พีดีเฮ้าส์ หนุนนโยบายปรับค่าแรงขั้นต่ำ คาดดันต้นทุนพุ่งสูงสุด 17%

จันทร์ ๒๙ พฤษภาคม ๒๐๒๓ ๑๐:๒๗
พีดีเฮ้าส์ จับตารอความชัดเจนจัดตั้งรัฐบาล ห่วงช่วงสุญญากาศฉุดเศรษฐกิจชะงัก กระทบการลงทุน ยกมือเชียร์นโยบายปรับค่าแรงขั้นต่ำ 400-450 บาท คาดต้นทุนค่าก่อสร้างเพิ่ม 17% แต่เชื่อรัฐมีมาตรการรองรับ ผู้ประกอบการปรับตัวได้เอง

นายพิศาล ธรรมวิเศษ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ (Executive Vice President) บริษัท ปทุมดีไซน์ ดีเวลลอป จำกัด หรือศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ เปิดเผยว่า ภายหลังการเลือกตั้งใหญ่ทั่วประเทศผ่านพ้นไป พรรคการเมืองที่รับเสียงข้างมากต้องเร่งจัดตั้งรัฐบาล เพื่อวางนโยบายพลิกฟื้นเศรษฐกิจและการลงทุนโดยเร็ว หากการจัดตั้งรัฐบาลมีความล่าช้าออกไปหรือยังอยู่ในภาวะรัฐบาลรักษาการณ์ อาจส่งผลให้การลงทุนจากภาคเอกชนและภาครัฐต้องชะงักลง แน่นอนว่าไม่ส่งผลดีต่อการเติบโตของเศรษฐกิจประเทศ เพราะการเกิดภาวะสุญญากาศทางการเมืองย่อมส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง และในส่วนของธุรกิจรับสร้างบ้านตลอดช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ มีสัญญานชัดเจนถึงการชะลอการตัดสินใจสร้างบ้านของผู้บริโภค นอกเหนือจากความกังวลต่อเศรษฐกิจที่มีการขยายตัวต่ำกว่าที่คาดไว้ และอีกปัจจัยคือประชาชนรอเห็นโฉมหน้ารัฐบาลชุดใหม่ หรือการเปลี่ยนผ่านขั้วอำนาจทางการเมือง ก่อนจะตัดสินใจลงทุนเรื่องบ้านหรือที่อยู่อาศัยหลังใหม่

"สำหรับ พรรคการเมืองที่อยู่ระหว่างรอคณะกรรมการเลือกตั้งรับรองผล และเตรียมจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่เพื่อจะเข้ามาบริหารประเทศนั้น มีหนึ่งในนโยบายสำคัญคือการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ จากปัจจุบันวันละ 328-354 บาท เพิ่มเป็น 400-450 บาท โดยอาจแบ่งการปรับเพิ่มค่าแรงออกเป็นระยะนั้น ซึ่งก็มีเสียงตอบรับจากภาคธุรกิจทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่ในส่วนของ พีดีเฮ้าส์ นั้นยืนยันว่าเห็นด้วยกับนโยบายดังกล่าว ด้วยเหตุผลว่าสอดคล้องและเหมาะกับค่าครองชีพของประชาชนในสถานการณ์ปัจจุบัน และเมื่อประชาชนมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้นก็จะช่วยทำให้การค้าการขายและเศรษฐกิจประเทศค่อย ๆ กลับมาฟื้นตัวดีขึ้น ด้านผู้ประกอบการรับสร้างบ้านที่มีความเป็นมืออาชีพมั่นใจว่าปรับตัวได้ไม่ยาก เพราะเคยผ่านประสบการณ์ลักษณะนี้มาแล้วเมื่อปี 2556 ที่รัฐบาลมีการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำจากวันละ 215-220 บาท เป็นวันละ 300 บาท นอกจากนี้ก็เชื่อว่ารัฐบาลชุดใหม่น่าจะมีแผนหรือมาตรการอย่างใดอย่างหนึ่งออกมารองรับผลกระทบ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอี"

อย่างไรก็ดี แม้จะมั่นใจว่าผู้ประกอบการจะสามารถปรับตัวได้ไม่ยาก แต่ฟากผู้บริโภคคงไม่อาจหนีพ้นราคาบ้านหลังใหม่ที่ปรับขึ้นจากเดิม โดยจากการประเมินเบื้องต้นคาดว่าต้นทุนค่าก่อสร้างบ้านจะปรับขึ้น 15-17% ยกเว้นรัฐบาลมีมาตรการออกมาชดเชย และผู้ประกอบการจะช่วยรับภาระไว้ส่วนหนึ่งก็จะไม่ทำให้ราคาบ้านปรับสูงขึ้นมากเกินไป แต่ยังไงก็ตามราคาบ้านยังคงปรับสูงขึ้นไม่น้อยกว่า 7-8% สำหรับผู้บริโภคที่ตัดสินใจสร้างบ้านภายหลังต้นทุนค่าแรงใหม่ภายใต้รัฐบาลชุดใหม่

นางสาวถิรพร สุรรณสุต ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการตลาด บริษัท พีดี เฮ้าส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เจ้าของสิทธิ์และผู้บริหารมาตรฐานศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ กล่าวว่า ต้นทุนค่าก่อสร้างและราคาบ้านที่สูงขึ้นจากนโยบายปรับค่าแรงขั้นต่ำ อาจมองได้ว่าเป็นปัจจัยลบและเกิดผลกระทบที่ผู้ประกอบการจะต้องเร่งปรับตัว แต่การมีรัฐบาลชุดใหม่ซึ่งมาจากการเลือกตั้งโดยเสียงส่วนใหญ่ของประชาชน และมีนโยบายที่จะพาประเทศไปในทิศทางใดอย่างชัดเจน ถือได้ว่าเป็นปัจจัยบวก เพราะผู้บริโภคและประชาชนจะเกิดความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลและการบริหารเศรษฐกิจประเทศ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญต่อภาคธุรกิจรวมถึงธุรกิจรับสร้างบ้าน เพราะการจะนำเงินมาลงทุนสร้างบ้านหรือที่อยู่อาศัยนั้น จำเป็นที่ผู้บริโภคและประชาชนจะต้องมีความมั่นใจต่อแนวโน้มเศรษฐกิจในอนาคต สะท้อนได้จากกำลังซื้อที่ชะลอตัวในช่วง 4 เดือนเศษที่ผ่านมา ทั้งนี้พีดีเฮ้าส์เองคาดว่าระยะเวลา 8 เดือนที่เหลือของปีนี้ ภาพรวมธุรกิจรับสร้างบ้านมีแนวโน้มจะปรับตัวดีขึ้น

ปัจจุบัน ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ ภายใต้นิยาม "Build for the future" มีสำนักงานเปิดให้บริการรับสร้างบ้านทั่วประเทศรวม 31 สาขา โดยนโยบายหลักของการสร้างบ้านคือ "สร้างบ้านประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม" การันตีได้จาก 36 รางวัลบ้านอนุรักษ์พลังงาน ที่ได้รับจากกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน สำหรับลูกค้าที่ใช้บริการสร้างบ้านกับพีดีเฮ้าส์แล้ว นอกจากจะได้บ้านคุณภาพ มีอายุการใช้งานยาวนาน ช่วยประหยัดการใช้พลังงานแล้ว พีดีเฮ้าส์ยังใส่ใจเรื่องการดูแลสุขภาพของผู้อยู่อาศัยอีกด้วย โดยมีการติดตั้งระบบระบายอากาศเสียและเพิ่มอากาศบริสุทธิ์ รวมถึงช่วยถ่ายเทความชื้นและไม่ทำให้เกิดเชื้อราภายในบ้านแม้ว่าจะปิดบ้านทิ้งไว้นาน ๆ นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันฝุ่น PM 2.5 ซึ่งเป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจ

ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ จึงมิใช่เพียงแค่ให้บริการสร้างบ้านคุณภาพเท่านั้น แต่ยังช่วยลูกค้าลดการใช้พลังงานและค่าใช้จ่าย มีส่วนร่วมในการดูแลโลกหรือสิ่งแวดล้อม รวมทั้งยังมีระบบหรืออุปกรณ์ที่ช่วยดูแลสุขภาพของลูกค้าและสมาชิกในครอบครัวให้ปลอดภัยจากมลภาวะทางอากาศ โดยเฉพาะผู้ที่เป็นโรคหืดหอบหรือภูมิแพ้ ซึ่งแม้ว่าราคาบ้านอาจจะสูงกว่าผู้ประกอบการสร้างบ้านทั่วไป แต่ก็เป็นราคาที่จับต้องได้และเป็นธรรม โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับผู้ประกอบการรายอื่นที่มีครบเหมือน ๆ กัน

ที่มา: พีดี เฮ้าส์ อินเตอร์เนชั่นแนล

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๖:๕๐ รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๑๖:๑๔ ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๑๖:๑๓ Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๑๖:๑๐ ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๑๖:๕๒ โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๑๕:๒๖ กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๑๕:๐๑ สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๑๕:๒๙ 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๑๕:๐๘ โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๑๕:๕๒ electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version