สำหรับงานหนังสือนานาชาติกัวลาลัมเปอร์นั้น หลิวเจิ้นอวิ๋นได้รับเชิญให้เข้าร่วมกิจกรรมมากมายภายในงาน ซึ่งรวมถึงกิจกรรม China as Guest of Honor ซึ่งสำนักงานสื่อและสิ่งพิมพ์แห่งชาติของจีนเป็นเจ้าภาพ และจัดขึ้นโดย (กลุ่ม) บริษัทนำเข้าและส่งออกสิ่งพิมพ์แห่งชาติจีน จำกัด โดยหลิวมีส่วนสนับสนุนและส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทางด้านวรรณกรรม และการแลกเปลี่ยนระดับประชาชนของจีนกับมาเลเซีย
นอกจากนี้ ในระหว่างวันที่ 26-30 พฤษภาคม หลิวเจิ้นอวิ๋นยังได้เข้าร่วมโครงการแลกเปลี่ยนต่าง ๆ กับสำนักพิมพ์ นักเขียน และนักอ่านในท้องถิ่น รวมถึงงานประชุมแลกเปลี่ยนระหว่างนักวิชาการและนักเขียนของจีนกับมาเลเซีย, งานประชุมความร่วมมือและแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมจีน-อาเซียน, การเยี่ยมเยียนเพื่อการวิจัย ณ ศูนย์วิจัยความฝันในหอแดงแห่งมหาวิทยาลัยมาลายา, การประชุมเสวนา "วรรณกรรมจีนร่วมสมัย" และกิจกรรมการอ่านและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับหนังสือเรื่อง "Laughter and Tears: A Novel"
หลิวเจิ้นอวิ๋นกล่าวในการอภิปรายว่า ความแตกต่างทางวัฒนธรรมเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่อารมณ์พื้นฐานของผู้คนนั้นเหมือนกัน ในการแลกเปลี่ยนต่าง ๆ นั้น การสื่อสารที่ประหยัดที่สุดคือการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม และหนังสือเป็นสื่อกลางที่ขาดไม่ได้ในการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม
เมื่อพูดถึงนวนิยายเรื่อง "Laugh and Tears: A Novel" เขากล่าวว่า "นักเขียนต้องสนใจอดีต ปัจจุบัน และอนาคตของชาติ" ในแง่หนึ่ง นักเขียนควรสนใจชีวิต ขณะที่อีกด้านหนึ่ง พวกเขาต้องสอดแทรกความคิดของตนเองและศิลปะ ซึ่งเป็น "สองสิ่งที่ขาดไม่ได้"
คำว่า "อารมณ์ขัน" ในความคิดของหลิวนั้น ส่วนที่สำคัญที่สุดคือ "อารมณ์ขันที่มีเหตุผล" เพราะอารมณ์ขันในแต่ละภาษาอาจมีข้อจำกัดในการแปล แต่อารมณ์ขันที่มีเหตุผลสามารถทำลายข้อจำกัดของประเทศและเชื้อชาติได้ ด้วยอารมณ์ขันนี้เองที่ทำให้ผลงานของเขาโดนใจผู้อ่านทั่วโลก กลายเป็นจุดเชื่อมโยงการแลกเปลี่ยนวรรณกรรมและการสื่อสารทางวัฒนธรรมระหว่างจีนกับต่างประเทศ
ที่งานหนังสือนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ หลิวเจิ้นอวิ๋นยังได้เชิญชวนสำนักพิมพ์และนักอ่านจากทั่วโลกไปที่ปักกิ่งเพื่อร่วมงานหนังสือนานาชาติปักกิ่ง (BIBF) ครั้งที่ 29 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15-18 มิถุนายน โดยงานนี้จะ "เปิดโลกแห่งการอ่าน และสร้างการเชื่อมต่อใหม่"