TK เผยธุรกิจเช่าซื้ออยู่ในภาวะสุญญากาศ ย้ำถือเงินสดในมือ พร้อมรุกตลาดเมื่อทุกอย่างชัดเจน

อังคาร ๑๓ มิถุนายน ๒๐๒๓ ๑๕:๐๒
บริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) หรือ TK ผู้ให้บริการเช่าซื้อรถจักรยานยนต์รายใหญ่ในประเทศไทย เผยธุรกิจเช่าซื้อรถจักรยานยนต์แข่งขันรุนแรง หนี้เสีย หรือ NPL จากข้อมูลสถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์ ล่าสุดสูงถึง 37% ในขณะที่ TK เดินนโยบายชะลอการปล่อยสินเชื่อในช่วงสูญญากาศ 2 ครั้ง ครั้งแรกก่อนการบังคับใช้ประกาศของ สคบ. ตั้งแต่ไตรมาส 3 ปีที่ผ่านมา ร่วมกับการใช้นโยบายตั้งสำรองฯ ที่เข้มงวด และ Coverage Raito สูงถึง 105% ส่วน TK มี NPL 7% ณ ไตรมาส 1 ชี้ธุรกิจเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ปี 2566 นี้ ยังมีภาวะสูญญากาศ ครั้งที่ 2 ในช่วงก่อนธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เข้าควบคุมธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์-จักรยานยนต์ อีกกว่า 3,000 ราย ทั่วประเทศ คาด พ.ร.ฎ. จะชัดเจนในไตรมาส 4 ปีนี้ ย้ำ TK เตรียมเงินสดพร้อมขยายพอร์ตเช่าซื้อทันทีที่ทุกอย่างชัดเจน

นายประพล พรประภา กรรมการและรองผู้จัดการ บริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) หรือ TK เปิดเผยว่า ตั้งแต่ไตรมาส 3 ในปี 2565 ที่ผ่านมา TK ได้ชะลอการปล่อยสินเชื่อรถจักรยานยนต์ในประเทศไทย เนื่องจากต้องการรอความชัดเจนเกี่ยวกับการประกาศเรื่อง "ให้ธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์เป็นธุรกิจที่ควบคุม สัญญา พ.ศ. 2565" เมื่อตุลาคม 2565 และเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 10 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งในภาวะสุญญากาศช่วงดังกล่าว ผู้ประกอบธุรกิจเช่าซื้อรถจักรยานยนต์มี 2 กลุ่ม คือ กลุ่มผู้ประกอบการที่เร่งปล่อยสินเชื่อช่วงชิงจังหวะที่ดอกเบี้ยเช่าซื้อยังคงลอยตัวเพื่อเร่งขยายพอร์ต และกลุ่มผู้ประกอบการที่ชะลอการปล่อยสินเชื่อ โดยคาดการณ์ว่าหลังเริ่มมีผลบังคับใช้ประกาศฯ อาจมีลูกค้าหยุดผ่อนชำระสินเชื่อที่ดอกเบี้ยสูง เพื่อมาขอกู้ดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า

หลังประกาศฯ ข้างต้นมีผลบังคับใช้ มีการคาดการณ์ว่าตลาดเช่าซื้อรถจักรยานยนต์จะชะลอตัวจากดอกเบี้ยที่มีเพดานกำหนดที่ 23% อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ไตรมาส 1 ที่ผ่านมากลับกลายเป็นว่ายังมีผู้ประกอบการหลายรายที่ยังแข่งขันกันรุนแรง เพราะต้องการแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาด โดยจะเห็นได้จากการรายงานผลประกอบการของผู้ประกอบการในตลาดหลักทรัพย์มีการเติบโตพอสมควรในไตรมาส 4 ปีที่ผ่านมา และในไตรมาส 1 ปีนี้ ยังคงเห็นการเร่งเติบโต

"ในปี 2566 นี้ การที่ ธปท. จะเข้ามากำกับดูแลธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์อีกกว่า 3,000 ราย ส่งผลให้มีสุญญากาศเกิดขึ้นในธุรกิจเช่าซื้อฯ อีกครั้ง เนื่องจากผู้ประกอบการรอดูท่าทีและแนวทางในการกำกับดูแลจากทาง ธปท. ซึ่งข่าวล่าสุดจากสื่อมวลชนรายงานความคืบหน้าว่า 1 พฤศจิกายน 2566 นี้ พ.ร.ฎ. จะมีผลบังคับใช้ โดย ธปท. จะเริ่มทำโฟกัสกรุ๊ปคล้าย ๆ การทำ Public Hearing เพื่อหารือเกี่ยวกับประกาศและแบบรายงานข้อมูล ซึ่งการควบคุมน่าจะเป็นเรื่องของการคอนดักท์ต่าง ๆ หาก ธปท. ออกกฎมาอย่างชัดเจน ก็จะง่ายต่อผู้ประกอบการ และเข้าใจชัดเจนเหมือนกันหมด เนื่องจากผู้ประกอบการทุกรายต้องดำเนินกิจการภายใต้กฎเดียวกัน" นายประพลกล่าว

ด้านหนี้เสีย หรือ NPL ในธุรกิจเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ จากการข้อมูลสถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์ ที่ได้ทำการศึกษาล่าสุดไว้เมื่อปี 2560 ซึ่งเป็นข้อมูลล่าสุดที่มีอยู่ รายงานว่า NPL ของธุรกิจเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ในประเทศสูงถึง 37% ซึ่งสอดคล้องกับรายงานตัวเลข NPL ของผู้ประกอบการสินเชื่อ PICO ล่าสุด ณ เดือนมิถุนายน 2565 ที่สูงถึง 33% ใกล้เคียงกับตัวเลขที่สถาบันป๋วยได้ทำการวิจัยไว้ เนื่องจากเป็นลูกค้ากลุ่มเดียวกัน อีกทั้งยังน่าจะสอดคล้องกับผู้ให้บริการเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ส่วนใหญ่ และสอดคล้องกับลูกหนี้เช่าซื้อรถยนต์ซึ่งมีรายได้สูง แต่มีรายงานว่าในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ มีรถยนต์ที่ถูกยึดสูงถึง 90,000 คัน และคาดว่าปีนี้จะมีรถถูกยึดมากถึง 200,000 - 250,000 คัน หลังจากหมดมาตรการพักชำระหนี้ทยอยครบตั้งแต่ไตรมาส 2 ปี 2565 นี้ แต่สำหรับ TK ถึงแม้ว่า NPL พอร์ตในประเทศจะขยับตัวขึ้นจาก 6.8% เป็น 8% ซึ่งเกิดจากการชะลอปล่อยกู้มาตั้งแต่ไตรมาส 3 ปีที่แล้วจนถึงปัจจุบัน จึงทำให้พอร์ตในประเทศหดตัว ส่งให้เปอร์เซ็นต์ NPL ดูเพิ่มขึ้นมาก แต่หากพิจารณาจำนวนเงินแล้ว ไม่ได้เพิ่มมาก จึงไม่ได้กังวลเรื่องดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ภาพรวม NPL พอร์ตเช่าซื้อของ TK ที่รวมยอดเช่าซื้อจากต่างประเทศและในประเทศเพิ่มขึ้นจาก 6.9% เป็น 7% ในไตรมาส 1 ปีนี้เท่านั้น โดยบริษัทฯ มีการตั้งสำรองถึง 7.5% หรือ 318 ล้านบาท โดยมี Coverage Ratio 105% (สัดส่วนการตั้งสำรองต่อหนี้เสีย) ซึ่งมีเกินความเพียงพอ

นายประพลคาดการณ์ว่า ตลาดเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ในประเทศจะคงทรงตัวในไตรมาส 2 และ ไตรมาส 3 แต่ตลาดเช่าซื้อฯ ในต่างประเทศที่ TK ดำเนินธุรกิจอยู่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง และคาดว่าเมื่อ ธปท. ทำโฟกัสกรุ๊ปแล้ว อาจจะมีการส่งสัญญาณเกี่ยวกับการกำกับดูแลธุรกิจเช่าซื้อฯ ว่าต้องการให้ปรับเปลี่ยนไปในทิศทางไหนและอย่างไร ซึ่งผู้ประกอบการจะได้เตรียมขยับปรับเปลี่ยนการดำเนินธุรกิจต่อไป

"ปัจจุบัน TK ถือเงินสด 2,101.3 ล้านบาท โดยไม่ต้องใช้เงินกู้ หรือออกหุ้นกู้แต่อย่างใด ทำให้ประเด็นดอกเบี้ยขาขึ้นไม่มีผลกระทบกับการดำเนินธุรกิจของเรา ทันทีที่ ธปท. ออกประกาศ พ.ร.ฎ. มีผลบังคับใช้อย่างชัดเจน เราพร้อมเดินหน้ารุกขยายตลาดเต็มที่ หลังจากชะลอการเร่งสร้างพอร์ตในประเทศให้เติบโต และเมื่อบริบทของการแข่งขันเปลี่ยน ผู้ประกอบการทุกรายก็ต้องแข่งขันภายใต้กฎระเบียบและการควบคุมเดียวกัน เรามั่นใจว่า ด้วยความเชี่ยวชาญ ความเข้าใจตลาดเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ และประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจมากว่า 50 ปี รวมทั้งการเดินกลยุทธ์ทางธุรกิจที่แตกต่าง TK จะสามารถสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน และเติบโตตามเป้าหมายที่ได้วางไว้ในระยะกลางและระยะยาว" นายประพลกล่าวทิ้งท้าย

ที่มา: แอบโซลูท พีอาร์

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ