'STA' ตอกย้ำความแข็งแกร่งผู้นำธุรกิจยางธรรมชาติครบวงจรรายใหญ่ที่สุดของโลก ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรปี 66 ที่ระดับ 'A' แนวโน้ม 'Stable'

พฤหัส ๐๑ มิถุนายน ๒๐๒๓ ๑๐:๓๖
STA ได้รับการคงอันดับเครดิตองค์กรที่ระดับ "A" แนวโน้ม "Stable" จากทริส เรทติ้ง ตอกย้ำศักยภาพการดำเนินงานและความแข็งแกร่งจากการเป็นผู้นำธุรกิจยางธรรมชาติครบวงจรรายใหญ่ที่สุดของโลก ความสามารถในการควบคุมและเพิ่มประสิทธิภาพบริหารต้นทุน ฐานะการเงินที่เข้มแข็งและหนี้สินต่อทุนที่ลดลง ท่ามกลางภาพรวมอุตสาหกรรมยางธรรมชาติที่มีความท้าทายเพิ่มขึ้น

นายวีรสิทธิ์ สินเจริญกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่และกรรมการบริหาร บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) ผู้นำธุรกิจยางธรรมชาติครบวงจรรายใหญ่ที่สุดของโลกและผู้ผลิตถุงมือยางรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2566 บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สถาบันจัดอันดับเครดิตชั้นนำ ได้ประกาศผลการประเมินอันดับเครดิตองค์กรล่าสุดของบริษัทฯ โดยล่าสุดได้คงอันดับเครดิตที่ "A" แนวโน้ม "Stable" ท่ามกลางภาพรวมเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมยางธรรมชาติที่มีความท้าทายเพิ่มขึ้น

จากอันดับเครดิตองค์กรดังกล่าว สะท้อนถึงพื้นฐานธุรกิจและศักยภาพการดำเนินงานที่ยังคงแข็งแกร่งจากการเป็นผู้นำธุรกิจยางธรรมชาติครบวงจรรายใหญ่ที่สุดของโลก ความสามารถการควบคุมและเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการต้นทุน ขีดความสามารถการแข่งขันที่ดี และความสำเร็จของแอปพลิเคชัน "SRI TRANG FRIENDS" และ "SRI TRANG FRIENDS STATION" ที่สามารถตอบโจทย์การเข้าถึงทั้งในฝั่งของชาวสวนและลูกค้า รวมถึงฐานะทางการเงินและเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจที่ยังแข็งแกร่ง โดยมีอัตราหนี้สินต่อทุน ณ ไตรมาส 1/2566 อยู่ที่เพียง 0.64 เท่า อย่างไรก็ตาม ภาพรวมอุตสาหกรรมยางธรรมชาติในปัจจุบันต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนเพิ่มขึ้นทั้งในแง่ของดีมานด์และซัพพลาย

ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ขยายกำลังการผลิตในช่วงที่ผ่านมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้สามารถเพิ่มส่วนแบ่งยางธรรมชาติในตลาดโลก โดยคาดว่า ณ สิ้นปี 2566 จะมีกำลังการผลิตติดตั้งรวม 3.98 ล้านตันต่อปี เพิ่มขึ้น 25% จากสิ้นปี 2565 ที่มีกำลังการผลิตติดตั้งรวม 3.18 ล้านตันต่อปี

ขณะที่ภาพรวมการดำเนินงานไตรมาส 1/2566 มีปริมาณการขายยางธรรมชาติรวมเกือบ 400,000 ตัน เพิ่มขึ้น14.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 3.6% จากไตรมาสก่อนหน้า คิดเป็นอัตราการใช้กำลังการผลิตที่ 71% ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 24,426 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 288 ล้านบาท ชะลอตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากราคาขายเฉลี่ยยางธรรมชาติและถุงมือยางที่ลดลง อย่างไรก็ตาม สำหรับในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทฯ ยังคงได้รับปัจจัยสนับสนุนจากกำลังการผลิตใหม่ที่ทยอยปรับเพิ่มขึ้นและดีมานด์จากกลุ่มผู้ผลิตยางล้อประเทศอื่นๆ นอกจากจีน (Non-China) ที่จะทยอยกลับมา เนื่องจากระดับยางในสต๊อกเริ่มลดลง ทั้งนี้ ในส่วนของซัพพลาย บริษัทฯ ยังคงจับตามองผลกระทบของเอลนีโญต่อซัพพลายในประเทศไทยอย่างใกล้ชิด

ที่มา: เอ็ม ที มัลติมีเดีย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ