สิงคโปร์เปิดตัวแผนแม่บทผลักดันการเชื่อมต่อดิจิทัล มุ่งเน้นโครงสร้างพื้นฐานไอทีเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตแห่งอนาคต

พุธ ๐๗ มิถุนายน ๒๐๒๓ ๐๙:๓๑
คุณโจเซฟิน เตียว ( Josephine Teo) รัฐมนตรีกระทรวงการสื่อสารและสารสนเทศของสิงคโปร์ ประกาศเปิดตัวแผนแม่บทผลักดันการเชื่อมต่อดิจิทัล (Digital Connectivity Blueprint หรือ DCB) เพื่อเป็นตัวกำหนดทิศทางการเชื่อมต่อทางดิจิทัลของสิงคโปร์ในอนาคต โดยการประกาศครั้งนี้มีขึ้นล่วงหน้าก่อนการจัดงานเอเชียเทค เอ็กซ์ สิงคโปร์ (Asia Tech x Singapore หรือ ATxSG) ซึ่งเป็นงานเทคโนโลยีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภูมิภาค

สร้างอนาคตดิจิทัลของสิงคโปร์

แผนแม่บทผลักดันการเชื่อมต่อดิจิทัลนี้เกิดขึ้นจากการปรึกษาหารือระหว่างคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล โดยมีดร. จานิล พุธูเชียรี (Dr. Janil Puthucheary) รัฐมนตรีอาวุโสประจำกระทรวงการสื่อสารและสารสนเทศของสิงคโปร์ และคุณเออร์วิง ตัน (Irving Tan) รองประธานบริหารฝ่ายปฏิบัติการสากลของเวสเทิร์น ดิจิทัล (Western Digital) รวมถึงพันธมิตรอุตสาหกรรมรายอื่น ๆ เป็นประธานร่วม แผนแม่บทดังกล่าวสรุปลำดับความสำคัญเชิงกลยุทธ์ของสิงคโปร์ และขับเคลื่อนประเทศให้ก้าวทันยุคผ่านการลงทุนก่อนความต้องการ พร้อมวางแผนแบบองค์รวมสำหรับโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างพื้นฐานแบบกายภาพ โครงสร้างพื้นฐานแบบกายภาพ-ดิจิทัล และโครงสร้างพื้นฐานด้านมาตรฐาน เพื่อให้แน่ใจว่าโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของเราพร้อมสำหรับอนาคต

สิงคโปร์มุ่งมั่นที่จะก้าวไปข้างหน้าด้วยการขยายการเชื่อมต่อทางดิจิทัล เพื่อสร้างชีวิตที่ดีขึ้นและนำโอกาสที่น่าตื่นเต้นมาสู่ผู้คนและองค์กรต่าง ๆ โดยจะยกระดับความมุ่งมั่นตามลำดับความสำคัญเชิงกลยุทธ์ในด้านต่าง ๆ ประกอบด้วย

  1. เพิ่มขีดความสามารถในการวางสายเคเบิลใต้น้ำเป็นสองเท่าภายในสิบปีข้างหน้า
  2. สร้างการเชื่อมต่อภายในประเทศที่ครอบคลุมด้วยความเร็ว 10 Gbps ภายในห้าปีข้างหน้า
  3. ทำให้โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของประเทศยืดหยุ่นและปลอดภัยในระดับสากล
  4. บุกเบิกแผนงานสำหรับการพัฒนาศูนย์ข้อมูลสีเขียวแห่งใหม่และผลักดันกรอบความยั่งยืน
  5. ผลักดันการนำโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของสิงคโปร์มาใช้มากขึ้น เพื่อเพิ่มประโยชน์จากการทำธุรกรรมดิจิทัลที่ราบรื่น

นอกจากนี้ สิงคโปร์ยังจะบุกเบิกวงการใหม่ ๆ เพื่อเก็บเกี่ยวโอกาสในอนาคต อย่างเช่น

  1. พัฒนาวิสัยทัศน์สร้างสิงคโปร์ที่มีความปลอดภัยทางควอนตัมภายในสิบปีข้างหน้า
  2. วางรากฐานสร้างระบบอัตโนมัติให้แพร่หลาย
  3. "ซอฟต์แวร์สีเขียว" เพื่อลดการประมวลผลหนัก โดยสร้างระบบนิเวศใหม่รองรับซอฟต์แวร์ที่ยั่งยืน
  4. ใช้งานโซลูชันที่ทันสมัยในอุตสาหกรรมหลัก ๆ โดยอาศัยบริการดาวเทียมวงโคจรต่ำ

แผนแม่บทนี้จะทำหน้าที่เป็นรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับสิงคโปร์ในการนำไปสู่โอกาสที่ดีกว่า ความไว้วางใจที่เพิ่มขึ้น และชุมชนที่แข็งแรง

สื่อมวลชนกรุณาติดต่อ อีเมล: [email protected]

ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน สแตรทิจีส์ ( Hill +Knowlton Strategies)
อีเมล: [email protected]



ที่มา:  พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ