นายปนายุ ศิริกระจ่างศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีบีเอ็น คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TBN กล่าวว่า บริษัทฯ พร้อมเข้าซื้อขายเป็นวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) กลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยี (TECH) ในวันที่ 19 มิถุนายน 2566 ในชื่อย่อหลักทรัพย์ว่า "TBN" นับเป็นอีกก้าวสำคัญสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน ในฐานะหนึ่งในผู้นำการพัฒนาและให้บริการด้าน Digital Solutions ด้วยวิสัยทัศน์ มุ่งมั่นสู่การเป็นผู้นำการขับเคลื่อนธุรกิจด้วย Low-Code และ AI-Driven ที่เป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้าง Digital Transformation เพื่อยกระดับธุรกิจคู่ค้าให้ไปสู่ระดับภูมิภาค
ด้วยจุดเด่นของ TBN มีประสบการณ์ในการพัฒนาซอฟต์แวร์ผ่าน Low-Code มากว่า 15 ปี และยืนหนึ่งเป็นผู้นำด้านแพลตฟอร์ม MENDIX Low-Code ของประเทศไทย และปัจจุบันมีเพียงรายเดียว สอดรับอนาคตการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่เป็นเทรนด์ของโลก และมีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ ยังสามารถให้บริการงานพัฒนาระบบครอบคลุมแบบ High Code ทำให้ได้เปรียบในเชิงกลยุทธ์และตอบสนองได้ตรงต่อความต้องการของลูกค้าหลากหลายรูปแบบ สนับสนุนให้ TBN เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว มีอัตราการเติบโตเฉลี่ย (CAGR) อยู่ที่ 31.60% ตอกย้ำความเป็นผู้นำในธุรกิจ Tech Company
"ปัจจุบันทั่วโลกกำลังประสบปัญหาการขาดแคลนโปรแกรมเมอร์ ขณะที่เทรนด์การทรานส์ฟอร์มองค์กรสู่ดิจิทัลสูงขึ้น การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวทำให้องค์กรต้องมีการพัฒนาแอปพลิเคชันเพิ่มขึ้น แต่บุคลากรในการพัฒนาไม่เพียงพอ จำเป็นต้องมีเครื่องมือช่วย ดังนั้น Low-Code Platform จะเข้ามาเปลี่ยนอนาคตการพัฒนาซอฟต์แวร์ ทำให้เรามีโอกาสเติบโตในตลาดนี้อีกจำนวนมาก เนื่องจากปัจจุบัน Low-Code ยังไม่ได้ถูกใช้อย่างแพร่หลายในประเทศไทย เราจึงเล็งเห็นโอกาสทางธุรกิจในการนำ MENDIX มาสร้างเป็นโซลูชัน เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว คุ้มค่า และทันเวลา" นายปนายุ กล่าว
สำหรับแผนขยายธุรกิจที่จะดำเนินการต่อเนื่องหลังจากเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เตรียมนำเงินที่ได้จากการระดมทุนจำนวนประมาณ 425 ล้านบาท ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการขยายธุรกิจ รวมถึงการเพิ่มศักยภาพและความสามารถในการแข่งขัน เพื่อรองรับการเติบโต รวมถึงการสร้างบุคลากรไอทีเพิ่มเติม อีกทั้ง ล่าสุดบริษัทฯ ได้ร่วมกับ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า) และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา ร่วมมือส่งเสริมและสนับสนุนการสร้างบุคลากรในอุตสาหกรรรมดิจิทัลและพัฒนาทักษะสู่ยุคดิจิทัลในโครงการ "TBN Mendix Academy" โดยตั้งเป้าสร้างบุคลากรเพิ่มเติมได้ 1,000 คน ภายในปี 2569 รองรับโอกาสของตลาดเทคโนโลยีที่ขยายตัว
นางสาวเดือนพรรณ ลีลาวิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพโอเนีย แอดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า TBN เป็นอีกหุ้นน้องใหม่ที่เรามั่นใจว่า จะสามารถสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจให้กับนักลงทุนได้ เนื่องจากมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ประกอบกับ ประสบการณ์ในฐานะผู้นำในธุรกิจเทคโนโลยีและดิจิทัลโซลูชั่นของประเทศไทยที่มีศักยภาพและความพร้อมในการเติบโตไปกับกระแสของการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น (Digital Transformation) ขององค์กรต่างๆ ที่ต้องการนำเทคโนโลยีเข้ามาเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน
ชู Low-Code Platform เป็นจุดแข็งที่ทำให้ TBN แตกต่าง เนื่องจากช่วยให้ผู้ประกอบการที่ต้องการปรับเปลี่ยนแผนงานและธุรกิจได้อย่างคล่องตัวและรวดเร็วยิ่งขึ้น ตอบรับสังคมยุคดิจิทัลและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ทำให้บริษัทฯ ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า ส่วนใหญ่เป็นองค์กรชั้นนำขนาดใหญ่ในหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรม เช่น กลุ่มสถาบันการเงิน ประกัน และค้าปลีก รวมทั้ง โอกาสขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ ได้เพิ่มเติม ขณะที่ ผลประกอบการมีรายได้ต่อเนื่อง (Recurring Income) ณ สิ้นปี 2565 อยู่ในสัดส่วนระดับสูงมากกว่า 50% ทำให้นักลงทุนเชื่อมั่น จึงมั่นใจว่า TBN จะเป็นผู้นำบริษัทด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น ที่สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีต่อนักลงทุนในระยะยาวได้
นายธีรฉัตร ศิลปสนธยานนท์ ผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายร่วม กล่าวว่า ในช่วงระยะเวลาเสนอขายหุ้นสามัญแก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 25 ล้านหุ้น ระหว่างวันที่ 12 - 14 มิถุนายน ที่ผ่านมา มีนักลงทุนให้ความสนใจจองซื้อเข้ามาเป็นจำนวนมาก สะท้อนความเชื่อมั่นที่มีต่อบริษัทฯ และการกำหนดราคา IPO ที่ราคาเสนอขายหุ้นละ 17 บาท ถือเป็นระดับราคาที่เหมาะสม
ด้านนางสาววีรยา ศรีวัฒนะ หัวหน้าฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายร่วม กล่าวว่า เงินระดมทุนครั้งนี้ จะสนับสนุนให้ TBN สามารถขยายการให้บริการพัฒนาแอปพลิเคชันของบริษัทฯ และขยายขอบเขตการขายลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ (License) ไปสู่กลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมอื่นๆ ได้อย่างครอบคลุม เช่น อุตสาหกรรมการผลิต อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงกลุ่มลูกค้าในภูมิภาคเอเชีย เพื่อสร้าง Platform Solution และต่อยอดการให้บริการ MENDIX สำหรับสถาบันการเงิน การธนาคาร ธุรกิจประกันภัย และอุตสาหกรรมอื่นๆ สร้างฐานลูกค้าใหม่ รวมถึงการเพิ่มยอดขายในลูกค้าเก่า ตอกย้ำ TBN คือหนึ่งในผู้นำการพัฒนาและให้บริการด้าน Digital Solutions ที่เติบโตอย่างมั่นคงในอนาคต และเป็นหนึ่งในหุ้นเทคโนโลยีที่อยู่ในใจของนักลงทุนในระยะยาวได้
ที่มา: ไออาร์ พลัส