"แซดทีอี" เปิดเผยรายงานความยั่งยืนประจำปี 2565

ศุกร์ ๒๖ พฤษภาคม ๒๐๒๓ ๑๔:๒๗
แซดทีอีมุ่งใช้นวัตกรรมดิจิทัลสร้างอนาคตที่ยั่งยืนรายงานแสดงผลงานอันโดดเด่นของแซดทีอีและแผนการในอนาคต เพื่อตอบรับกลยุทธ์ "ตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล" และเติมเต็มความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กรแซดทีอี คอร์ปอเรชัน (ZTE Corporation) (0763.HK/000063.SZ) ผู้ให้บริการด้านโซลูชันเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารชั้นนำระดับโลก ได้เปิดตัวรายงานความยั่งยืนประจำปี 2565 (2022 Annual Sustainability Report) ในวันนี้ โดยมีเนื้อหาครอบคลุมผลงานที่โดดเด่นของแซดทีอี และแผนการในอนาคตเพื่อตอบรับกลยุทธ์ "ตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล" (Driver of Digital Economy) เพื่อเติมเต็มความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กร ส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของสังคม สนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืน สร้างการมีส่วนร่วมในชุมชนระดับโลก และยกระดับธรรมาภิบาลขององค์กร แซดทีอีแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในด้านความโปร่งใสและความรับผิดชอบผ่านการเผยแพร่รายงานฉบับนี้ต่อสาธารณชนโดยสมัครใจทุกปีนับตั้งแต่ปี 2552 โดยปฏิบัติอย่างต่อเนื่องมาแล้วกว่า 15 ปี

เสริมสร้างนวัตกรรมทางเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง เพื่ออำนวยความสะดวกในการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลระดับโลกอย่างมีคุณภาพ

ในปี 2565 ภูมิทัศน์ทางการเมืองและเศรษฐกิจโลกยังคงเต็มไปด้วยความซับซ้อน ประกอบด้วยแรงกดดัน ความท้าทาย และความไม่แน่นอนต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางสถานการณ์เหล่านี้ การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลได้กลายเป็นสิ่งสำคัญ และการตระหนักรู้ถึงความสำคัญของยุคดิจิทัลนี้จึงทำให้แซดทีอียังคงมุ่งเน้นที่การเพิ่มขีดความสามารถด้านนวัตกรรมทางเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่องโดยอาศัยประโยชน์จากความเชี่ยวชาญของบริษัท แซดทีอีมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลทั่วโลกผ่านการพัฒนาและการส่งมอบผลิตภัณฑ์และโซลูชันเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารใหม่ ๆ

คุณซู จือหยาง (Xu Ziyang) กรรมการบริหารและซีอีโอของแซดทีอี ได้กล่าวเน้นย้ำในรายงานว่า "แซดทีอีจะยึดมั่นในบทบาทของตนในฐานะผู้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลและมุ่งสู่ความเป็นเลิศใน พร้อมกับจัดการกับความท้าทายที่ยากที่สุด เราจะร่วมมือกับพันธมิตรทั่วอุตสาหกรรมด้วยความมุ่งมั่นที่มากขึ้นเพื่อสร้างสิ่งใหม่ ๆ และเป็นส่วนสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจคุณภาพสูงเพื่อทำให้โลกนี้ดีขึ้นกว่าเดิมสำหรับทุกคน"

รายงานฉบับนี้เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของแซดทีอีด้านนวัตกรรมอิสระและการมุ่งเน้นด้านความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี โดย ณ สิ้นปี 2565 แซดทีอีได้ยื่นขอจดสิทธิบัตรทั่วโลกกว่า 85,000 รายการ โดยมีสิทธิบัตรประมาณ 43,000 รายการที่ได้รับการรับรองในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ เจแอลแอล (JLL) ซึ่งเป็นบริษัทจัดการการลงทุนระดับโลก ได้ยกย่องให้แซดทีอีเป็นผู้เล่นชั้นนำในการปรับใช้สิทธิบัตรทั่วโลก และเป็นบริษัทที่มีส่วนร่วมอย่างจริงจังในการวิจัยและการสร้างมาตรฐานสำหรับเทคโนโลยี 5G ในระดับโลก

ในฐานะผู้นำในการปฏิวัติด้านดิจิทัล แซดทีอียังคงมุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนความก้าวหน้าและเสริมศักยภาพให้แก่อุตสาหกรรมต่าง ๆ โดยมีบทบาทสำคัญในการสร้างระบบนิเวศดิจิทัลใหม่ ในปี 2565 แซดทีอีได้จับมือเป็นพันธมิตรร่วมกับบริษัทมากกว่า 500 แห่งใน 15 อุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมการผลิต โลหะและเหล็กกล้า เหมืองแร่ พลังงาน การขนส่ง และองค์กรขนาดใหญ่ แซดทีอีใช้โซลูชันที่ทันสมัยในการอำนวยความสะดวกโครงการดิจิทัลหลายร้อยแห่ง นำไปสู่การพัฒนาโครงการเรือธงจนประสบความสำเร็จจำนวนมาก ความพยายามเหล่านี้ช่วยเร่งการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลโดยรวมและความก้าวหน้าของสังคมอย่างมีนัยสำคัญ

เร่งกลยุทธ์คาร์บอนต่ำอย่างต่อเนื่องเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน

แซดทีอีมีความมุ่งมั่นในแนวคิดการพัฒนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และมีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจทั่วโลกสู่ยุคคาร์บอนต่ำอย่างจริงจัง บริษัทมุ่งมั่นในการส่งเสริมอุตสาหกรรมต่าง ๆ ด้วยมาตรการประหยัดพลังงานและการลดการปล่อยมลพิษ เพื่อช่วยให้อุตสาหกรรมเหล่านั้นสามารถเติบโตตามแนวทางการพัฒนาสีเขียวได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงมีเป้าหมายที่จะก้าวสู่อนาคตที่ยั่งยืนด้วยแนวทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสร้างคาร์บอนต่ำ

คุณเซี่ย จวิ้นซือ (Xie Junshi) รองประธานบริหารและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของแซดทีอี กล่าวในรายงานว่า "แซดทีอียึดมั่นในกลยุทธ์คาร์บอนต่ำ และก้าวไปข้างหน้าบนเส้นทางสู่เศรษฐกิจดิจิทัลที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เราได้แต่งตั้งทีมงานระดับองค์กรและริเริ่มโครงการลดคาร์บอนหลักจำนวน 10 โครงการอย่างเป็นระบบตามเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนที่เราตั้งไว้"

แซดทีอีดำเนินตามกลยุทธ์เศรษฐกิจดิจิทัลในสี่มิติหลัก ได้แก่ การดำเนินงานระดับองค์กรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ห่วงโซ่อุปทานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการเสริมศักยภาพอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยบริษัทได้เพิ่มความพยายามในการประหยัดพลังงานและลดการปล่อยมลพิษตลอดการผลิตและการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถสร้างเครือข่ายคาร์บอนต่ำที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างครอบคลุม

ในปี 2565 ในขณะที่บริษัทยังคงมีการเติบโตของรายได้อย่างต่อเนื่อง แซดทีอีประสบความสำเร็จในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 7.48% เมื่อเทียบรายปี (สโคป 1, 2 และ 3) นอกจากนี้ บริษัทยังประสบความสำเร็จในการลดการใช้พลังงานต่อหน่วยผลิตภัณฑ์ที่ถูกขายได้มากกว่า 14% และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่อหน่วยผลิตภัณฑ์ที่ถูกขายและถูกใช้ลง 4.9% นอกจากนี้ บริษัทยังดำเนินโครงการต่าง ๆ เช่น "5G-to-Manufacture 5G" และโรงงานมืดสำหรับขั้นตอนการผลิต ส่งผลให้ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่อหน่วยลงถึง 9.3% ในกระบวนการผลิตสินค้า 5G และลดการใช้ไฟฟ้าลงกว่า 7.13% เมื่อเทียบกับปีก่อน

นอกจากนี้ แซดทีอียังพัฒนาโซลูชันด้านพลังงานดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง เช่น คลาวด์พลังงาน AI การผลิตพลังงานสีเขียว และการจัดเก็บพลังงานอัจฉริยะ เพื่อเร่งการบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน บริษัทร่วมมือกับพันธมิตรในอุตสาหกรรมมากกว่า 500 รายเพื่อสำรวจการเพิ่มขีดความสามารถทางเทคโนโลยีด้านการประหยัดพลังงาน การลดการปล่อยมลพิษ และการยกระดับประสิทธิภาพการดำเนินงาน ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกในการเปลี่ยนผ่านสู่ความเป็นดิจิทัลในภาคส่วนต่าง ๆ

ในฐานะผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐาน แซดทีอีมุ่งมั่นที่จะมีส่วนร่วมในการปรับปรุงด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมมาโดยตลอด ในปี 2565 แซดทีอีได้รับคะแนนระดับ "A-" จากองค์กรวิจัยข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมระดับโลก (Carbon Disclosure Project หรือ CDP) สำหรับผลงานที่โดดเด่นในด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ นอกจากนี้ บริษัทยังได้รับรางวัลผู้นำด้านสิ่งแวดล้อมจากเวทีซีดีพี ไชน่า 2565 (CDP China 2022) และได้รับการรับรองมาตรฐานการตรวจสอบก๊าซเรือนกระจก ISO 14604-1:2018 จากเอสจีเอส (SGS) โดยเป็นหนึ่งในบริษัทแรก ๆ ของอุตสาหกรรมโทรคมนาคมจีนที่ได้รับการยอมรับนี้

เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2566 แซดทีอีได้จัดพิธีลงนามข้อตกลงเข้าร่วมในโครงการกำหนดเป้าหมายโดยอิงหลักทางวิทยาศาสตร์ (Science Based Targets initiative หรือ SBTi) โดยบริษัทจะกำหนดเป้าหมายลดการปล่อยมลพิษตามหลักวิทยาศาสตร์ในระยะเวลาอันใกล้เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางของโครงการ และมุ่งสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในระยะยาว ทั้งนี้ ในอีก 5-10 ปีข้างหน้า แซดทีอีตั้งเป้าที่จะบรรลุการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างมีนัยสำคัญตามแนวทางการจำกัดอุณหภูมิโลกไม่ให้เพิ่มขึ้นเกิน 1.5 องศาเซลเซียส และบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซสุทธิเป็นศูนย์อย่างช้าที่สุดภายในปี 2593

ในฐานะผู้สนับสนุนการพัฒนาสีเขียว แซดทีอีส่งเสริมการประหยัดพลังงานและการลดการปล่อยมลพิษอย่างจริงจัง รวมถึงใช้ประโยชน์จากความเชี่ยวชาญและข้อได้เปรียบด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารขั้นสูงในการสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรที่มีแนวคิดเดียวกันในโครงการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสร้างคาร์บอนต่ำ บริษัทมีเป้าหมายที่จะขับเคลื่อนห่วงโซ่อุตสาหกรรมทั้งหมดให้บรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนและมีส่วนร่วมในอนาคตที่ยั่งยืน

อ้าแขนรับความเปิดกว้างและความโปร่งใส เพิ่มศักยภาพการเติบโตของพันธมิตรระบบนิเวศร่วมกัน

แซดทีอีมุ่งมั่นที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ปลอดภัยเชื่อถือได้แก่อุตสาหกรรมและลูกค้า บริษัทมีการเปรียบเทียบมาตรฐานความปลอดภัยในอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่องและแสวงหาการรับรองและความไว้วางใจจากภายนอกผ่านวิธีการที่เปิดกว้างและโปร่งใส แซดทีอีเป็นบริษัทแรกของโลกที่ได้รับการรับรองความปลอดภัย NESAS CCS-GI จากสำนักงานความปลอดภัยข้อมูลแห่งเยอรมนี (BSI) นอกจากนี้ บริษัทยังได้รับการรับรองและการตรวจสอบระบบการจัดการต่าง ๆ ประกอบด้วยมาตรฐาน ISO 9001, TL 9000, QC 080000, ESD, ISO 45001, ISO 14001 และ ISO 22301 มาตรฐานเหล่านี้ครอบคลุมศูนย์วิจัยและพัฒนา รวมถึงฐานการผลิตที่สำคัญหลายแห่งสำหรับหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์หลักของบริษัท

นอกจากนี้ แซดทีอียังอุทิศตนเพื่อยกระดับการจัดการความรับผิดชอบของซัพพลายเออร์และนำแนวทางปฏิบัติในการจัดซื้อจัดจ้างอย่างมีความรับผิดชอบมาใช้ บริษัทสนับสนุนให้ซัพพลายเออร์สร้างและใช้งานระบบการจัดการ CSR อย่างมีประสิทธิภาพผ่านการรับรอง CSR ของซัพพลายเออร์ การประเมินความเสี่ยง การตรวจสอบสถานที่ และการฝึกอบรมเสริมสร้างศักยภาพ ในปี 2565  แซดทีอีได้ริเริ่มการตรวจสอบซัพพลายเออร์แบบคาร์บอนคู่เพื่อให้สอดคล้องกับกลยุทธ์ความเป็นกลางทางคาร์บอนโดยรวมของบริษัท โดยมีการดำเนินการตรวจสอบซัพพลายเออร์จำนวน 109 ราย และร่วมมือกับพันธมิตรซัพพลายเออร์เพื่อส่งเสริมการเติบโตและการพัฒนาร่วมกัน

บุกเบิกเทคโนโลยีเพื่อสังคมที่ดีกว่าเดิม เติมเต็มความรับผิดชอบขององค์กรที่มีต่อสังคม

ในฐานะองค์กรระดับโลก แซดทีอีได้ยึดถือหลักการพัฒนาแบบยั่งยืนมาอย่างยาวนาน มีความจริงจังด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและส่งต่อความห่วงใยไปยังผู้คนในหลายประเทศทั่วโลก บริษัทได้ช่วยให้ผู้คนทั่วโลกบรรลุการพัฒนาที่ยั่งยืน แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและความทุ่มเทในฐานะบรรษัทข้ามชาติที่ดี

มูลนิธิแซดทีอี (ZTE Foundation) ยังดำเนินโครงการการกุศลกว่า 157 โครงการในด้านการศึกษา การดูแลสุขภาพ การบรรเทาความยากจน และอื่น ๆ อีกมากมายนับตั้งแต่มีการก่อตั้งมูลนิธิขึ้น มอบความช่วยเหลือแก่ผู้คนกว่า 100,000 คน โดย ณ สิ้นสุดปี 2565 มูลนิธิมีจำนวนสมาชิกอาสาที่ลงทะเบียนไว้จำนวนทั้งสิ้น 8,063 คน และมีจำนวนชั่วโมงจิตอาสารวมกว่า 19,746.5 ชั่วโมง นับเป็นเวลาหกปีติดต่อกันที่มูลนิธิแซดทีอีได้รับคะแนนเต็มในดัชนีความโปร่งใสมูลนิธิจีน (China Foundation Transparency Index หรือ FTI) นอกจากนี้ ยังได้รับรางวัลอื่น ๆ เช่น "องค์กรเพื่อการกุศล 10 อันดับแรก" และ "โครงการล้ำสมัย 10 อันดับแรก" จากโครงการทัชชิง เซินเจิ้น แคร์ แอกชัน (Touching Shenzhen Care Action) ที่ยกย่องการมีส่วนร่วมอันโดดเด่นของบริษัทต่อชุมชน

ในอนาคต แซดทีอีจะยังคงมุ่งมั่นส่งเสริมแนวคิดการพัฒนาที่ยั่งยืนทั่วโลก และสร้างการอยู่ร่วมกันอย่างผาสุขของสังคม สิ่งแวดล้อม และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย แซดทีอีพร้อมส่งเสริมความร่วมมือกับพันธมิตรในอุตสาหกรรม เพื่อสำรวจโอกาสใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่องและปูทางไปสู่อนาคตที่ยั่งยืนด้วยนวัตกรรมดิจิทัล รวมถึงตั้งเป้าขับเคลื่อนการเติบโตแบบยกระดับอย่างครอบคลุม เพื่อสร้างโลกที่สดใสและยั่งยืนกว่าเดิม

ผู้ที่สนใจสามารถอ่านรายงานความยั่งยืน 2565 ฉบับเต็มได้ที่นี่
สำหรับไฮไลท์เพิ่มเติมเกี่ยวกับรายงานความยั่งยืน 2565 โปรดคลิกที่นี่

เกี่ยวกับแซดทีอี

แซดทีอี (ZTE) ช่วยเชื่อมโยงโลกด้วยนวัตกรรมอย่างต่อเนื่องเพื่ออนาคตที่ดีกว่า บริษัทฯ ให้บริการเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมใหม่และโซลูชันแบบครบวงจร ครอบคลุมอุปกรณ์ไร้สาย แบบมีสาย อุปกรณ์ และบริการโทรคมนาคมระดับมืออาชีพทั้งหมด แซดทีอีให้บริการแก่ประชากรมากกว่าหนึ่งในสี่ของโลก โดยทุ่มเทให้กับการสร้างระบบนิเวศดิจิทัลอัจฉริยะ และสร้างการเชื่อมต่อและความไว้วางใจให้เกิดขึ้นได้ทุกที่ แซดทีอีจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงและเซินเจิ้น ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.zte.com.cn/global

ติดตามเรา

เฟซบุ๊ก www.facebook.com/ZTECorp
ทวิตเตอร์ www.twitter.com/ZTEPress
ลิงด์อิน www.linkedin.com/company/zte
ยูทูบ https://www.youtube.com/@ZTECorporation

สื่อมวลชน กรุณาติดต่อ
แซดทีอี คอร์ปอเรชั่น
ฝ่ายการสื่อสาร
อีเมล: [email protected]  

รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/2085652/ZTE_2022_Sustainability_Report.jpg

คำบรรยายภาพ - "แซดทีอี" เปิดเผยรายงานความยั่งยืนประจำปี 2565



ที่มา:  พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO