กทม.แจงกำหนดเวลาปฏิบัติงานเจ้าหน้าที่ดับเพลิงสอดคล้องตามมาตรฐานการระงับเหตุอัคคีภัย-สาธารณภัย

พุธ ๐๗ มิถุนายน ๒๐๒๓ ๑๔:๕๘
นายธีรยุทธ ภูมิภักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สปภ.) กทม.กล่าวกรณีเจ้าหน้าที่ดับเพลิง กทม.ร้องเรียนเวลาการทำงานไม่สอดคล้องตามมาตรฐานสากลว่า การปฏิบัติงานของ สปภ.เป็นภารกิจที่ต้องมีผู้ปฏิบัติงานตลอด 24 ชั่วโมง (ชม.) เพื่อเฝ้าระวังเหตุภัยพิบัติต่าง ๆ ที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าจะเกิดในวันและช่วงเวลาใด ซึ่งการกำหนดเวลาการปฏิบัติงาน 24 ชม. พัก 24 ชม.เป็นการดำเนินการให้สอดคล้องตามมาตรฐานการปฏิบัติงานระงับเหตุอัคคีภัย หรือสาธารณภัย ตามแผนการปฏิบัติการดับเพลิงที่ทุกคนได้ศึกษาและเรียนรู้เป็นพื้นฐาน ซึ่งแต่ละครั้งเมื่อเกิดเหตุโดยเฉพาะอัคคีภัยต้องใช้ผู้ปฏิบัติงานครั้งละ 15 - 20 คน ประกอบด้วย ทีมเผชิญเหตุ ทีมป้องกันการติดต่อลุกลาม ทีมความปลอดภัย ทีมค้นหาช่วยเหลือ ผู้ควบคุม รวมทั้งผู้ขับขี่ยานพาหนะที่มาตรฐานขั้นพื้นฐานกำหนดให้ในแต่ละเหตุต้องมีอย่างน้อย ได้แก่ รถบรรทุกน้ำดับเพลิง รถดับเพลิง รถบันไดดับเพลิง และรถสนับสนุนอุปกรณ์เข้าปฏิบัติงาน โดยกรอบอัตรากำลังในสถานีดับเพลิงและกู้ภัยปัจจุบัน มีเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานดับเพลิงและกู้ภัยอัตราเต็มจำนวน 42 อัตรา/สถานี เมื่ออ้างอิงกับมาตรฐานการปฏิบัติงาน จึงสามารถแบ่งกำลังการปฏิบัติงานได้เพียง 2 ชุดปฏิบัติการ ชุดละ 20 - 21 อัตรา เมื่อกำหนดได้เพียง 2 ผลัด จึงต้องปฏิบัติงานผลัดละ 24 ชม.เพื่อให้อีกผลัดที่ปฏิบัติงานแล้วได้พักเวร สลับหมุนเวียนกันไป

อย่างไรก็ตาม แม้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจะไม่ได้หยุดในวันเสาร์-อาทิตย์ หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์เช่นข้าราชการทั่วไป แต่สามารถหยุด หรือพักได้ในวันรุ่งขึ้นทันทีหลังจากการปฏิบัติงานโดยไม่ต้องคำนึงว่าเป็นวันหยุดราชการหรือไม่ ตลอดจนมีสิทธิในการลาต่าง ๆ เช่นเดียวกับข้าราชการประเภทอื่น ๆ และยังได้สิทธิมากกว่าข้าราชการอื่นในเรื่องการลากิจ หรือลาพักผ่อน เช่น ลาพักผ่อน 1 วัน (ในวันที่ต้องเข้าเวร) หากได้รับอนุมัติให้ลาจะสามารถหยุดต่อเนื่องได้ถึง 3 วัน เนื่องจากคาบเกี่ยวกับวันพักด้วย ส่วนกรณีวันหยุดนักขัตฤกษ์เทศกาลสำคัญ เช่น ปีใหม่ สงกรานต์ มีเหตุผลในการสั่งการจากผู้บังคับบัญชาโดยใช้หลักการระดมกำลัง 100% ในช่วงเทศกาล ทำให้ไม่สามารถลาได้ เนื่องด้วยที่ผ่านมาในช่วงวันหยุดเทศกาล ประชาชนจะจัดกิจกรรมและเดินทางออกนอกพื้นที่จำนวนมาก ทำให้สถิติการเกิดสาธารณภัยสูงกว่าปกติโดยภาระหน้าที่และความรับผิดชอบ จึงจำเป็นต้องเตรียมพร้อมกำลัง 100% เพื่อดูแลความปลอดภัยให้ประชาชน สำหรับกรณีการกำหนดห้ามลาเกินกว่า 2 วันทำการ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ สปภ.ลาหยุด 1 วัน จะได้หยุดงาน 3 วัน หากลา 2 วัน จะได้หยุดยาว 5 วัน หากไม่จำกัดการลา จะทำให้ขาดกำลังการปฏิบัติงานหากลาพร้อมกันหลายคน แต่ในประกาศได้กำหนดเพิ่มเติมว่า "ยกเว้นกรณีมีเหตุผลความจำเป็น" ซึ่งให้เป็นดุลยพินิจของผู้มีอำนาจอนุญาตในการพิจารณาจากเหตุผลด้วย จึงมิได้เป็นการจำกัดที่ตายตัวและไม่มีเหตุผลรองรับแต่อย่างใด นอกจากวันพักเวรซึ่งได้หยุดแล้ว ข้าราชการทุกคนทุกหน่วยยังสามารถใช้สิทธิการลาพักผ่อนได้ตามปกติไม่ได้ยกเว้น หรือห้ามข้าราชการของ สปภ.ใช้สิทธิลาแต่อย่างใด หากต้องการวันหยุดเพิ่มจากปกติ สามารถใช้สิทธิลาหยุดประเภทต่าง ๆ ตามระเบียบของทางราชการได้ นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานดับเพลิงและกู้ภัยทุกคนที่ผ่านการฝึกอบรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยขั้นพื้นฐาน จะได้รับสวัสดิการค่าตอบแทนผู้ปฏิบัติงานกู้ภัยเป็นประจำเทียบกับเงินประจำตำแหน่งในอัตราเดือนละ 5,000 บาท ซึ่งเป็นสวัสดิการที่พิเศษกว่าหน่วยอื่นและสามารถชดเชยสิทธิกันได้

ทั้งนี้ สปภ.ได้กำหนดแนวทางการปฏิบัติและข้อกำหนดต่าง ๆ บนพื้นฐานเหตุผลความจำเป็นและประโยชน์ของทางราชการเป็นหลัก รวมถึงหลักการแนวทางการปฏิบัติตามมาตรฐานและสถานภาพอัตรากำลังในปัจจุบัน เพื่อให้ภารกิจการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและมีความพร้อมสูงสุด โดยมิได้กำหนดให้เกินกว่าความสามารถในการปฏิบัติงาน หรือเกินความจำเป็นแต่อย่างใด แต่เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันการพัฒนางานด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สปภ.ได้ดำเนินการเพื่อให้การเข้าถึงที่เกิดเหตุรวดเร็วที่สุดและเป็นไปตามมาตรฐาน 8 นาที ขณะนี้อยู่ระหว่างการขออนุมัติเพิ่มกรอบอัตรากำลัง และเพื่อให้เกิดความเข้าใจในแนวทางเดียวกัน จะได้จัดประชุมชี้แจงหลักการและเหตุผลความจำเป็นในการดำเนินการให้แก่ข้าราชการในสังกัดทราบต่อไป

นายณัฐพงศ์ ดิษยบุตร หัวหน้าสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการกรุงเทพมหานคร (สำนักงาน ก.ก.) กทม.กล่าวถึงความคืบหน้าการปรับปรุงพัฒนาแนวทางการจ้างงานและระบบงานด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของ กทม.ว่า สำนักงาน ก.ก.ได้กำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาเรื่องวันเวลาการทำงานของสถานีดับเพลิง และเสนอคณะอนุกรรมการ (อ.ก.ก.) วิสามัญเกี่ยวกับยุทธศาสตร์การบริหารทรัพยากรบุคคลของ กทม. โดยมีมติที่ประชุมให้ปรับรูปแบบและเวลาทำงานตามมาตรฐานสากลที่นักดับเพลิงในต่างประเทศดำเนินการ และกำหนดสวัสดิการด้านที่พักอาศัยให้เพียงพอ ตลอดจนสร้างสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ดี พร้อมทั้งใช้การจ้างงานรูปแบบอื่น เพื่อลดภาระเจ้าหน้าที่ดับเพลิง เช่น การดำเนินภารกิจสนับสนุน การรักษาความปลอดภัยของอาคารสถานที่ การทำความสะอาด เป็นต้น แต่ สปภ.ไม่สามารถดำเนินการตามมติ อ.ก.ก.ฯ ได้ เนื่องจากไม่ได้รับจัดสรรงบประมาณการจ้างงานรูปแบบอื่น และอยู่ระหว่างจัดทำกฎหมาย เพื่อใช้ในการจ้างงานอาสาสมัคร ขณะเดียวกันได้จัดตั้งคณะทำงาน เพื่อพิจารณาเรื่องการปรับชั่วโมงทำงานของ สปภ. ซึ่งมีความเห็นให้ใช้การทำงานแบบ 24 ชม. พัก 24 ชม. (วันเว้นวัน) เนื่องจากผู้บริหารหน่วยงานต้องการให้มีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานต่อวันอย่างน้อยร้อยละ 50 ของจำนวนคนทั้งหมด และให้มีจำนวนคนทำงานต่อวันอย่างน้อย 15 คน ซึ่งเป็นจำนวนคนที่คณะทำงานพิจารณาว่า เป็นขั้นต่ำที่สามารถปฏิบัติงานให้ลุล่วงได้ตามมาตรฐานที่ สปภ.กำหนด

อย่างไรก็ตาม สำนักงาน ก.ก.ได้จัดประชุมหารือกับผู้บริหาร กทม.และ สปภ.เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง และได้ออกแบบชั่วโมงการทำงานให้มีความยืดหยุ่นและสอดคล้องกับคุณภาพชีวิตของเจ้าหน้าที่ โดยกำหนด ให้มีวันหยุดที่เหมาะสม พร้อมทั้งจัดทำร่างประกาศ ก.ก.เกี่ยวกับเวลาทำงาน โดยกำหนดให้ข้าราชการ กทม.ที่ปฏิบัติงานที่มีลักษณะพิเศษที่จะเข้าทำงานและเลิกงานตามวันเวลาทำงานปกติ รวมถึงงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ให้กำหนดวันเวลาทำงานปกติ ได้แก่ วันจันทร์ถึงวันอาทิตย์ ตามช่วงเวลาของหน่วยงาน โดยจะต้องมีเวลาทำงานไม่น้อยกว่าวันละ 8 ชม.หรือสัปดาห์ละไม่น้อยกว่า 40 ชม.และมีวันหยุดราชการประจำสัปดาห์อย่างน้อย 2 วัน ทั้งนี้ ให้หน่วยงานจัดทำคำสั่ง เพื่อกำหนดวันเวลาทำงานให้ชัดเจน โดยสำนักงาน ก.ก.จะเสนอร่างประกาศดังกล่าวให้ ก.ก.พิจารณาต่อไป ส่วนเรื่องการจ้างงานรูปแบบอื่น สปภ.อาจจะใช้การจ้างเหมาบริการรายบุคคล เพื่อสนับสนุนการให้บริการประชาชนในหน้าที่อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องและจะขยายผลไปยังสถานีต่าง ๆ ต่อไป

ที่มา: กรุงเทพมหานคร

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO