ด้านไตรมาส 2/2566 คาดว่าจะเติบโตดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2566 โดยได้รับอานิสงส์จากราคายางที่ปรับตัวดีขึ้น และคำสั่งซื้อจากประเทศจีนนับแต่การเปิดประเทศ ซึ่งมีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันบริษัทมีการขายที่เตรียมส่งมอบสินค้าให้กับลูกค้าไปถึงไตรมาสที่ 4/2566 แล้ว
สำหรับการลงทุนก่อสร้างโรงงานยางแท่งและยางผสมแห่งที่3 กำลังการผลิต 172,800 ตัน บริษัทยังคงเดินหน้าขยายกำลังการผลิตสินค้าประเภทยางแท่งและยางแท่งผสม ปัจจุบันอยู่ระหว่างการปรับปรุงที่ดิน ซึ่งคาดว่าโรงงานจะสร้างเสร็จและเริ่มรับรู้รายได้ในปี 2567 ซึ่งภายหลังจากการขยายกำลังการผลิตดังกล่าว บริษัทจะมีกำลังการผลิตสินค้ารวมทั้งสิ้น 688,400 ตันต่อปี
นอกจากนี้ บริษัทยังมุ่งมั่นที่จะลดต้นทุนผลิตในการดำเนินงาน เนื่องจากการขยายกำลังการผลิตทำให้เกิดการประหยัดต่อขนาด (Economic of Scale) ทำให้บริษัทสามารถบริหารจัดการต้นทุนต่างๆ ภายในโรงงานได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงจะมีการนำพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้ภายในโรงงานแห่งที่ 3 เพื่อลดต้นทุนพลังงานเพิ่มเติมด้วย
ด้านนโยบายและกลยุทธ์ด้านความยั่งยืน บริษัทมีนโยบายดำเนินธุรกิจด้วยความคำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสียโดยยึดมั่นในหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีขององค์กร จริยธรรมธุรกิจ และการปฏิบัติตามกฎหมายและข้อกำหนดต่างๆ ด้วยคุณค่าความยั่งยืนที่เราจะส่งมอบโดยมีเป้าหมายในการพัฒนาที่ยั่งยืน ด้วยการ ส่งมอบผลิตภัณฑ์ธรรมชาติผ่านนวัตกรรมการผลิตที่มีคุณค่าควบคู่ไปกับการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อการเติบโตและมอบสินค้าไปยังผู้บริโภคด้วยรอยยิ้มและความสุข
โดยในปี 2566 บริษัทยังคงดำเนินโครงการด้านความยั่งยืนหลายโครงการอย่างต่อเนื่อง อาทิ โครงการห่วงโซ่อุปทานเพื่อความยั่งยืนปี 2 โครงการตลาดสีเขียว โครงการห้องสมุดเพื่อการเรียนรู้ โครงการ NER ร่วมใจลดขยะพลาสติก โครงการตรวจสุขภาพกลุ่มเปราะบาง โครงการส่งสุขความรู้สู่ดวงใจพนักงานผ่านคาราวานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นต้น เพื่อสร้างประโยชน์ให้แก่ชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปพร้อมกับการเติบโตอย่างยั่งยืนของบริษัท
ที่มา: ธามดี พลัส