐานสากลที่ดีที่สุด เพื่อนำเสนอโครงสร้างพื้นฐานและบริการระดับโลก โดยมีเป้าหมายในการเปิดประเทศซาอุดีอาระเบียสู่โลกกว้างที่มีโอกาสมากมายรอยู่ข้างหน้า

ในเดือนตุลาคม 2565 มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบียทรงเปิดตัวโครงการห่วงโซ่อุปทานยืดหยุ่นระดับโลก (Global Supply Chain Resilience Initiative หรือ GSCRI) เพื่อดึงดูดการลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศเข้าสู่ห่วงโซ่อุปทาน โดยมีเป้าหมายที่จะระดมทุน 4 หมื่นล้านริยาล (ราว 1.064 หมื่นล้านดอลลาร์) ในช่วงสองปีแรก และตั้งเป้าให้การสนับสนุนทั้งที่เป็นตัวเงินและมิใช่ตัวเงินเพื่อจูงใจนักลงทุนเป็นจำนวน 1 หมื่นล้านริยาล

เพื่อผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซาอุดีอาระเบียได้กำหนดหลักชัยสำคัญที่ต้องบรรลุทั้งในส่วนของการขนส่งทางราง ทางถนน ทางทะเล และทางอากาศ  นอกจากนี้ ในฐานะประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและมีประชากรมากที่สุดในกลุ่มประเทศความร่วมมืออ่าวอาหรับ (Gulf Cooperation Council หรือ GCC) ซาอุดีอาระเบียยังมีเป้าหมายที่จะสร้างงานมากกว่า 2 แสนตำแหน่งในภาคส่วนนี้ ภายในปี 2573

สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://lpi.logisti.sa/

วิดีโอ - https://mma.prnewswire.com/media/2082242/SA_Global_Logistics.mp4
รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/2082229/SA_Global_Logistics.jpg
โลโก้ - https://mma.prnewswire.com/media/2082227/MOTLS_Logo.jpg 



ที่มา:  พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๕ พ.ย. ดิ เอราวัณ กรุ๊ป เปิดตัว HOP NextGen ชวนนักศึกษาเยี่ยมชม ฮ็อป อินน์ เรียนรู้เทคนิคบริการแบบ Consistency is Yours พร้อมพัฒนาบุคลากรรุ่นใหม่
๑๕ พ.ย. คิง เพาเวอร์ ต้อนรับเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปี เปิดแคมเปญ THE POWER OF FUNTASTIC CELEBRATION 2025 ฉลองทุกความสุข สนุกไม่รู้จบ
๑๕ พ.ย. พันธุ์ไทย ชวนแฟนด้อม คัลแลนและพี่จอง จุ่ม การ์ดพันธุ์ไทยใจฟู ลิมิเต็ด อิดิชั่น
๑๕ พ.ย. BAM ทรานส์ฟอร์มองค์กรสู่ DIGITAL ENTERPRISE ตอกย้ำผู้นำ AMC ยุค 4.0 วางเป้าหมายยกระดับองค์กรสร้างโอกาสเติบโตอย่างยั่งยืน เตรียมส่ง อิสระ เดอะซีรีส์ ชวนลูกหนี้ BAM
๑๕ พ.ย. บางจากฯ ได้รับการประเมินด้านความยั่งยืนอันดับสูงสุดของโลก จาก SP Global 2024 ในกลุ่มอุตสาหกรรม Oil Gas Refinery and
๑๔ พ.ย. ซีเอเค อินเตอร์เนชั่นแนล ออกบูธให้ความรู้เรื่องการใช้งานระบบดับเพลิงนร. พระหฤทัยนนทบุรี
๑๒ พ.ย. พนักงานซีเอเค อินเตอร์เนชั่นแนล รับรางวัลเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานดีเด่น
๑๕ พ.ย. PROSPECT REIT ชูไตรมาส 3/67 โตเกินเป้า อัตราการเช่าพุ่งนิวไฮ หนุนจ่ายปันผลเด่น 0.2160 บาท
๑๕ พ.ย. CHAO ประกาศงบ Q3/67 กำไรพุ่งกว่า 62% รับตลาดส่งออกพีค จีนโตเด่น แย้ม Q4 เดินหน้าบุกตลาดในประเทศ สินค้าใหม่หนุนยอดขายปลายปี
๑๕ พ.ย. ฉลองเทศกาลลอยกระทงประจำปี 2567 ณ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ