VGI x V-Click จับมือ Initiative Thailand จัดสัมนา "Thought Leadership 2023: Growth Beyond Thai Audience" เผยโอกาสแบรนด์ไทยเข้าถึงตลาดนักท่องเที่ยวชาวจีน

อังคาร ๐๖ มิถุนายน ๒๐๒๓ ๑๐:๒๖
บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ วีจีไอ ("VGI") ผู้นำการตลาด Offline-to-Online ("O2O") โซลูชั่นส์ ผ่านแพลตฟอร์มที่หลากหลาย และ V-Click Technology Ltd (V-Click) บริษัทเทคโนโลยีการตลาดในประเทศไทยที่เชื่อมโยงแบรนด์ต่างๆ ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กับตลาดยักษ์ใหญ่อย่างจีน ร่วมกับ Initiative Thailand เอเจนซี่สื่อระดับโลก และบริษัทในเครืออย่าง BPN, MBCS และ Reprise จัดงานสัมนา "Thought Leadership 2023: Growth Beyond Thai Audience" เพื่อเปิดเผยโอกาสสำคัญที่แบรนด์ไทยสามารถเติบโตและก้าวข้ามตลาดผู้บริโภคไทยไปสู่ตลาดผู้บริโภคจีน ที่มีศักยภาพในการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด

ก่อนการระบาดของ COVID-19 จำนวนนักท่องเที่ยวจีนมีจำนวนสูง 11 ล้านคน นับเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและยังมีมูลค่าสูงถึง 0.5 ล้านล้านบาท นับเป็นส่วนแบ่งของจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งหมดได้ราว 28% นอกจากนี้ในปี 2565 ยังพบว่าประเทศจีนมีการลงทุนในประเทศไทยมากที่สุด ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลจำนวนชาวจีนที่พักอาศัยอยู่ในประเทศไทยที่เพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน คือมีจำนวน 0.5- 1ล้านคน และถูกคาดการณ์ว่าในปี 2571 จะเพิ่มสูงขึ้นเป็น 1-1.8 ล้านคน Initiative Thailand ได้รวบรวมข้อมูลจากงานวิจัยของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและผลสำรวจต่างๆเพื่อเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคชาวจีนในประเทศไทย และได้แบ่งกลุ่มผู้บริโภคชาวจีนเป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือ กลุ่มนักท่องเที่ยวและกลุ่มผู้พักอาศัย จำแนกลงลึกไปกว่านั้นด้วยการแบ่งสไตล์การท่องเที่ยวตามพฤติกรรมของ นักท่องเที่ยวจีนออกเป็น 5 กลุ่ม คือ 28 % ท่องเที่ยวเพื่อค้นพบวัฒนธรรมและผู้คนใหม่ๆที่ไม่เคยรู้จัก, 25 % เที่ยวเพื่อรีเซ็ตตัวเองและผ่อนคลาย, 22% เที่ยวเพื่อดื่มด่ำและแชร์โมเมนต์, 11% เที่ยวเพื่อค้นพบการผจญภัยครั้งใหม่ และ 15% เที่ยวเพื่อหามิตรภาพ ส่วนชาวจีนที่อาศัยในประเทศไทยจากข้อมูลของ True Analytics พบว่ากว่า 62% เป็นช่วงชีวิตของวัยทำงาน สามารถแบ่งกลุ่มตามอาชีพได้แก่ เจ้าของธุรกิจ, พนักงานออฟฟิศ, พนักงานโรงงาน, แม่กับลูก, นักศึกษามหาวิทยาลัย และกลุ่มคนเกษียณอายุ

นอกจากนี้ยังได้เผย 4 วัฒนธรรมชาวจีนที่น่าสนใจ และเป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้แบรนด์และนักการตลาดไทย เข้าใจผู้บริโภคชาวจีนได้อย่างลึกซึ้งมากยิ่งขึ้นคือ 1) อาณาจักรแห่งเอกภาพ ผู้บริโภคจีนให้ความสำคัญเรื่องความเป็นหนึ่งเดียว จึงชื่นชอบที่จะอยู่ในสถานที่ที่มีคนจีนอยู่จำนวนมาก รวมไปถึงการเลือกใช้แพลตฟอร์มในการสื่อสาร จึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องใช้เทคนิคการกำหนดเป้าหมายแบบเรียลไทม์ รวมทั้งการใช้ภาษาจีนและข้อมูลเชิงลึก เพื่อเชื่อมต่อกับผู้บริโภคจีนในประเทศไทย เช่น การใช้สื่อ OOH, Pop-up events และการร่วมมือกับบริษัททัวร์ 2) เปิดโลก เปิดประสบการณ์ใหม่ ผู้บริโภคจีนมองหาประสบการณ์ที่จะช่วยให้พวกเขาหลุดพ้นจากชีวิตประจำวันเดิม และแบรนด์ที่สามารถส่งมอบประสบการณ์ที่ครบครันได้ก็จะสามารถเข้าถึงชาวจีนได้อย่างง่ายดาย 3) ปลดปล่อยตัวตนของชาวจีนที่อยู่ในประเทศไทย พวกเขาสามารถเผยถึงความชื่นชอบส่วนบุคคลได้อย่างเต็มที่ รวมถึงเรื่องความเชื่อทางศาสนา, การรับรู้เกี่ยวกับ LGBTQ+ และการเล่นเกม โดยแบรนด์สามารถสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ เพื่อดึงดูดให้ชาวจีนเข้าร่วมและได้รับประสบการณ์ที่หลากหลายและ 4) ซื้อตามกันจากการแชร์ที่จริงใจ ผู้บริโภคจีนกำลังมองหาความเรียลและคุณภาพระดับพรีเมี่ยม รวมทั้งประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม ซึ่งอินฟลูเอนเซอร์ถือว่ามีบทบาทสำคัญในการช่วยการันตีแบรนด์ว่ามีคุณภาพรวมถึงการให้ข้อมูลที่ถูกต้อง โดยกลยุทธ์การตลาดอินฟลูเอนเซอร์ในจีนนั้นเน้นการสร้างเนื้อหาแบบออร์แกนิคในหลากหลายแพลตฟอร์ม เนื่องจากสามารถสร้างประสิทธิภาพได้สูงสุดนั่นเอง นอกจากนี้ VGI และ V-Click ยังได้ร่วมแชร์ข้อมูลในประเด็น "อะไรคือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ และความท้าทายของนักการตลาดที่ไม่ควรพลาด หากต้องการขยายตลาดหรือสื่อสารกับกลุ่มคนจีน" โดยคุณชมพูนุช อติพรพาณิชย์ ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจของ V-Click Technology เผยถึงกลุ่มของชาวจีนที่แบรนด์ควรให้ความสนใจคือ นักท่องเที่ยววัยรุ่นจีนชาว Gen Z ที่มีจำนวน 260 ล้านคนคิดเป็น 4% ของจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนทั้งหมด โดยกิจกรรมยอดฮิตของคนกลุ่มนี้คือ Glamping ที่เห็นได้จากยอดการโพสต์เกี่ยวกับกิจกรรมนี้สูงถึง 410,000 โพสต์ และสร้าง Interaction มากกว่า 65 ล้านครั้ง ด้านคุณเกร็ดรดา เบญจอาธรศิริกุล ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนากลยุทธ์บริษัท VGI ได้เสริมเรื่องพฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอยของชาวจีน โดยอ้างอิงจากข้อมูลของ China UnionPay พบว่าในปี 2562 มียอดการใช้จ่ายตลอดปีสูงถึง 96 พันล้านบาท ซึ่ง Top 3 อุตสาหกรรมที่ชาวจีนชื่นชอบได้แก่ 1. ค้าปลีก 2. วัฒนธรรม, กีฬาและความบันเทิง 3. อาหารและเครื่องดื่ม โดยเฉพาะเทรนด์การช้อปปิ้งแบบล้างแค้นที่มียอดการใช้จ่ายต่อคนสูงถึง 10,500 บาท คุณอรนุช รุจิราวรรณ ผู้อำนวยการใหญ่สายงานการขายบริษัท VGI กล่าวเพิ่มเติมว่า 7 สถานีบีทีเอสยอดฮิตที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวชาวจีน ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญที่รองรับไลฟ์สไตล์การท่องเที่ยวที่หลากหลาย เช่น การช้อปปิ้งแบรนด์หรู การสัมผัสกับอาหารสตรีทฟู้ด และการสนุกกับสายมูเตลู เช่นสถานีสยาม อโศก ชิดลม พร้อมพงษ์ สะพานตากสิน สนามกีฬาแห่งชาติ และหมอชิต ทั้งนี้ด้วยความเชี่ยวชาญของ V-Click ที่สามารถเชื่อมโยงแบรนด์ต่างๆ ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กับตลาดยักษ์ใหญ่ของจีน แบรนด์และนักการตลาดไทยจะสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคชาวจีนในทุกช่วงการเดินทาง ด้วยกลยุทธ์การตลาด Offline-to-Online ("O2O") โดยเริ่มจากการสร้างความตระหนักรู้ผ่าน KOL ที่ทำรีวิวและแนะนำบริการหรือผลิตภัณฑ์ผ่านแอปพลิเคชันที่นิยมใช้ในจีนเท่านั้น ผสานกับการโฆษณาเพื่อสร้างการจดจำในแบรนด์และเพิ่ม engagement ผ่านสื่อ VGI ที่ครอบคลุมทั้งระบบขนส่งสาธารณะและอาคารสำนักงานรวมถึงอาคารที่พักอาศัยของชาวจีนที่พำนักในไทยด้วย

ที่มา: มาสเตอร์ แอด

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ