ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จัตตุฤทธิ์ ทองปรอน รักษาราชการแทนอธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา "ปัจจุบันโลกเราก้าวสู่ยุคสังคมดิจิทัล(Digital Economy) เทคโนโลยีมีการพัฒนาของไปอย่างรวดเร็ว ชีวิตประจำวันของผู้คนในสังคม มีการทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (E-Business) เพิ่มมากขึ้น เราเกี่ยวข้องและใช้ประโยชน์กับ คอมพิวเตอร์ และระบบสารสนเทศ (IT) ซึ่งเข้ามาอำนวยความสะดวกสบายในชีวิตประจำวันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่าสิ่งที่เป็นปัญหาตามก็คือการเกิดอาชญากรรมทางไซเบอร์ การหลอกลวงของกลุ่มมิจฉาชีพที่มีความรู้ด้านเทคโนโลยี ทำให้มีผู้คนจำนวนมากตกเป็นเหยื่อและสูญเสียทรัพย์สินไปเป็นจำนวนมาก ในฐานะของสถาบันการศึกษา ซึ่งตระหนักถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคม เรามีความตั้งใจในการเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ความร่วมมือกับ เอไอเอสในครั้งนี้จะเป็นส่วนสนับสนุน ให้เราได้ช่วยในการสร้างเกราะป้องกันให้กับประชาชน เกราะที่ว่านี้ก็คือความรู้และการรู้เท่าทันเทคโนโลยี เราจะทำอย่างไรให้ผู้คนเข้าถึงเกราะป้องกันนี้และสามารถเข้าถึง เกิดความเข้าใจและอยู่ร่วมกับเทคโนโลยีได้อย่างเกิดประโยชน์สูงสุด
และอีกหนึ่งปัญหาสำคัญก็คือปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์ หรือ E-Waste ที่มีอยู่รอบตัวเราซึ่งเป็นขยะอันตรายและมีแนวโน้มเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ หากไม่มีการกำจัดอย่างถูกวิธี ขยะเหล่านี้อาจก่ออให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพอนามัย ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สุขภาพและความปลอดภัยในระยะยาว ดังนั้นเราจำเป็นต้อง การตระหนักรู้ของประชาชน และเปิดช่องทางให้มีการจัดเก็บที่ถูกวิธีจะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์ลงได้ความร่วมมือครั้งนี้เราเริ่มต้นจากสถานศึกษาโดยการให้ความรู้ นำไปสู่ถ่ายทอดและส่งต่อไปยังสังคม ชุมชน และจะสามารถขยายวงกว้างขึ้น เชื่อมั่นว่าสิ่งเหล่านี้จะเป็นประโยชน์แก่ประชาชนอย่างแน่นอน"
นายอาทยา หยู่เย็น หัวหน้างานปฏิบัติการภูมิภาค - ภาคเหนือ AIS กล่าวว่า "เอไอเอส ในฐานะของผู้ให้บริการดิจิทัล เรายังมุ่งดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ครอบคลุมทั้งในมิติด้าน เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ผ่านการทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ทั้งภาครัฐและเอกชน โดยครั้งนี้เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ทำงานร่วมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ที่มีเครือข่ายและวิทยาเขตทั่วภาคเหนือ ในการทำงานร่วมกันเพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันภัยไซเบอร์ และทักษะการเป็นพลเมืองดิจิทัล ให้กับนักศึกษาและบุคลากรในเครือข่ายอย่างเป็นระบบ พร้อม ร่วมบูรณาการ การจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ อันจะเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยสิ่งแวดล้อมและโลกนี้ให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน" นายอาทยา กล่าวทิ้งท้าย