บมจ.ไทยฮา ผลิตภัณฑ์ "ตราเกษตร" ชูคอนเซ็ปต์ "กินง่าย ขายคุ้ม" เปิดตัว KASET BRAND LINE SHOPPING รุกขยายตลาดฮาลาล-สุขภาพทั่วประเทศ

จันทร์ ๒๙ พฤษภาคม ๒๐๒๓ ๑๖:๒๘
บมจ.ไทยฮา ผลิตภัณฑ์ "ตราเกษตร" ชูคอนเซ็ปต์ "กินง่าย ขายคุ้ม" เปิดตัว KASET BRAND LINE SHOPPING รุกขยายตลาดฮาลาล-สุขภาพทั่วประเทศ พร้อมเดินหน้าเพิ่มตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ (Vending Machine-VDM) ตราเกษตร กว่า 400 จุด ตั้งเป้ายอดขายปี 2566 จำนวน 1,100 ลบ.
  • KASET BRAND LINE SHOPPING
  • ตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ (VDM) ผลิตภัณฑ์ "ตราเกษตร" ข้าวกล่องพร้อมทาน โจ๊กคัพ วุ้นเส้น วุ้นเส้นคัพ ข้าวหอมมะลิ ข้าวกข43 ทองม้วน
  • ช้อปสะดวกจ่ายสบาย ลดต้นทุน ลดปัญหาขนส่ง ส่งสินค้าโดยตรงถึงผู้บริโภค และผู้ประกอบการกลุ่มโฮเรก้า พร้อมรับสิทธิประโยชน์มากมาย

นายสมฤกษ์ ตั้งพิรุฬห์ธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยฮา จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ "ตราเกษตร" กล่าวว่า หลังสถานการณ์วิกฤตโควิด-19  คลี่คลายลง แนวโน้มตลาดอาหารฮาลาลโลก และในประเทศไทยมีโอกาสจะเติบโต 15% ต่อปีอย่างต่อเนื่องในอีก 7 ปีข้างหน้า เศรษฐกิจโลกอยู่ในช่วงฟื้นฟูผนวกกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ความต้องการการบริโภคอาหารที่มีคุณภาพ หลากหลาย ให้ความสำคัญกับมมาตรฐานคุณภาพ  รู้แหล่งที่มา เพิ่มขึ้นแต่การเดินทางเพื่อซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคเริ่มลดลง ส่งผลให้ตลาดช้อปปิ้งออนไลน์และการสั่งซื้อตรงกับผู้ผลิตหรือแบรนด์เติบโตขึ้น ผู้บริโภคทั้งที่เป็นมุสลิมและไม่ใช่มุสลิม มีความต้องการบริโภคอาหารที่ปลอดภัย และตรวจสอบแหล่งที่มาได้มากขึ้น ซึ่งปัจจุบันตลาดอาหารฮาลาลส่งออกจากไทย มีมูลค่ากว่า 4,000 ล้านเหรียญ หรือ 136,000 ล้านบาท

โดยล่าสุดเพื่อเป็นการส่งมอบจุดแข็งในการผลิตอาหารและขนมจากวัตถุดิบธรรมชาติ ปลอดภัย ด้วยรสชาติที่อร่อยถูกปากชาวโลกในฐานะผู้นำส่งออกอาหารและขนมที่มีมาตรฐานฮาลาลมาหลายสิบปี บริษัทฯ ได้จัดขบวนทัพผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน "ฮาลาล"  หรือเครื่องหมายฮาลาลรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค(สคบ.) โดยยังคงคอนเซปต์อาหารเพื่อสุขภาพเป็นหลักให้เข้าถึงคนไทยได้ง่ายขึ้น เพราะเชื่อว่า "สุขภาพดี เริ่มต้นที่อาหาร" ลงทุน ต่อยอด วิเคราะห์พฤติกรรมและความต้องการของตลาดและลูกค้าให้แม่นยำอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างฐานลูกค้าใหม่ทั้งตลาดค้าปลีกและค้าส่งทั่วประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ภาคใต้ที่มีความต้องการอาหารฮาลาลเพิ่มขึ้น

พร้อมกันนี้ยังเปิดตัวช่องทางการสั่งซื้อ KASET BRAND LINE SHOPPING https://shop.line.me/@kasetbrand อย่างเป็นทางการ เพื่อจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในเครือ "ตราเกษตร" ในราคาพิเศษ ช่วยลดต้นทุน เพิ่มความรวดเร็วในการบริการ โดยผู้บริโภคสามารถชำระด้วยบัตรประเภทต่าง ๆ ได้ ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการซื้อสินค้า และจัดส่งตรงถึงผู้บริโภค ด้วยคอนเซ็ปต์ "กินง่าย ขายคุ้ม" พร้อมรับสิทธิประโยชน์มากมาย เช่น ลูกค้าสามารถสมัครสมาชิก KASET BRAND LINE SHOPPING ได้ด้วยง่าย ๆ เพียงแอดไลน์ @KASETBRAND หรือคลิกที่นี่ https://page.line.me/kasetbrand ลูกค้าใหม่รับทันทีโค้ดส่วนลด ON TOP 5% ทันทีเมื่อสั่งสินค้าครั้งแรก รวมถึงโปรโมชั่นซื้อยกแพ็คแถมฟรีสินค้าประจำสัปดาห์อีกมากมาย

ทั้งยังมีบริการสำหรับผู้ประกอบการในกลุ่มโฮเรก้า โรงแรม ร้านอาหาร ให้สามารถสั่งซื้อสินค้าและผลิตภัณฑ์ในเครือ"ตราเกษตร" ได้ในราคาพิเศษ โดยสอบถามและสั่งซื้อผ่าน LINE OFFICIAL ของ @KASETBRAND

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนที่จะเพิ่มจำนวนตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ (Vending Machine - VDM) ตราเกษตร อีก 400 จุดทั่วประเทศ ซึ่งปัจจุบันมีตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติที่เปิดบริการแล้ว ในสถานีบริการน้ำมันบางจากและร้านอินทนิล เพื่อจำหน่ายผลิตภัณฑ์ วุ้นเส้นและสินค้ากึ่งสำเร็จรูป ได้แก่ วุ้นเส้นคัพ หลากหลายรสชาติ เช่น รสยำทะเล รสต้มยำกุ้ง รสกุ้งอบ รสเย็นตาโฟ รสเผ็ดซอสเกาหลี รสเย็นตาโฟต้มยำ ทองม้วน (แบรนด์ "Coco Jas / Coco Riz / Coco Rice") ที่ผลิตจากข้าวหอมมะลิชั้นดี และกะทิคั้นสด ปราศจาก Gluten และไขมันทรานส์ รสกล้วย รสมะม่วง รสปลาหมึกย่าง รสกุ้งเอบิ สไตล์ญี่ปุ่น

นาย สมฤกษ์ ตั้งพิรุฬห์ธรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า ตลอดระยะเวลากว่า 30 ปี บริษัทฯ มุ่งมั่นเดินหน้าพัฒนาด้านเทคโนโลยีการผลิตอาหารที่ทันสมัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อผลิตอาหารที่มีคุณภาพและปลอดภัยออกสู่ครัวของผู้บริโภค ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน "ฮาลาล"  หรือเครื่องหมายฮาลาลรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) และมาตรฐานสินค้ารับรองระบบคุณภาพระดับโลก เช่น British Retail Consortium-BRC , International Food Standard-IFS , U.S. Food and Drug Administration-USFDA สร้างการยอมรับและความเชื่อมั่นสินค้า "ตราเกษตร" ในทุกตลาด ทำให้สินค้า "ตราเกษตร" สามารถจำหน่ายในตลาดโลกถึง 85 ประเทศ ปัจจุบันนี้สินค้าตรา "เกษตร" ผลิตและจำหน่ายสินค้า แบ่งเป็น 5 กลุ่ม ได้แก่

  1. ข้าวและธัญพืช ได้แก่ ข้าวหอมมะลิ ข้าว กข.43 น้ำตาลต่ำ ข้าวเหนียว ข้าวกล้อง ข้าวเพื่อสุขภาพ
  2. วุ้นเส้นและสินค้ากึ่งสำเร็จรูป ได้แก่ วุ้นเส้นคัพ หลากหลายรสชาติ เช่น รสยำทะเล รสต้มยำกุ้ง รสกุ้งอบ รสเย็นตาโฟ รสเผ็ดซอสเกาหลี รสเย็นตาโฟต้มยำ
  3. ขนมขบเคี้ยว (Snack) ได้แก่ ทองม้วน (แบรนด์ "Coco Jas / Coco Riz / Coco Rice") ที่ผลิตจากข้าวหอมมะลิชั้นดี และกะทิคั้นสด ปราศจาก Gluten และไขมันทรานส์ มีรสกล้วย รสมะม่วง รสปลาหมึกย่าง รสกุ้งเอบิ สไตล์ญี่ปุ่น
  4. อาหารพร้อมรับประทาน (Ready to Eat)
  5. เครื่องดื่ม (Ready to Drink) ได้แก่ ชาไทย ชาไทยไข่มุก ชาเขียว กาแฟ กะทิเม็ดแมงลัก (แบรนด์ดอยธัมม์)

และยังได้จับมือกับพันธมิตรทางธุรกิจจำหน่ายผลิตภัณฑ์ต่างๆ อาทิ น้ำมันถั่วเหลืองตราองุ่น น้ำมันปาล์มตราเชียร์ น้ำตาลทรายมิตรผล น้ำปลาเมจิกเชฟ น้ำส้มสายชู น้ำพริกเผาฉั่วฮะเส็ง น้ำจิ้มไก่ ซอส ผงชูรส กะทิชาวเกาะ เป็นต้น

ทั้งนี้ คาดว่าปี 2566 จะสามารถสร้างยอดขายได้ 1,100 ล้านบาท ผ่านช่องออฟไลน์ ออนไลน์ และ ตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ (Vending Machine - VDM)

ที่มา: buppa PR

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ