วช.หนุนทีมวิจัย มจธ.พัฒนาเทคโนโลยีที่เหมาะสม ต้นแบบสำหรับการทำความสะอาดก๊าซชีวภาพและการผลิตไฮโดรเจนจากก๊าซชีวภาพ

อังคาร ๓๐ พฤษภาคม ๒๐๒๓ ๑๓:๑๑
สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ได้ให้การสนับสนุนทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตไฮโดรเจนจากวัตถุดิบก๊าซชีวภาพจากบ่อขยะในชุมชนโดยผ่านกระบวนการเคมีความร้อนหลายกระบวนการ ซึ่งสามารถนำไปใช้เป็นแหล่งพลังงานขนาดเล็กในชุมชน อย่างไม่มีข้อจำกัดในการกักเก็บพลังงาน และนำออกมาใช้เมื่อมีความต้องการใช้ไฟฟ้าโดยผ่านหอเซลล์เชื้อเพลิง และมีการทดสอบกระบวนการผลิตไฮโดรเจน ออกแบบและพัฒนาระบบการผลิต เพิ่มความบริสุทธิ์และกักเก็บไฮโดรเจนโดยใช้วัตถุดิบก๊าซชีวภาพจากบ่อขยะให้มีประสิทธิภาพสูงสุด จากนั้นทำการทดสอบความน่าเชื่อถือในการผลิตไฮโดรเจนโดยใช้วัตถุดิบก๊าซชีวภาพมีเทนจากบ่อขยะ (ทำการทดสอบระบบแบบต่อเนื่องเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 50 ชั่วโมง ที่กำลังการผลิต 20 ลิตรต่อนาที) รวมถึงสร้างความพร้อมบุคลากรให้มีความรู้และเข้าใจในกระบวนการผลิตไฮโดรเจนจนถึงการใช้งาน

ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า วช. ภายใต้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เป็นองค์กรสำคัญของรัฐในการขับเคลื่อนสนับสนุนงานวิจัยและนวัตกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและสังคม เสริมสร้างคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อม สนับสนุนอุตสาหกรรม หรือ ภาคการผลิตต่างๆ โดยเฉพาะการส่งเสริมในการหาแหล่งพลังทดแทนเพื่อใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้า ซึ่งผลงานจากทีมวิจัยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ในการพัฒนาเทคโนโลยีที่เหมาะสมและต้นแบบสำหรับการทำความสะอาดก๊าซชีวภาพและการผลิตไฮโดรเจนจากก๊าซชีวภาพ ที่มีแหล่งที่มาจากบ่อขยะในชุมชน มาผ่านกระบวนการเพื่อนำไปใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้า ซึ่งนอกจากเป็นการเสริมสร้างศักยภาพแหล่งพลังงานในชุมชนแล้ว ยังเป็นการเสริมสร้างคุณภาพที่ดีด้านสิ่งแวดล้อมจากพลังงานชีวภาพอีกด้วย

ศาสตราจารย์ ดร.นวดล เหล่าศิริพจน์ หัวหน้าทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี เปิดเผยว่า โครงการนี้ มจธ. ได้รับการสนับสนุนทุนจาก วช. โดยมีเป้าหมายเพื่อผลิตก๊าซไฮโดรเจนจากก๊าซชีวภาพเพื่อเป็นการเพิ่มมูลค่าและสร้างทางเลือกให้กับก๊าซชีวภาพจากบ่อขยะของประเทศไทย โดยก๊าซไฮโดรเจนที่ได้สามารถนำไปใช้ร่วมกับเซลล์เชื้อเพลิงเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งขั้นตอนกระบวนการผลิตหลักๆ จะประกอบไปด้วยการทำความสะอาดก๊าซชีวภาพเพื่อกำจัดสิ่งปฏิกูลจำพวกซัลเฟอร์และคาร์บอนไดออกไซด์บางส่วนออก จากนั้นนำก๊าซที่ได้จากกระบวนการบำบัดไปเข้าสู่เครื่องปฏิกรณ์หลักเพื่อผลิตไฮโดรเจน โดยภายในจะทำการบรรจุตัวเร่งปฏิกิริยาที่มีศักยภาพในการแตกสลาย Volatile Organic Compounds (VOCs) การแปรสภาพมีเทนและคาร์บอนไดออกไซด์ไปเป็นไฮโดรเจน และการกำจัดคาร์บอนมอนอกไซด์เพื่อเพิ่มปริมาณไฮโดรเจนในผลิตภัณฑ์

ศาสตราจารย์ ดร.นวดล กล่าวว่า ประโยชน์ที่ได้รับจากการวิจัยนี้สามารถเพิ่มมูลค่าและทางเลือกในการใช้ก๊าซชีวภาพจากบ่อขยะเพื่อผลิตพลังงานสะอาดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมรองรับนโยบายการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Net Zero GHG Emission) ของประเทศ โดยจะมีการขยายผลพัฒนาต่อยอดสร้างความร่วมมือกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) ในการนำระบบผลิตไฮโดรเจนดังกล่าวไปใช้ร่วมกับเซลล์เชื้อเพลิงเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าต่อไป

ที่มา: สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๕ พ.ย. ดิ เอราวัณ กรุ๊ป เปิดตัว HOP NextGen ชวนนักศึกษาเยี่ยมชม ฮ็อป อินน์ เรียนรู้เทคนิคบริการแบบ Consistency is Yours พร้อมพัฒนาบุคลากรรุ่นใหม่
๑๕ พ.ย. คิง เพาเวอร์ ต้อนรับเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปี เปิดแคมเปญ THE POWER OF FUNTASTIC CELEBRATION 2025 ฉลองทุกความสุข สนุกไม่รู้จบ
๑๕ พ.ย. พันธุ์ไทย ชวนแฟนด้อม คัลแลนและพี่จอง จุ่ม การ์ดพันธุ์ไทยใจฟู ลิมิเต็ด อิดิชั่น
๑๕ พ.ย. BAM ทรานส์ฟอร์มองค์กรสู่ DIGITAL ENTERPRISE ตอกย้ำผู้นำ AMC ยุค 4.0 วางเป้าหมายยกระดับองค์กรสร้างโอกาสเติบโตอย่างยั่งยืน เตรียมส่ง อิสระ เดอะซีรีส์ ชวนลูกหนี้ BAM
๑๕ พ.ย. บางจากฯ ได้รับการประเมินด้านความยั่งยืนอันดับสูงสุดของโลก จาก SP Global 2024 ในกลุ่มอุตสาหกรรม Oil Gas Refinery and
๑๔ พ.ย. ซีเอเค อินเตอร์เนชั่นแนล ออกบูธให้ความรู้เรื่องการใช้งานระบบดับเพลิงนร. พระหฤทัยนนทบุรี
๑๒ พ.ย. พนักงานซีเอเค อินเตอร์เนชั่นแนล รับรางวัลเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานดีเด่น
๑๕ พ.ย. PROSPECT REIT ชูไตรมาส 3/67 โตเกินเป้า อัตราการเช่าพุ่งนิวไฮ หนุนจ่ายปันผลเด่น 0.2160 บาท
๑๕ พ.ย. CHAO ประกาศงบ Q3/67 กำไรพุ่งกว่า 62% รับตลาดส่งออกพีค จีนโตเด่น แย้ม Q4 เดินหน้าบุกตลาดในประเทศ สินค้าใหม่หนุนยอดขายปลายปี
๑๕ พ.ย. ฉลองเทศกาลลอยกระทงประจำปี 2567 ณ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ