กัมพูชาออกกฎหมายสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ อาศัยพลังแห่งสันติภาพและการเติบโตทางเศรษฐกิจเป็นแรงผลักดันความก้าวหน้าด้านสิ่งแวดล้อม

ศุกร์ ๐๒ มิถุนายน ๒๐๒๓ ๐๘:๕๑
กระทรวงสิ่งแวดล้อมของกัมพูชาประกาศใช้ประมวลกฎหมายสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ (Environment and Natural Resources Code หรือ ENRC) ซึ่งเป็นกฎหมายฉบับบุกเบิกที่จะขับเคลื่อนประเทศไปสู่ความเป็นผู้นำของภูมิภาคในด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศ ความสำเร็จครั้งสำคัญนี้สะท้อนถึงการเดินทางอันน่าทึ่งของกัมพูชา จากประเทศที่ถูกทำลายเพราะสงครามสู่การเป็นผู้นำความก้าวหน้าด้านสิ่งแวดล้อม โดยได้รับแรงหนุนจากเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ประมวลกฎหมายสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติของกัมพูชามีความคล้ายคลึงกับหลักการสำคัญของกฎหมายต่างประเทศ เช่น กฎหมายนโยบายสิ่งแวดล้อมแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา รวมถึงกฎหมายอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและคุ้มครองความหลากหลายทางชีวภาพของออสเตรเลียปี 2542 นับว่าเป็นการก้าวเข้าสู่ยุคแห่งความยั่งยืนอย่างแท้จริงของกัมพูชา

ประมวลกฎหมายสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของกัมพูชาในการสร้างอนาคตบนพื้นฐานของความหลากหลายทางนิเวศวิทยา สุขภาพ และความเจริญรุ่งเรือง โดยให้ความสำคัญกับประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมที่หลากหลาย ได้แก่ การประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม การควบคุมมลพิษ การจัดการพื้นที่คุ้มครอง การอนุรักษ์ป่าไม้และความหลากหลายทางชีวภาพ การวางแผนและบริหารการใช้ที่ดิน การจัดการของเสียอันตราย การจัดการทรัพยากรน้ำ รวมถึงการปรับตัวเพื่อรับมือและบรรเทาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยในส่วนของการจัดการและปกป้องพื้นที่คุ้มครองนั้น มีการให้ความสำคัญกับประเด็นต่าง ๆ เช่น มรดกทางวัฒนธรรม การจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน การจัดการป่าไม้และการประมง รวมถึงการจัดการเหมืองและพลังงาน

ประมวลกฎหมายสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติมุ่งส่งเสริมการรับรู้และการวิจัยด้านสิ่งแวดล้อมผ่านการศึกษา การเผยแพร่ข้อมูล และการฝึกอบรม เพื่อส่งเสริมความเข้าใจร่วมกันเกี่ยวกับความท้าทายและโอกาสในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติของกัมพูชา

นายกรัฐมนตรีฮุนเซนกล่าวว่า "กัมพูชาเคยเป็นที่รู้จักจากสงครามและการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ แต่ปัจจุบันเราเป็นผู้บุกเบิกด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและการเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ประมวลกฎหมายสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ รวมถึงอาเซียน กรีนดีล (ASEAN Green Deal) เป็นเครื่องยืนยันถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงลึกของเรา เราได้ก้าวข้ามปัญหาในอดีตและเดินหน้าไปสู่อนาคตที่ยั่งยืนในวันนี้ และนี่คือความมุ่งมั่นทุ่มเทของเราที่มีต่อประชาชน ภูมิภาค และโลกของเราทั้งหมด เราไม่ใช่เศรษฐกิจอิงเกษตรกรรมเป็นหลักอีกต่อไป แต่เป็นเศรษฐกิจที่มีความหลากหลายและมีจำนวนชนชั้นกลางเพิ่มมากขึ้น โดยได้รับอานิสงส์จากสันติภาพและเสถียรภาพ ซึ่งเป็นรากฐานของการเติบโตและการพัฒนาเศรษฐกิจ นอกจากนี้ การแข่งขันกีฬาซีเกมส์เมื่อเดือนที่แล้วยังเป็นสักขีพยานของการพัฒนาและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นของเราอีกด้วย"

นายสาย ซอม ออล (Say Sam Al) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อมของกัมพูชา กล่าวเสริมว่า "การบังคับใช้ประมวลกฎหมายสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาตินับเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการเดินทางของเราจากอดีตที่ท้าทายไปสู่อนาคตที่สดใสและรุ่งเรือง เหตุการณ์สำคัญนี้เน้นย้ำให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอันแน่วแน่ของเราในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติอันทรงคุณค่าของกัมพูชา และเผชิญหน้ากับความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ประมวลกฎหมายสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติถือกำเนิดขึ้นจากความร่วมมือที่ครอบคลุมรอบด้าน และเป็นมากกว่านโยบายทั่วไป โดยถือเป็นการรวบรวมข้อเรียกร้องต่าง ๆ เพื่อให้เกิดการลงมือปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม นอกจากการสนับสนุนเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างรวดเร็วแล้ว เรายังรวมพลังกันสร้างอนาคตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและมีความยั่งยืนมากขึ้น เรากำลังจับมือกันก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของการแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม"

ในระหว่างที่ดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนในปี 2565 กัมพูชาได้เสนออาเซียน กรีนดีล ซึ่งเป็นกรอบการทำงานระดับภูมิภาคที่มีเป้าหมายเพื่อผลักดันให้อาเซียนบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2593 ด้วยการส่งเสริมพลังงานหมุนเวียน ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก คุ้มครองความหลากหลายทางชีวภาพ ตลอดจนส่งเสริมแนวปฏิบัติด้านการเกษตรและการทำป่าไม้อย่างยั่งยืน ซึ่งการบังคับใช้ประมวลกฎหมายสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติยิ่งเป็นการตอกย้ำความเป็นผู้นำของกัมพูชาในภูมิภาคอาเซียนและสนับสนุนการปฏิบัติจริง นอกจากนี้ ประมวลกฎหมายสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติยังส่งเสริมความมุ่งมั่นของกัมพูชาในการมีส่วนร่วมภายใต้ความตกลงปารีส (Paris Agreement) ซึ่งเป็นการเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของกัมพูชาในการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

กัมพูชาเป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า การพัฒนาเศรษฐกิจและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมสามารถไปด้วยกันได้ โดยกัมพูชาประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนจากเศรษฐกิจอิงเกษตรกรรมเป็นหลักไปสู่เศรษฐกิจที่มีความหลากหลาย ซึ่งนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของชนชั้นกลาง ตัวอย่างของกัมพูชาเป็นแรงบันดาลใจให้ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกบูรณาการความก้าวหน้าเข้ากับความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างอนาคตที่สงบสุข อยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืนมากขึ้น มีความยืดหยุ่น และเจริญรุ่งเรืองสำหรับทุกคน



ที่มา:  พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๑ ก.พ. รฟท. จัดรถไฟส่งผู้ชุมนุมขบวนคนจนเมืองเพื่อสิทธิที่อยู่อาศัย เครือข่ายสลัม 4 ภาค กลับภูมิลำเนาโดยสวัสดิภาพ
๒๑ ก.พ. BCPG เผยผลการดำเนินงานปี 2567 กำไรสุทธิกว่า 1,800 ล้านบาท เติบโต 65% จากปีก่อน พร้อมประกาศจ่ายเงินปันผลครึ่งปีหลัง
๒๑ ก.พ. เกรท นำทีมศิษย์เก่า ฟอส-แบงค์ ฉลองครบรอบ 40 ปี ม.รังสิต เปิดตัว คริส หอวัง กับบทบาท ครูผู้ฮีลใจนักศึกษา แห่งสถาบัน
๒๑ ก.พ. ธนาคารกรุงเทพ ประกาศจ่ายเงินปันผล หุ้นละ 8.50 บาท สำหรับผลการดำเนินงานประจำปี 2567
๒๑ ก.พ. GULF เคาะแล้ว! อัตราดอกเบี้ยหุ้นกู้อายุ 4-10 ปี ที่ 3.00 - 3.55% ต่อปี พร้อมเสนอขายประชาชนทั่วไป 27-28 ก.พ. และ 3 มี.ค.68 ผ่านสถาบันการเงินชั้นนำ 10
๒๑ ก.พ. Selena Gomez, benny blanco, Gracie Abrams ส่งเพลงสนุกๆ โดนใจ Gen-Z Call Me When You Break Up การรวมตัวของอเวนเจอร์วงการเพลงป็อปที่ทุกคนรอคอย!
๒๑ ก.พ. MBK Care อาสาทำดี ปันน้ำใจสู่สังคม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ ปีที่ 7 ส่งมอบความสุขเพื่อผู้พิการทางสายตา พร้อมสิ่งของอุปโภคบริโภค
๒๑ ก.พ. บางจากฯ ปรับโครงสร้างธุรกิจ เพิ่มประสิทธิภาพและความคล่องตัวของกลุ่มบริษัทบางจาก
๒๑ ก.พ. สวยทุกลุค ชมพู่ - อารยา ถ่ายทอดไลฟ์สไตล์ของสาว GUESS ในแคมเปญคอลเลกชัน Spring Summer 2025 สีสันแห่งฤดูกาลใหม่
๒๑ ก.พ. วช. เปิดศูนย์การเรียนรู้โดรนเพื่อการเกษตร ต้นแบบการยกระดับประสิทธิภาพภาคการเกษตรของจังหวัดกาฬสินธุ์ ณ